Seiko นำหลากคอลเล็กชั่นลุยงาน Central International Watch Fair 2021

0
- Advertisement -

พบกับไซโก คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Seiko 140th anniversary Ginza collection ที่นำเข้ามาจำหน่ายเพียงรุ่นละ 150 เรือนเท่านั้น พร้อมด้วย Seiko Prospex Thailand 30th Anniversary limited Edition และ Seiko 5Sports Industrial Design ที่ใช้ “Cement” เป็นสื่อกลางในการนำเสนอความสวยงามตามแบบฉบับ Show Your Style พบกันที่งาน  Central International Watch Fair 2021 ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 – 31 ตุลาคม 2564 นี้

Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021

Seiko นำหลากคอลเล็กชั่นลุยงาน Central International Watch Fair 2021

อาจพูดได้ว่า “ไซโก” เป็นคำที่คุ้นหูกันมาตั้งแต่สมัยที่เริ่มจำความได้ เพราะเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่อยู่คู่กับคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย SEIKO เป็นภาษาญี่ปุ่น ที่แปลว่า “นาที” “ความดีเยี่ยม” และ “ความสำเร็จ” โดย SEIKO เป็นชื่อแบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการนาฬิกา จนประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้ เพราะเป็นแบรนด์นาฬิกาข้อมือแบรนด์แรกของญี่ปุ่นที่ริเริ่มผลิตนาฬิกาควอตซ์จนทำให้เกิดยุค Quartz Crisis และเป็นแบรนด์ที่ผลิตนาฬิกาดำน้ำไทเทเนียมรุ่นแรกของโลก รวมถึงนวัตกรรมอื่นๆอีกมากมาย

ไซโก นั้นไม่ได้เป็นแค่โรงงานผลิตนาฬิกา แต่เป็น House of Watchmaking ที่ผลิตทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาด้วยแบรนด์เองและมีช่างผู้ชำนาญการที่ใส่ใจทุกรายละเอียดของนาฬิกาซึ่งเป็นดั่งงานฝีมือชั้นเยี่ยมและยังคงยึดถือตลอดมา แม้ในปัจจุบัน จะมีนาฬิกาแบรนด์อื่นๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ Seiko ยังยึดคติ Keep Going Forward ซึ่งหมายถึงการไม่หยุดพัฒนาและก้าวต่อไปอยู่เสมอ โดยในปี 2021 นี้ แบรนด์ Seiko ในระดับ Global เองยังได้เฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 140 ปี และมีรุ่นพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นจากรุ่นที่โด่งดังในตำนานเพื่อย้อนระลึกถึงความสำเร็จในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลากหลายรุ่นด้วยกัน

ปี 2021 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสพิเศษของแบรนด์คุณภาพจากญี่ปุ่นที่เดินทางมาครบรอบ 140 ปีเท่านั้น เพราะสำหรับ ไซโก ประเทศไทย เองก็ถือเป็น “ช่วงเวลาพิเศษ” เช่นกัน โดยในปี 2564 หรือ ปี 2021 นั้น ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ได้ครบรอบการดำเนินกิจการในเมืองไทยมาครบ 30 ปีเช่นกัน หากใครเป็นแฟนไซโกกันมาตั้งแต่ยุคต้นๆ ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้นต้องขอบอกคำเดียวเลยว่าการเปลี่ยนแปลงระหว่าง 30 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับวงการนาฬิกาในประเทศไทย

  • Seiko “Real Thai” Collection : ความเป็นไทย ที่ภูมิใจนำเสนอ

ความพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นในปี 2021 นี้ ก็เพื่อขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยในทุกภูมิภาคของประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ นาฬิกา ไซโก และสินค้าในเครือด้วยดีเสมอมา เพราะหลากหลายความสำเร็จที่ทำให้สินค้า โดยเฉพาะ Thailand Limited Edition  เป็นที่จดจำและโด่งดังไปทั่วโลกนั้น ส่วนสำคัญเกิดขึ้นจากกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ และนักสะสมชาวไทยที่ทำให้เกิดกระแส และได้รับการยอมรับจนโด่งดังไปทั่วโลก ยกตัวอย่างจากความสำเร็จในอดีต เช่น Seiko Propex รุ่นที่นักสะสมชาวไทยขนานนามว่า “ไซโก มอนสเตอร์” หรือ “ไซโก ซี มอนสเตอร์” ปีศาจที่มีชื่อที่เรียกติดปากไปทั่วโลกจากแฟนๆ ชาวไทยจนญี่ปุ่นนำกลับมาผลิตเป็นโมเดลหลักและวางจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน หรือแม้แต่รุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักเดินทางแห่งท้องทะเลอย่าง Seiko Prospex Zimbe Limited Edition หรือ ฉลามวาฬ ก็เป็นรุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังรุ่นต่อๆ มาที่นักสะสมนาฬิกาทั่วโลกต่างชื่นชมและอยากมีไว้ในครอบครอง และหากยังไม่นับถึง ไทยแลนด์ ลิมิเตด เอดิชั่น รุ่นอื่นๆ ที่หลายๆ ตัวก็ถูกพูดถึงอยู่ไม่น้อย

