Tudor New Watches Presentation 2022 สัมผัสนาฬิกาหลากรุ่นใหม่ที่น่าใจ

0

Tudor จัดงาน New Watches Presentation 2022 พร้อมนำนาฬิการุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ มาให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกัน เพื่อสัมผัสกับความโดดเด่นของเรือนเวลาเหล่านี้กันอย่างใกล้ชิด

- Advertisement -

Tudor New Watches Presentation 2022

Tudor New Watches Presentation 2022 สัมผัสนาฬิกาหลากรุ่นใหม่ที่น่าใจ

  • งาน Tudor New Watches Presentation 2022 ที่จัดขึ้นในเมืองไทยเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสนาฬิการุ่นใหม่

  • ผลผลิตจากคอลเล็กชั่น Black Bay ยังคงเป็นกลุ่มหลักของนาฬิกาใหม่ในปีนี้

  • อีก 2 รุ่นที่เปิดตัวคือ นาฬิกาผู้หญิงในรุ่น Royal

หลังจากผ่านพ้นการจัดงานใหญ่ที่ Geneva ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Watches and Wonders 2022 มาได้ไม่นาน ทาง Tudor ได้นำนาฬิการุ่นใหม่จากงานส่งตรงมาที่เมืองไทยเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับความสวยงาม และความสปอร์ตของนาฬิกาใหม่หลากหลายรุ่นที่ถูกสร้างสรรค์ตามคอนเซ็ปต์ #BORNTODARE

แน่นอนว่าในปีนี้ กลุ่มนาฬิกาใหม่ๆ ยังถูกเน้นไปที่ Black Bay ที่ถือว่าเป็นคอลเล็กชั่นหลักของแบรนด์ ซึ่งกว่า 90% ของนาฬิกาที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้มาจากคอลเล็กชั่นนี้ และมีเพิ่มเติมอีก 2 รุ่นที่มาจากคอลเล็กชั่น Royal สำหรับสุภาพสตรี

ก่อนที่จะมีการเริ่มงาน สื่อมวลชนได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ Presentation ของ Tudor ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้ในงาน Watches and Wonders 2022 สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่แบรนด์พุ่งเป้าตรงที่ไปที่คนรุ่นใหม่ ด้วยแนวทางในการนำมรดกที่ส่งต่อกันมาจากอดีตนับจากการก่อตั้งแบรนด์ในปี 1926 มาเพิ่มเติมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้เหนือกว่าจากที่เคยมีมา โดยที่ไม่สูญเสียตัวตนที่เคยมีมาในอดีต

#BORNTODARE เป็นสิ่งที่น่าสนใจของ Tudor และถูกใช้มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว โดยยังเป็นแคมเปญหลักที่ถูกใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตอนนี้ที่มี David Beckham เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เด่นและสะท้อนภาพอะไรหลายอย่างออกมาทั้งในและนอกสนาม อีกทั้ง Beckham คือ ตัวแทนของกลุ่มคนที่ถูกนิยามว่าเป็น Metrosexual หรือผู้ชายที่ชื่นชอบการแต่งตัวและสำอาง ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มลูกค้าใหม่ของแบรนด์

Tudor New Watches Presentation 2022Tudor New Watches Presentation 2022

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะตั้งคอนเซ็ปต์มาสวยหรูขนาดไหน ก็ต้องมีความสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา Tudor นำเสนอนาฬิกาที่มีความแตกต่างและโดดเด่นโดยนำเสนอในเรื่องของการปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย (Spirit of Adventure) ที่มีอยู่ในตัวให้ลุกโชนขึ้น ที่ผมค่อนข้างแฮปปี้มากกับความตั้งใจของ Tudor คือ พวกเขานิยามตัวเองเป็นนาฬิกาที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมในเชิงเทคนิคและนวัตกรรม มีกลิ่นอายของการส่งต่อกลิ่นอายที่เป็นมรดกตกทอดของแบรนด์ แต่ทว่าจะอยู่ในช่วงราคาที่สามารถเข้าถึงได้ นี่แหละคือ สิ่งที่จะทำให้การเข้าถึงและจับต้องนาฬิกาของ Tudor นั้นง่ายขึ้น

