Omega เปิดตัวทางเลือกใหม่ในคอลเล็กชั่น Speedmaster Professional ด้วยรุ่น Chronoscope ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในทศวรรษที่ 1940 มาพร้อมตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรและกลไกไขลาน 9908
Omega Speedmaster Chronoscope ย้อนความสวยพร้อมฟังก์ชั่นจากยุค 1940
-
การนำหน้าปัดแบบ Snail ซึ่งเป็นที่รู้จักในยุคทศวรรษที่ 1940 กลับมาอีกครั้ง
-
ใช้ตัวเรือน 43 มิลลิเมตร พร้อมกลไกแบบไขลานในรหัส 9908
-
มีจำหน่ายในเมืองไทยด้วยราคาระหว่าง 298,000-488,000 บาท
Omega เพิ่มทางเลือกใหม่ในตลาดให้กับรุ่น Speedmaster กับการเปิดตัวเวอร์ชัน Chronoscope ซึ่งเป็นการนำเอารูปแบบของหน้าปัดที่มาพร้อมกับสเกลวัดทั้งในเรื่องของความเร็ว ชีพจร และจับเวลาในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบจับเวลาของตัวนาฬิกามาวางเอาไว้บนพื้นหน้าปัดหลัก พร้อมกับออกแบบได้อย่างลงตัวและสวยโดยที่ฟังก์ชั่นต่างๆ สามารถใช้งานได้จริง และจะมีการจำหน่ายทั้งหมด 3 วัสดุตัวเรือนคือ สตีล และ Bronze Gold ที่เคยเปิดตัวมาแล้วกับรุ่น Seamaster 300 เมื่อตอนต้นปีนี้
สำหรับรูปแบบของตัวหน้าปัดนาฬิกาในสไตล์นี้จะถูกเรียกว่า Snail ซึ่งก็เหมือนกับวงกลมที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ เหมือนกับเปลือกของหอยทาก โดยเป็นหน้าปัดที่ถูกนำมาใช้กับนาฬิกาของ Omega ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1940
 |
 |
 |
ซึ่งในนั้นจะเป็นวงของสเกลในการวัดต่างๆ เช่น Pulsometer Scale ที่ใช้ในการวัดชีพจร และ Telemeter Scale สำหรับช่วยวัดระยะทางโดยอ้างอิงจากความเร็วของเสียง (วัดง่ายๆ คือ เริ่มกดจับเวลาเมื่อได้ยินเสียงปืนใหญ่ถูกยิง และกดหยุดเวลาเมื่อเกิดการระเบิด จากนั้นดูเข็มว่าชี้ไปที่ตัวเลขอะไร) ขณะที่ Tachymeter Scale เป็นมาตรวัดสำหรับใช้วัดความเร็วของยานพาหนะ จะถูกติดตั้งอยู่บนขอบตัวเรือนเหมือนกับสเกลปกติ โดยตัวอินเสิร์ตของสเกลจะผลิตจากเซรามิก
ตัวนาฬิกาจะมาพร้อมกับตัวเรือนที่มีขนาด 43 มิลลิเมตร โดยจัดอยู่ในคอลเล็กชั่นของ Speedmaster Professional ซึ่งด้วยขนาดตัวเรือนไซส์นี้ ทำให้ Speedmaster Chronoscope จะแทรกกลางระหว่าง Speedmaster Professional หรือ Moonwatch (42 มิลลิเมตร) และ Speedmaster Racing (44.25 มิลลิเมตร)
 |
 |
 |
 |
วัสดุมีทั้งแบบสแตนเลสสตีล ซึ่งจะมีให้เลือก 3 แบบของหน้าปัด คือ หน้าปัดน้ำเงิน หน้าปัดย่อยแบบขาวในสไตล์ Reverse Panda หน้าปัดขาว และหน้าปัดย่อยพื้นดำในแบบ Panda รวมถึงหน้าปัดเงินพร้อมกับลายสเกลสีฟ้า และ Bronze Gold มีหน้าปัดแบบเดียวคือ สีน้ำตาลเข้ม โดยวัสดุประเภทนี้เป็นส่วนผสมของทองแดง 50% และอีก 37.5% เป็นส่วนผสมของทองคำ เงิน กัลเลี่ยม และพาลาเดี้ยม
ส่วนกลไกเป็นแบบไขลานที่มากับรหัส 9908 ซึ่งเป็นเวอร์ชันไขลานของกลไกจับเวลาในรหัส 9900 ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่ติดตั้งอยู่ใน Speedmaster Racing และ Seamaster Planet Ocean Chronograph โดยมีหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลาแบบ 2 วง และตัวกลไกมีความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer พร้อมระดับการสำรองพลังงานอยู่ที่ 60 ชั่วโมง
ราคาจำหน่ายในเมืองไทย สำหรับรุ่นสตีลสายเหล็กไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดสีอะไรจะมีราคาอยู่ที่ 289,000 บาท ส่วนสายหนังจะขยับเป็น 290,000 บาท ส่วนรุ่น Bronze Gold จะมีราคาอยู่ที่ 488,000 บาท โดยการทำตลาดจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
ข้อมูลทางเทคนิค: Omega Speedmaster Chronoscope
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 43 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.8 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 21 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล / Bronze Gold
- กระจก : Sapphire ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- กลไก : ไขลาย Cal.9908 มีความเที่ยงตรงระดับ Mater Chronometer
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- จำนวนทับทิม : 44 เม็ด
- ระดับการกันน้ำ : 50 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