ISAN : PHI TA KHON (SPB247J)

Prospex : Seiko Thailand 30th Anniversary Limited Edition

ภาคอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) : ไซโก พรอสเปกซ์ รุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี ไซโก (ประเทศไทย)

“อีสานบ้านเฮา” ถิ่นกำเนิดของเทศกาลประเพณีแห่ “ผีตาโขน” เป็นหนึ่งในงานบุญประเพณีใหญ่ที่เรียกว่า “งานบุญหลวง” หรือ “บุญผะเหวด” เล่ากันว่าเทศกาลนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก “มหาเวสสันดรชาดก” เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่ากลับสู่เมือง เหล่าผีป่าและสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกกันว่า “ผีตามคน” หรือ “ผีตาขน” จนเพี้ยนกลายมาเป็น “ผีตาโขน” ในปัจจุบัน โดยถือเป็นประเพณีที่จะจัดขึ้นทุกปีที่พระธาตุศรีสองรัก ปูชนียสถานสำคัญของชาวด่านซ้าย จังหวัดเลย จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

ด้วยความมีเอกลัษณ์ของเทศกาลนี้จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการนำสีสันของเครื่องแต่งกายผีตาโขนมาออกแบบตกแต่ง นาฬิการุ่นพิเศษบนตัวเรือนแบบ “ซูโม่”  ซึ่งเป็นรุ่นบุกเบิกของโมเดลที่ผลิตในญี่ปุ่นและนำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยเป็นรุ่นแรกๆ โดยให้สีสันขอบตัวเรือนสีดำแดงตัดกับ สเกลและหลักชั่วโมงสีทองที่ได้รับแรงบันดาลใจตามสีสันของหน้ากากและเครื่องแต่งกายของ ผีตาโขน

แพทเทิร์นหน้าปัดแบบพิเศษที่มีเส้นสายเหมือนลวดลายของงานหัตถกรรมเครื่องจักรสาน ฝาหลังประทับสัญลักษณ์ลวดลายของหน้ากากผีตาโขน พร้อมระบุหมายเลขประจำตัวเรือนที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,991 เรือน ตามปีที่เริ่มจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ออกแบบลวดลายตามคอนเซปต์ กล่องกำมะหยี่สีแดงเข้ม ประทับตราสัญลักษณ์โลโก้ Seiko Thailand 30th Anniversary และ สัญลักษณ์ “หน้ากากผีตาโขนสีทอง” พร้อมสายยางคุณภาพ โดยได้เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกไปในวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานี้  สนนราคา 39,800 บาท

Seiko Central International Watch Fair 2021

Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021

ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko SPB247J

  • Calibre : 6R35 อัตโนมัติ สามารถขึ้นลานได้ด้วยมือ
  • Accuracy : +45 -35 วินาทีต่อวัน
  • Power Reserve : 70 ชั่วโมง
  • Water Resistance : 200 เมตร
  • Case Material : สเตนเลสสตีล
  • Case Size : 45 มิลลิเมตร
  • Glass Material : กระจกแซฟไฟร์
  • ราคา : 39,800 บาท
  • Seiko 140th Anniversary Ginza Limited Edition

ย่านสุดหรูใจกลางกรุงโตเกียว ‘กินซ่า’ จุดเริ่มต้นของเรื่องราว Seiko แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิกา 2 รุ่นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้ง Seiko

กินซ่า ย่านสุดหรูใจกลางกรุงโตเกียวมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อ Seiko เป็นสถานที่ซึ่ง Kintaro Hattori (คินทาโร่ ฮัตโตริ) ผู้ก่อตั้งบริษัท เปิดร้านขายและรับซ่อมแซมนาฬิกาแขวนรวมถึงนาฬิกาข้อมือเมื่อปี 1881 เมื่ออายุเพียง 21 ปีเท่านั้น และปัจจุบันกินซ่ายังเป็นที่ตั้งของบริษัท เป็นเวลากว่า 120 ปี ที่นาฬิกาคล็อก Seiko ซึ่งติดตั้งอยู่บนอาคารในกินซ่าได้ทำหน้าที่รักษาเวลาให้กับผู้คนในกรุงโตเกียวถึงวันนี้ นาฬิกาของ Seiko ที่ติดตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้า Wako ทำหน้าที่เหมือนกับดวงตาที่มองลงมายังแยกที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Ginza จากบนหลังคาของห้าง Wako ที่ตั้งของหนึ่งในร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของ Seiko

