อีกเวอร์ชันของการจับมือกันระหว่าง Citizen กับ Toho ผู้ถือสิทธิ์ในตัวละครเรื่อง Godzilla ซึ่งเป็นชื่อที่คนทั่วโลกต่างคุ้นเคย และครั้งนี้พวกเขานำเสนอผ่านนาฬิกาดำน้ำตัวบึกที่มีความสวยงามอย่าง Ecozilla และมาพร้อมกับหน้าปัดที่มีให้เลือกทั้งสีเทาที่มีการผลิต 2,500 เรือน และสีแดง 3,000 เรือน ซึ่งดีไซน์โดยรวมต้องบอกเลยว่า งานนี้ Citizen ทำได้ดีมาก และทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง
Citizen Promaster x Godzilla 2024 จะแฟนหรือไม่ใช่แฟนก็ต้องสอยเข้ากรุ
-
คอลเล็กชั่นล่าสุดที่ Citizen จับมือกับ Godzilla บนตัวเรือนนาฬิกาดำน้ำ 300 เมตร
-
บนตัวเรือนขนาด 48.2 มิลลิเมตรมีการรมดำและสลักสลายผิวของ Godzilla ลงไปอย่างสวยงาม
-
มีจำหน่าย 2 สีหน้าปัด คือ สีเทาผลิต 2,500 เรือน และสีแดง 3,000 เรือน
การที่ Citizen จัดการทำ Collaboration กับอะไรก็ตามแต่ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา อย่างฝั่งอเมริกา ขาประจำของพวกเขาก็จะมีทั้ง Disney และ Marvel ขณะที่ฝั่งญี่ปุ่น มีอยู่ตัวละครหนึ่งที่คนทั่วโลกรู้จัก และในรุ่นที่แล้วพวกเขาเลือกเปิดตัวในแบบ JDM ซึ่งมีขายเฉพาะในญี่ปุ่น แต่สำหรับรุ่นใหม่ ไม่ได้มีการจำกัดพื้นที่ในการจำหน่ายอีกต่อไป เปิดขายในตลาดทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงเมืองไทยด้วย…ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง Citizen Promaster x Godzilla 2024 ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาในตลาดเมืองไทยเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ย้อนความกันสักนิดสำหรับนาฬิการุ่นนี้ แต่เดิม Citizen กับ Godzilla เคยมีการร่วมมือกันและเปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งครั้งนั้นเป็นการเลือกใช้รุ่น Promaster Diver ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำแบบเม็ดมะยมอยู่ฝั่งซ้ายไซส์ 42 มิลลิเมตร โดยเปิดตัวออกมา 2 รุ่นคือหน้าเทา และหน้าแดงที่มีการผลิตออกสู่ตลาด 500 เรือน โดยอ้างอิงลายเส้นและตัวละครของ Godzilla จากตอน SP หรือ Singular Point ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นตอนใหม่ล่าสุดที่ถูกออกอากาศทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่นโดยจะมีด้วยกัน 13 ตอน
ตอนนั้นเป็นแค่ JDM ที่มีขายเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งส่วนตัวผมว่าการเลือกนาฬิกากับตัวละครดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไร เพราะ Godzilla คือ King of Monster ขนาดตัวใหญ่และความสามารถสุดเทพ แต่นาฬิกาที่นำมาใช้ในการ Collaboration ดูเรือนจะเล็กไปหน่อย จนกระทั่งการมาถึงของ Citizen Promaster x Godzilla 2024 รุ่นนี้แหละ ที่เรียกว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวและเหมาะสม ทั้งในเรื่องของจังหวะเวลาและตัวนาฬิกา
