มาชาร์จไฟหน่อยไหม

0

เรื่องของเรื่องคือ… เจ้ากบเวอร์ชัน JDM ที่สั่งมาจากญี่ปุ่น เกิดหน้าจอดับสนิท  แต่ยังดีที่มีคำว่า Charging กระพริบให้ใจชื้น ประมาณว่ายังไม่ถึงกับตาย แค่ชีพจรริบหรี่ ก็เลยต้องหาวิธีในการชุบชีวิตขึ้นมาให้ได้ เลยวิ่งวุ่นเปิดเน็ตหาข้อมูลเกี่ยวการชาร์จกระแสไฟฟ้าในระบบ Tough Solar เพื่อคืนชีพให้กับ Master Blue ของผมสักหน่อย มาถึงมืออาการโคม่า หน้าจอดับสนิทเพราะกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลดเหลือระดับต่ำมาก Level 4

มาชาร์จไฟหน่อยไหม
มาชาร์จไฟหน่อยไหม

มาชาร์จไฟหน่อยไหม : Tough Solar หรือ Eco-Drive

- Advertisement -

แน่นอน…แฟนๆ ของ Casio โดยเฉพาะในยุคนี้ต้องคุ้นเคยกับคำว่า Tough Solar กันอยู่แล้ว  โดยเฉพาะในบอร์ดของเราเรียกกันติดปากว่า รุ่นกินแสง’ หรือใช้แสงในการสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านทางโซลาร์ เซลล์เพื่อส่งเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่หรือตัวเก็บประจุในบางระบบ เช่น Solar ของ Seiko หรือ Eco-Drive ของ Citizen นั่นเอง

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Tough Solar กันหน่อยละกัน ส่วนข้อมูลที่ได้มา หากตกหล่นประการใด ก็บอกกล่าวกันได้ครับ

Tough Solar เป็นระบบการใช้ ‘แสง’ ชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ หรือ Rechargable ต่างจากแบตเตอรี่แบบใช้แล้วหมดเลย และต้องเปลี่ยนใหม่ของรุ่นที่ไม่มี Tough Solar

พูดง่ายๆ ก็เหมือนถ่าน AA หรือ AAA ที่ใช้กันอยู่ ซึ่งก็มีทั้งแบบใช้แล้วทิ้งกับแบบชาร์จได้  เพียงแต่ระบบ Tough Solar ใช้แสงอาทิตย์ไม่ได้เสียบปลั๊กไฟบ้านชาร์จผ่านเครื่องชาร์จเหมือนกับถ่าน AA หรือ AAA Casio นำระบบนี้มาใช้ครั้งแรกในปี 1998 และรุ่นที่ถูกนำมาติดตั้งก็คือ DW9300 หรือ Raysman เจ้าค้างคาวไฟนั่นเอง (ข้อมูลจาก www.casio-intl.com) โดยแผ่นโซลาร์เซลล์จะเป็นแผงที่ถูกออกแบบมาให้เป็นในส่วนของพื้นหน้าปัดของนาฬิกาเลย ตรงนี้สังเกตได้ชัดเจนถึงความแวววาวและความเงา

ยกเว้นรุ่นที่เป็นเข็มอย่างพวก Giez และ Gravity Defier จะถูกออกแบบให้กลมกลืนไปกับพื้นของแผงหน้าปัด ชนิดดูไม่ออก เรียกว่าถ้าไม่บอกไม่รู้

แสงที่จะใช้ในการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับนาฬิกานั้น เท่าที่อ่านดูไม่ได้มีการจำกัดแค่แสงอาทิตย์ แต่ยังรวมถึงแสงอื่นด้วย เช่น แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือแสงสว่างในตอนกลางวัน (แต่ไม่จำเป็นต้องตากแดด) ก็ยังสามารถใช้ชาร์จได้ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการสะสมพลังสักหน่อย เพราะค่าความสว่างของแสง (Illumination) หรือ Lux ต่ำกว่าแสงอาทิตย์ ซึ่งแสงแต่ละแบบก็มีค่า Lux แตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่แสงแดดเอง ระหว่างอยู่กลางแจ้งกับส่องผ่านทางหน้าต่างก็มีค่า Lux ไม่เท่ากัน

การใช้งานนาฬิกาที่มี Tough Solar ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรสำหรับคนที่มีนาฬิกาไม่เยอะมาก แต่พวกนักสะสมประเภทของเต็มกรุ งานนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะระบบนี้จำเป็นจะต้องโดนแสงเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่เพื่อชดเชยกับกระแสไฟฟ้าที่ถูกนำออกไปใช้ในการหล่อเลี้ยงระบบ

เรียกว่าถ้าไม่ค่อยได้ใส่เลย กระแสไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่ก็จะถูกใช้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการชาร์จจนกระทั่งหมด
ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงบางคนจะใส่ทุกวัน แต่ถ้าเป็นประเภทใช้ชีวิตยามค่ำคืน ก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะเท่ากับว่านาฬิกาไม่ได้โดนแสงเลย

มาชาร์จไฟหน่อยไหม มาชาร์จไฟหน่อยไหม
มาชาร์จไฟหน่อยไหม มาชาร์จไฟหน่อยไหม

ตามแมนนวลของ Casio ระบุถึงระยะเวลาที่นาฬิกาประเภท Tough Solar สมควรจะโดนแสงต่อวัน เพื่อชดเชยกับปริมาณกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ซี่งถูกใช้ไปต่อวันในสภาพการใช้งานปกติของนาฬิกาในระดับที่เท่าหรือใกล้เคียงกัน
นั่นหมายถึงใน 1 วันนาฬิกาควรโดนแสงแดดกลางแจ้งประมาณ 5 นาที หรือไม่ก็ 24 นาทีสำหรับแสงแดดที่ส่องผ่านทางหน้าต่างที่มีค่าความสว่างต่ำลงมา (ดูได้จากตาราง)

ในกรณีที่แบตเตอรี่ถูกชาร์จจนเต็ม  ระดับของแบตเตอรี่สามารถลดลงจากระดับ 1 จนมาอยู่ที่ระดับ 4 (ระดับของ Tough Solar มี 5 ระดับ คือ 1 สูงสุด และ 5 ต่ำสุด) โดยใช้ระยะเวลา 8 เดือน ในกรณีที่นาฬิกาไม่โดนแสงเลยหรือหมายถึงถูกเก็บเข้ากรุหรือลิ้นชัก

ระดับ หรือ Level ของ Tough Solar นั้นเมื่อดูจากหน้าจอเราอาจจะเจอแค่ 3 ระดับเท่านั้น คือ L-M-H แต่ความจริงแล้วมีด้วยกัน 5 ระดับ คือ 1-5

ระดับ 1 และ 2 เข็มแสดงผลจะอยู่ที่ตำแหน่ง H และ M ตามลำดับ ทุกฟังก์ชั่นของนาฬิกาทำงานปกติ

ระดับ 3 เข็มจะอยู่ที่ L และมีการกระพริบเตือนให้ชาร์จไฟ การแสดงผลเวลายังปกติเช่นเดียวกับโหมดจับเวลา  แต่สำหรับนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นเยอะ เช่น เจ้ากบ โหมดดำน้ำ เสียงเตือนต่างๆ และถ้าเป็นรุ่นปรับเวลาตามคลื่นวิทยุได้ ระบบเหล่านี้จะไม่ทำงาน

ระดับวิกฤต คือ 4 และ 5  ซึ่งระดับ 4 หน้าจอดับและจะมีคำว่า Charging กระพริบ การแสดงเวลาและโหมดเตือนการชาร์จยังทำงาน แต่ไม่แสดงผล  และทุกฟังก์ชั่นไม่สามารถทำงาน (ซึ่ง Master Blue ตอนที่มาถึงมือผมอยู่ในระดับนี้ ) ส่วนระดับ 5 คือ ทุกอย่างเงียบเชียบ หรือนาฬิกาตายนั่นเอง นาฬิกายังสามารถชาร์จได้ แต่ข้อมูลทั้งหมดหาย ต้องเซ็ตเวลากันใหม่

ส่วนในกรณีของนาฬิกา Tough Solar ที่เป็นเข็มล้วนๆ ไม่มีหน้าจอดิจิตอย่าง G1200
ก็ให้สังเกตลักษณะการเดินของเข็มวินาทีแทน ซึ่งในแมนนวลจะมีอธิบายบอกเอาไว้ว่าถ้าเข็มวินาทีเดินแบบกระโดดทีละ 2 วินาที หมายความว่าอย่างไร

แน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าปล่อยให้ถึงระดับ 5 แล้วแบตเตอรี่จะพังหรือเปล่า  แต่ถ้าในมุมมองของผม คิดว่า ไม่น่าจะพังแบบทันที แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆ หรือทำอย่างนี้บ่อยๆ โอกาสที่แบตเตอรี่จะเสื่อมจนพังก็คงมีสูง … ใครทราบข้อมูลตรงนี้วานบอก

ในเรื่องของการชาร์จไฟนั้น หลายท่านคงจับเอาใส่น้ำเพื่อลดความร้อนแล้วทิ้งเอาไว้กลางแดดตรงๆ
ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่ดีในแง่ของความรวดเร็วในการชาร์จ  แต่สิ่งที่พึงระวังคือ การแสดงผลระดับของแบตเตอรี่บนหน้าจอกับระดับในความเป็นจริง ซึ่งจะไม่ตรงกัน ในแมนนวลของ Casio บอกว่าการรับแสงแดดหรือเอาไฟมาจ่อโดยตรงนั้น
จะทำให้แผงโซลาร์ได้รับไฟอย่างเต็มที่ แต่จะแสดงผลผ่านตัว Indicator ด้วยค่าชั่วคราวซึ่งจะสูงกว่าระดับแห่งความเป็นจริงในแบตเตอรี่ ถ้าอยากจะรู้ว่าค่าจริงเป็นอย่างไร ก็ให้นำนาฬิกาออกมาทิ้งไว้สักครู่ แล้วตัว Indicator ก็จะปรับระดับเอง

มาชาร์จไฟหน่อยไหม มาชาร์จไฟหน่อยไหม
มาชาร์จไฟหน่อยไหม มาชาร์จไฟหน่อยไหม