บริเวณใกล้เคียงกัน ยังมีสถานที่ประกอบการอื่นๆ ของ Seiko รวมถึงพิพิธภัณฑ์ Seiko Museum บูติกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่จำหน่ายเฉพาะคอลเลคชั่น Prospex และ Dream Square ที่ซึ่งผู้มาเยี่ยมชมสามารถสัมผัสได้ถึงมรดกอันล้ำค่าของแต่ละคอลเลคชั่น และโลกที่เปี่ยมเอกลักษณ์ของ Seiko

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้ง Seiko และความผูกพันอันยาวนานที่มีต่อย่าน Ginza ไซโกได้เปิดตัวนาฬิกาสุดพิเศษ 2 รุ่นในคอลเลคชั่น Prospex (พรอสเป็กซ์) และ Presage (พรีสาจ) ที่จับภาพทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยของย่านกินซ่า การสร้างสรรค์นาฬิกาทั้ง 2 รุ่นมากับหน้าปัดที่สะท้อนถึงลวดลายพื้นถนนที่ปูด้วยหินแบบดั้งเดิมของย่านนี้ซึ่งถูกเรียงร้อยเป็นเลเยอร์ดุจงานศิลปะอันสวยงาม โดยใช้โทนหินสีคอมพารุในโทนฟ้าแกมเขียวอ่อนมาตกแต่ง ที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัยของอาคารสมัยใหม่และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งพบเห็นได้ในย่านกินซ่าทุกวันนี้ มรดกและความทันสมัย ประวัติศาสตร์และความก้าวหน้า การสร้างสรรค์ของนาฬิกาทั้งสองเรือนถ่ายทอดบุคลิกที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเหมือนกับที่ Seiko เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ในรุ่น Prospex ที่ผลิตจำนวนจำกัด รังสรรค์บนพื้นฐานของผลงานในรุ่นตีความใหม่ของ Alpinist จากปี 1959 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รูปแบบที่ซับซ้อนของพื้นหน้าปัดประกอบด้วยสองลายรัศมีที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามองศาของมุมที่แสงตกกระทบบนพื้นหน้าปัด จึงสร้างความประทับใจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยจับภาพพื้นผิวและความรู้สึกของก้อนหินที่ปูบนถนนของกินซ่า เข็มวินาทีได้รับการออกแบบเพื่อเป็นเกียรติให้กับประวัติศาสตร์ของเขตนี้ด้วย Komparu (คอมพารุ) เฉดสีดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ตั้งขึ้นตามชื่อถนน Komparu ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของสถานบันเทิงยามค่ำคืนของกินซ่า สีฟ้าแกมเขียวอ่อนนี้ถูกใช้ครั้งแรกในสมัยเมจิตอนกลาง (1868-1912) เป็นสีที่โปรดปรานในหมู่เกอิชาจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ และจากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมจากสาธารณชนในเวลาต่อมา

นาฬิกามาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติ 6R35 ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งมีความทนทานต่อการขูดขีด ส่วนความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 200 เมตร การผลิตจำกัดเพียง 3,500 เรือนเท่านั้น วางจำหน่ายในบูติกของ Seiko และร้านค้าปลีกทั่วโลกที่ได้รับเลือก โดยนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 150 เรือนเท่านั้น เริ่มจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคม 2021 นี้

นาฬิกา Presage ได้แรงบันดาลใจจากหินปูพื้นถนนในการสร้างสรรค์ลวดลายบนพื้นหน้าปัด รวมถึงเข็มวินาทีในเฉดสี Komparu เช่นกัน แต่นาฬิการุ่นนี้มีแง่มุมที่โดดเด่นของซีรีส์การออกแบบ “Style60’s” ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยได้แรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่น Seiko Crown Chronograph (ไซโก คราวน์ โครโนกราฟ) จากปี 1964 กระจกผนึกเหนือหน้าปัดในแบบยกขอบสูง เข็มชั่วโมงและนาทีเป็นทรงยาวปลายแหลม พร้อมหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยม ทั้งหมดถือเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดโดยตรงจาก Seiko Crown Chronograph และให้ความรู้สึกย้อนยุคที่เข้ากับรูปแบบหน้าปัดสุดคลาสสิกอย่างลงตัว ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาเจาะช่องเปิดให้ผู้สวมใส่ได้ชมและเพลิดเพลินกับการทำงานของชุดเอสเคปเม้นท์ และหน้าปัดย่อยแสดงเวลา 24 ชั่วโมงด้านบน ให้การอ่านค่าที่แตกต่างและมีประโยชน์จากเวลากลางวันและกลางคืน นาฬิกา Presage รุ่นนี้มีการผลิตออกสู่ตลาดจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เรือน และมีจำหน่ายอยู่ในบูติกของ Seiko และร้านค้าปลีกทั่วโลกที่ได้รับเลือก โดยนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 150 เรือนเท่านั้น เริ่มจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคม 2021 นี้