เพราะ Godzilla มีอายุครบ 70 ปีนับจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1954 และทาง Promaster เองก็เพิ่งฉลองครบรอบ 35 ปีนับจากการเปิดตัวในปี 1989 ขณะที่ตัวโปรดักต์เองก็เหมาะสมเช่นกัน เพราะ Ecozilla หรือนาฬิกาดำน้ำแบบควอตซ์ที่ใช้กลไก Eco-Drive ถือเป็นดาวเด่นของนาฬิกาดำน้ำจากค่าย Citizen มาตั้งแต่ราวๆ ปี 2004 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และยังมีดีไซน์ที่สุดคลาสสิค ไม่ตกยุค
ที่สำคัญคือ นาฬิกาดำน้ำที่ฝรั่งฮิตมาก เพราะนานๆ เราจะได้เห็นนาฬิกาดำน้ำแบบตัวโหดที่มาพร้อมสเป็กแบบการใช้งานสำหรับการดำน้ำในสไตล์ Saturation Diving หรือ Professional Diving การดำน้ำแบบมืออาชีพ การกันน้ำ 300 เมตร ขณะที่ราคาค่าตัวเพียง 500 เหรียญสหรัฐฯ นี่ยังไม่นับดีไซน์ที่บึกบึนและดูโหดๆ จนกระทั่งแฟนๆ ของ Citizen ในยุคนั้น ตั้งฉายาเอาไว้ว่า Ecozilla โดยจะมีรุ่นกลไกอัตโนมัติพร้อมความสามารถในการกันน้ำ 1,000 เมตรวางขายคู่กันในชื่อ Autozilla และถูกเรียกขานต่อเนื่องเป็น Solarzilla สำหรับรุ่น BN7020-09E
ผมค่อนข้างดีใจนะที่ครั้งนี้ Citizen เลือกเอา Ecozilla มาใช้เพราะเรื่องราวของสิ่งที่ต้องการนำเสนอหรือ Collaboration กับตัวนาฬิกามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง และดูเข้ากันได้ดี เหมาะสมและลงตัว
อย่างไรก็ตามีสิ่งหนึ่งที่อาจจะเรียกว่าเป็นทัศนคติในเชิงลบของผมที่มีต่อ Ecozilla คือ รุ่นธรรมดาที่เป็นตัวพื้นฐานไม่ค่อยสวนและโดนใจเลย ผมไม่ติดในแง่รูปทรงโดยรวม แต่การเลือกใช้สแตนเลสที่มีพื้นผิวที่แวววาวของมัน คือ ประเด็นหลักที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าไม่เข้ากันอย่างรุนแรง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผมเอาไปเปรียบเทียบกับพื้นผิวด้านๆ ของรุ่น Autozilla ที่ใช้ไทเทเนียมในการผลิตตัวเรือนที่สวยกว่าอย่างชัดเจน
ผมค่อนข้างดีใจที่ Citizen Promaster x Godzilla 2024 รุ่นใหม่มีความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในจุดที่ผมไม่ชอบในนาฬิกาเรือนี้ ด้วยการรมดำตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีการสลักลายเป็นแบบขรุขระเหมือนกับผิวหนังของ Godzilla และสอดรับกับหน้าปัดที่มีลวดลายแบบเดียวกัน โดยเวอร์ชันล่าสุดมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นคือ BJ8056-01E หน้าปัดสีเทา เข็มนาทีสีเทา มีจำนวนการผลิต 2,500 เรือนทั่วโลก และ BJ8059-03Z หน้าปัดสีแดง และเข็มนาทีสีแดง มีการผลิตจำนวน 3,000 เรือนทั่วโลก ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ต้องมีการตัดสินใจตอนที่จะสั่งซื้อ คือ รุ่นไหนดี ?