แน่นอนว่าในแง่ของความเป็นแบรนด์ Tudor สอบผ่านอยู่แล้ว แม้ว่าจะยังมีเสียงค่อนขอดในเรื่องของความเป็นแบรนด์พี่แบรนด์น้องในอดีตที่ถูกสะท้อนออกมาในนาฬิกาบางรุ่นก็ตาม แต่ถึงตอนนี้พวกเขามีความชัดเจนจนแยกจากกัน นวัตกรรมที่พวกเขามีก็ผ่านอย่างแน่นอน อีกทั้งการที่มีราคาซึ่งเข้าถึงง่ายบวกกับความคุ้มค่าของสิ่งที่ลูกค้าได้มากับการจ่ายออกไป ผมว่า ตรงนี้แหละคือ สิ่งที่ทำให้ Tudor สามารถสร้างฐานลูกค้าได้อย่างกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาพยายามสื่อออกมาผ่านทางภาพยนตร์ Presentation รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบให้ไซส์เล็กลง โดยเฉพาะในกลุ่มนาฬิกาขนาดตัวเรือน 39 มิลลิเมตร และกลับกลายเป็นว่าถูกใจทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงไปเลย

Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022

สำหรับนาฬิการุ่นใหม่ของ Tudor ที่เปิดตัวออกมาในงาน Watches and Wonders 2022 มีหลายรุ่นและทางแบรนด์ก็นำมาให้สัมผัสกันอย่างเต็มที่ โดยมี 2 รุ่นคือ นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีอย่างรุ่น Royal ที่มากับตัวเรือน 28 มิลลิเมตร ที่ใช้หน้าปัด Mother of Pearl ขอบตัวเรือนฝังเพชร และมีทั้งแบบสตีลและแบบทูโทน คือ สตีลและโกลด์ ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ได้อย่างสวยและดูโดดเด่น

แต่ที่กลายเป็นพระเอกและอยู่ในกระแสความสนใจของแฟนๆ ทั่วโลก รวมถึงคนไทยคือ Tudor Black Bay Pro ที่มาพร้อมกับตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร และกลไกอัตโนมัติ GMT ชุดเดียวกับ Black Bay GMT กลไกชุดนี้มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer และสำรองกำลังงาน 70 ชั่วโมง

ไฮไลท์ที่น่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้นอกเหนือจากรูปลักษณ์และขนาดที่กำลังดีพร้อมทางเลือกของสายที่มีทั้งสายสตีล สายผ้าแจ็คการ์ด และสายหนังนั้น คือ การผลิตหลักชั่วโมงและพรายน้ำบนหน้าปัด ซึ่งเป็นการนำสารเรืองแสงผสมเข้ากับเซรามิกก่อนที่จะหล่อขึ้นรูปมาเป็นหลักชั่วโมง ตรงนี้ทำให้ความสามารถในการเรืองแสงมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของพื้นที่ใกล้เคียงกัน รวมถึงยังทำให้การเรืองแสงดูมีมิติมากกว่าการเคลือบสารเรืองแสงลงบนเบ้าหลักชั่วโมงเหมือนกับนาฬิกาทั่วไป

Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022

ในกลุ่มของ Black Bay Chrono ก็จะมีรุ่น S&G หรือ Steel and Gold ที่มาพร้อมกับหน้าปัดสีแชมแปญที่ดูสวยและมีมิติ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่สังเกตจากหลายรุ่นที่ผ่านมา เพราะนาฬิการุ่นนี้จะมากับหน้าปัดที่ตรงส่วนขอบนอกจะโค้งลง เพื่อทำให้ตัวหน้าปัดดูเหมือนกับถูกยกขึ้นมา แต่เมื่อมองด้วยตาเปล่าอาจจะมองไม่เห็นเพราะด้วยสีสันที่ทำให้ดูกลมกลืน แต่พอเป็นรุ่น S&G ด้วยสีสันของหน้าปัดทำให้ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่า

อีกรุ่นคือการเพิ่มสีสันใหม่ให้กับ Black Bay GMT ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 โดยจะมาในโทนหน้าปัดดำ ขอบตัวเรือน GMT ถูกแบ่งออกเป็นสีน้ำตาล-ดำ และใช้สีทองในการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ บนตัวเรือน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า การจับคู่สี การเลือกสี และการใช้สีของทีมออกแบบของ Tudor คือเบื้องหลังในการสร้างสรรค์ความสวยงามในครั้งนี้อย่างแท้จริง

Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022
Tudor New Watches Presentation 2022 Tudor New Watches Presentation 2022

นั่นคือ คอลเล็กชั่นที่เชื่อว่าเป็นไฮไลท์ของใครหลายคน แต่นาฬิกา Black Bay รุ่นปกติแบบไม่มีขอบตัวเรือนหมุนได้กลับกลายเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างสนใจในงานวันนี้ และสุดท้ายหลังจากที่ได้ลองแล้ว กลายเป็นว่าตัวเองชื่นชอบไปแบบไม่รู้ตัว ซึ่งตามปกติแล้ว ผมไม่ค่อยมองนาฬิกาที่มีรูปทรงในสไตล์นี้สักเท่าไร เพราะชอบแต่พวกกลุ่มสปอร์ตที่มีขนาดตัวเรือนค่อนข้างใหญ่ แต่สำหรับ Tudor Black Bay รุ่นธรรมดาที่มากับเวอร์ชัน S&G และมีการปรับขนาดใหม่ทั้ง 31//36/39/41 กลับมีความน่าสนใจในหลายๆ เรื่อง

ทั้งการออกแบบเพื่อให้สวมใส่ได้ดีขึ้น การใช้กลไกที่มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ที่มีความแตกต่างในแง่ของระดับกำลังสำรอง โดยที่มีรุ่น 31 มิลลิเมตรเป็นรุ่นที่ใช้กลไกไซส์เล็กสุด คือ MT5201 มีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง ขณะที่รุ่นอื่นอยู่ที่ 70 ชั่วโมง การใช้สายที่มาพร้อมกับตัวปรับละเอียดแบบ T-Fit ซึ่งใช้งานง่ายและสะดวกในการปรับให้ตัวนาฬิการัดกระชับกับข้อมือของผู้สวมใส่

ผมได้ลองรุ่น 39 และ 41 มิลลิเมตร ซึ่งตามปกติแล้ว ตัวเองมักจะไม่ได้สนใจนาฬิกากลุ่มนี้สักเท่าไร เพราะชอบนาฬิกาเรือนใหญ่ขนาด 42 มิลลิเมตรขึ้นไป แต่หลังจากที่ได้ลองขึ้นข้อแล้ว ต้องบอกว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปเลย ดีไซน์มีผลทำให้ความรู้สึกว่านาฬิกาเรือนที่อยู่บนข้อมือมือผมนั้นลงตัว แม้ว่าจะมีขนาด 39 หรือ 41 มิลลิเมตรก็ตาม การปรับความโค้งของตัวเรือนโดยเฉพาะส่วนที่แนบกับข้อมือทำให้นาฬิกาสวมสบายมาก และต้องยอมรับว่าบานพับที่มีระบบ T-Fit ทำให้การปรับขนาดง่ายและสะดวก ไม่ต้องใช้เครื่องมือในการกดสปริงบาร์เพื่อเปลี่ยนช่องเหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไป ตัวล็อกสายที่ใช้ระบบลูกปืนที่ผลิตจากเซรามิก ทำให้มีความทนทานและไม่ทำให้เกิดรอยที่ด้านในของตัวล็อกสาย คือ อีกเอกสิทธิ์ที่มีอยู่ในนาฬิกาของ Tudor

ผมว่าสิ่งเหล่านี้คือ รายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในตัวนาฬิกาที่ในบางครั้งเมื่อได้ทราบและได้ลองแล้ว จะทำให้มุมมองหรือความคิดเปลี่ยนไปทันทีเลย และไม่น่าแปลกใจเลยว่าในบางครั้งการนั่งดูภาพหรือการอ่านเพียงรายละเอียดเพียงอย่างเดียวนั้น น่าจะยังไม่พอในการสร้างแรงกระเพื่อมในด้านความอยากให้กับคนที่อยากเสียเงินได้มากเท่ากับการได้สัมผัสและลองตัวเรือนจริงๆ ของนาฬิกาเรือนนั้นๆ

และแน่นอนว่า ถ้าเปลี่ยนสถานะของตัวเองจากสื่อมวลชนเป็นลูกค้า หลังจากที่ได้ลองจับ สัมผัส ขึ้นข้อ นาฬิการุ่นต่างๆ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของ Tudor ในงานนี้แล้ว ผมเชื่อว่าตัวเองน่าจะต้องลงชื่ออยู่ใน Interesting List ของแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 3 เรือนอย่างแน่นอน