Seiko Central International Watch Fair 2021
Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021
Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021

Seiko 140th Anniversary Limited Editions

Seiko Prospex 1959 Alpinist Modern Re-interpretation: SPB259

  • กลไก : 6R35
  • ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
  • พลังงานสำรอง : 70 ชั่วโมง
  • จำนวนทับทิม : 24 เม็ด
  • รายละเอียดทางเทคนิค
  • ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล
  • กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • ฝาหลังแบบใสมองเห็นกลไก
  • ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มิลลิเมตร ความหนา 12.9 มิลลิเมตร
  • การกันนำ : 20 บาร์
  • ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
  • สายผลิตจากสเตนเลสสตีล พร้อมบานพับแบบ 3 ทบ และปุ่มกดเพื่อคลายล็อค
  • จำนวนผลิต : 3,500 เรือน
  • ราคา 29,000 บาท

Seiko Presage: SSA445

  • กลไก : 4R39
  • ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
  • พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมง
  • จำนวนทับทิม : 24 เม็ด
  • มีหน้าปัดย่อยบอกช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน
  • รายละเอียดทางเทคนิค
  • ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล
  • กระจก Hardlex แบบยกขอบสูง
  • ฝาหลังแบบใสมองเห็นกลไก
  • ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 มิลลิเมตร ความหนา 12.8 มิลลิเมตร
  • การกันนำ : 5 บาร์
  • ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
  • บานพับแบบ 3 ทบ และปุ่มกดเพื่อคลายล็อค
  • จำนวนผลิต : 4,000 เรือน
  • ราคา 23,000 บาท
  • Seiko 5 Sports Industrial Design “Cement”

นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Seiko 5 Sports ที่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับเจเนอเรชั่นใหม่โดยเฉพาะ สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจแห่งความสำเร็จกว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา และการออกแบบนั้นก็เริ่มจากพื้นฐานของนาฬิกาไซโกทรงสปอร์ตที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุด ทุกการสร้างสรรค์ในคอลเลคชั่นใหม่นั้น มีการพัฒนาขึ้นมาจากตัวเรือนรุ่นดั้งเดิม เข็มนาทีทรงปลายลูกศร หลักชั่วโมงที่ชัดเจน และขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียว

และรุ่นใหม่ล่าสุดรหัส SRPG61K และ SRPG63K ถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนแรงบันดาลใจจาก Industrial Design ที่นำพื้นผิวของซีเมนต์หนึ่งในหัวใจหลักของการสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างมากมาย และสีสันที่สื่อถึงการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร มาใช้ออกแบบหน้าปัดลวดลายพิเศษใน Seiko 5 Sports รุ่นใหม่ล่าสุดนี้นั้น ทำให้ตัวเรือนสเตนเลสสตีลพร้อมขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ขนาด 42.5 มิลลิเมตร และขอบตัวเรือนแบบเรียบขนาด 40 มิลลิเมตรนั้นน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งคู่จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องระบบอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 4R36 ที่สามารถสำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันในทุกสภาวะ และที่สำคัญความสวยงามของสีสันที่ลงตัวด้วยสีขาวซีเมนต์ทำให้เหมาะกับการสวมใส่ได้ในทุกลุค ทุกสไตล์

Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021
Seiko Central International Watch Fair 2021 Seiko Central International Watch Fair 2021

Seiko 5 Sports Industrial Desing “Cement”

  • SRPG61K

ข้อมูลจำเพาะ:

  • กลไก : 4R36
  • ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
  • พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมง
  • จำนวนทับทิม : 24
  • รายละเอียดทางเทคนิค :
  • ตัวเรือนสเตนเลสสตีล
  • กระจกแบบ Hardlex
  • ฝาหลังแบบขันเกลียวและโปร่งใส
  • เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 42.5 มิลลิเมตร , ความหนา : 13.4 มิลลิเมตร
  • ระดับการกันน้ำ : 10 บาร์
  • ระดับการป้องกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
  • ราคารุ่นละ 11,700 บาท