บอกก่อนผมตัดเรื่องอนาคตที่คนมักจะชอบถามว่ารุ่นไหนดีกว่ากันออกไป เพราะเชื่อว่าโอกาสที่มันจะทำให้เงินด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นแทบจะไม่มีทางอยู่แล้ว แต่เลือกเพราะต้องตัดสินใจว่าจะเอาความสวย หรือจำนวนที่น้อยในการผลิตดี สีแดงสวยเด่นอยู่แล้ว ซึ่งหลายคนคงเห็นด้วย แต่สีเทาก็เคร่งขรึมดูดีไปอีกแบบแถมยังผลิตน้อยกว่า สุดท้ายผมเลือก BJ8059-03Z หน้าปัดสีแดง ด้วยเหตุผลที่เอาชนะหน้าปัดสีเทาได้ นั่นคือ มันมากับเข็มนาทีสีแดง ซึ่งผมชอบนาฬิกาดำน้ำที่มากับชุดเข็มในสไตล์ Plongeur Hand
นั่นคือ เหตุผลตัดสินที่ทำให้ผมเลือกเรือนหน้าปัดแดง
ตัวเรือนเป็นวงกลมแบบไม่มีขาสาย ดังนั้น เรื่องของอาการล้นบนข้อมือแทบจะไม่เกิดขึ้นถ้าข้อมือคุณไม่เล็กมากจนเกินไปอย่างที่ผมบอก แต่สิ่งที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูจะกางและล้นๆ สำหรับใครบางคน ส่วนตัวผมคิดว่ามาจากดีไซน์ของหัวสายที่ทำให้มันบานออกและตรงข้อย่นจะมีลักษณะกางออกค่อนข้างเยอะจนทำให้ดูเหมือนกับมีปีกยื่นยาวออกมาจากตัวเรือนด้านบนและด้านล่างของตัวนาฬิกา
เม็ดมะยมอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาสำหรับคนถนัดซ้าย โดยในการใช้งานจริงสำหรับคนถนัดขวาและสวมนาฬิกามือซ้าย ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ชนกับหลังมือเวลาสวมใส่ คราวน์การ์ดมีขนาดพอประมาณ และสามารถคลุมตัวเม็ดมะยมได้อย่างมิดชิด ทำให้ดูกลมกลืนกับตัวเรือนเหมือนกับไม่มีเม็ดมะยม ก็เลยไม่รู้สึกว่ามีขนาดใญ่หรือเทอะทะแต่อย่างใด
อีกคำถามที่เกิดขึ้นเสมอกับหลายคนที่ได้เจอและถามถึงนาฬิกาเรือนนี้คือ ข้อมือเล็กๆ จะใส่ได้ไหม ?
ก่อนอื่นผมต้องถามว่าเล็กขนาดไหน เพราะคำว่าใส่ได้กับใส่แล้วสวยมักจะเป็นคนละคำกัน ส่วนตัวผมคิดว่านาฬิกาเรือนนี้ที่มีขนาดตัวเรือน 48.2 มิลลิเมตร ขนาดข้อมือที่จะรองรับกับมันได้แล้วดูดี อย่างน้อยต้องเกิน 6.5 นิ้วขึ้นไป และถ้าจะให้ดีนำหน้าด้วยเลข 7 จะดีกว่า
เรื่องสายเป็นอีกจุดที่ผมตั้งแง่ไม่โอเคมาตั้งแต่สมัยของเจ้า Autozilla และไล่มาจนถึง Solarzilla เพราะปกติสายยางยุคเก่าๆ ของ Citizen จะค่อนข้างแข็งมาก ตอนใส่เข้าไม่น่ากังวลเท่าไร แต่ตอนถอดออกนี่แหละ เล่นเอาเหนื่อย แถมยังต้องกลัวตัวรัดสายขาด ซึ่ง Citizen x Godzilla ก็ยังเป็นสายยางแบบเดิม แต่มีความเปลี่ยนแปลงในแง่ของวัสดุที่นำมาเป็นส่วนผสมของสาย โดยจะมีพวก Bio-Mass หรือวัสดุชีวภาพเติมเข้ามาผสมกับโพลียูเรีเธนที่เป็นวัสดุหลัก เพื่อให้ส่วนของยางสามารถย่อยสลายได้ง่ายเวลากลายเป็นขยะ และแม้ว่าความนุ่มจะมีเพิ่มขึ้น แต่ก็นิดเดียวเท่านั้นเอง และเวลาถอดออกจากข้อมือก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนเดิม
ด้านหลังมีการสลักรอยเท้าของ Godzilla เอาไว้ ซึ่งดูสวยดีและบอกตรงๆ ว่าชอบมาก แต่สิ่งที่ขัดใจคือ Citizen ไม่ได้สลักหมายเลขของเรือนที่ผลิตจากจำนวนเรือนที่ผลิตทั้งหมดลงบนฝาหลัง ซึ่งนั่นคือ สิ่งที่ชวนเซ็งสำหรับคนที่ชอบนาฬิกาแบบ Limited Edition ซึ่งรุ่นที่แล้วพวกเขาก็ทำแบบนี้เช่นกัน ถามว่าแย่ถึงขนาดทำให้นาฬิกาเรือนนี้หมดความน่าสนใจหรือไม่ ก็ใม่ถึงกับขนาดนั้น เพียงแต่ว่าถ้ามีการสลักตัวเลขมาด้วยจะช่วยเติมเต็มคำว่า Limited Edition ได้สมบูรณ์มากกว่านี้
การขับเคลื่อนของตัวนาฬิกาเป็นกลไกควอตซ์ในรหัส Cal.B873 ของ Citizen พร้อมระบบ Eco-Drive ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแสงทุกประเภทให้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อเก็บในแบตเตอรี่หรือตัวเก็บประจุ พร้อมความเที่ยงตรง +/-15 วินาทีต่อเดือน มีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และทนทานต่อสนามแม่เหล็ก พร้อมการสำรองพลังงานได้นาน 6 เดือนในกรณีใช้งานต่อเนื่องโดยที่ไม่โดนแสงเลย
ถือเป็นกลไกที่ใช้งานง่าย ใครที่ใส่นาฬิกาเรือนนี้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วก็แทบไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะคงใส่มาเจอแสงและระบบจะชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในระบบได้ไม่มากก็น้อย แต่พวกที่น่ากังวลคือ คนที่มีนาฬิกาหลายเรือน และกว่าจะถึงคิวของนาฬิกาเรือนนี้ออกมาเจอโลกภายนอก บางทีต้องรอกันนานเป็นเดือนๆ ก็มี ดังนั้น เพื่อไม่ให้ตัวเก็บประจุหรือแบตเตอรี่ที่อยู่ข้างในเสื่อมเร็ว ควรนำออกมาเจอแสงบ้าง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
บทสรุปของ Citizen Promaster x Godzilla 2024 กับราคา 28,800 บาท ถือว่าอยู่ในช่วงของราคาที่รับได้ เมื่อมองจากตัวนาฬิกาที่เป็นกลุ่มดำน้ำแบบ Saturation Diving ในตระกูล Promaster ที่มีสเปกกันน้ำถึง 300 เมตร สตอรี่ของทั้ง 2 แบรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ ซึ่งนำมาสู่การสร้างสรรค์เรือนเวลาที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบ Godzilla หรือแค่เคยได้ยินชื่อของ Godzilla ก็สามารถอินไปกับมันได้ เสียอย่างเดียวเรื่องที่ไม่ระบุตัวเลขเรือนที่ผลิตนี่แหละ ที่ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดเล็กๆ
รายละเอียดทางเทคนิค : Citizen Promaster x Godzilla 2024
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 48.2 มิลลิเมตร
- ความหนา : 18.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กลไก : ควอตซ์แบบ Eco-Drive รหัส Cal.B873
- กำลังสำรอง : 6 เดือนโดยไม่โดนแสง เมื่อมีการชาร์จจนเต็ม
- ความเที่ยงตรง : +/-15 วินาทีต่อเดือน
- การกันน้ำ : 300 เมตร
- ประทับใจ : การตกแต่งและใช้สีบนตัวนาฬิกา / ฝาหลังที่มีรอยเท้า Godzilla / กลไก Eco-Drive ใช้งานง่าย
- ไม่ประทับใจ : การสวมใส่สาย / การไม่สลักหมายเลขเรือนที่ผลิตบนฝาหลัง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline