นาฬิการุ่นพิเศษที่ถือว่าเป็นกระแสความต้องการของแฟน Seiko ในตอนนี้กับ Seiko 5 Sports x Alex Face ซึ่งมีขายทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แต่รุ่นที่เราจะรีวิวในวันนี้คือ SRPG95K ตัวเรือนดำหน้าปัดเขียว
Seiko 5 Sports x Alex Face : จัดเต็มขนาดนี้จะพลาดได้อย่างไร
-
การจับมือครั้งใหม่ของ Seiko กับศิลปิน Street Art ชั้นแนวหน้าของไทย
-
มีขาย 5 รุ่นย่อย แต่รุ่นที่จะรีวิวคือ SRPG95K ตัวเรือนดำหน้าปัดเขียว
-
ราคา 13,500 บาท และแค่ละรุ่นมีขายเพียง 500 เรือน
ตอนที่ทีม PR ของ Seiko Thailand ส่งรายละเอียดของนาฬิการุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดวางจำหน่ายออกมาในวันที่ 15 กรกฎาคมนั้น สารภาพเลยว่า ผมค่อนข้างเฉยๆ กับภาพที่ได้เห็นในครั้งแรก เพราะความรู้สึกส่วนตัวในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา Seiko 5 Sports เปิดตัว Limited Edition ในแนว Collaboration กับศิลปินในสไตล์ Street Art ออกมามากหน้าหลายตาเหลือเกิน
จนกระทั่งต้องแวบมาอ่านในเนื้อหาข่าวนั่นแหละ แค่เพียงบรรทัดแรกก็ดึงความสนใจของผมได้ทันที และเมื่ออ่านไปเรื่อยๆ และดูภาพประกอบที่ส่งมา สรุปเลยว่า ‘แล้วเราจะรอช้าอยู่ใยกับการสอย Seiko 5 Sports x Alex face เข้ากรุ’
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมเช่นเดียวกับอีกหลายท่านที่สอยนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้เข้ากรุคือ การมีส่วนเกี่ยมข้องและใกล้ชิดกับคนไทยเหมือนกับ Limited Edition รุ่นก่อนหน้านี้อย่างธงชาติไทย หรือ SRPF91K (การ Review อ่าน ที่นี่) อีกทั้งนี่ยังถือเป็นครั้งแรกในการจับมือกับศิลปิน Street Art อย่าง Alex Face หรือเล็ก-พัชรพล แตงรื่น ศิลปินคนไทยคนแรกที่มาร่วมสร้างสรรค์นาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์ Show Your Style
ถามผมว่า รู้จัก Alex face หรือ ? คำตอบคือ ไม่รู้จักชื่อของเขาหรอก แต่ผมรู้จักตัวละครอย่างน้องมาร์ดี ที่เป็นเจ้ากระต่าย 3 ของเขา เพราะถือเป็นผลงานที่ผ่านตาผมค่อนข้างบ่อย ไม่ว่าจะบน Feed ใน Facebook หรือครั้งล่าสุดที่เจอก็คือการจับมือกับบริษัทรถยนต์อย่าง Mercedes-Benz เมื่อ 3 ปีที่แล้วตอน GLA เข้ามาขายในเมืองไทย
อีกสิ่งคือ ผลงานของเขาบนตัวนาฬิกาและแพ็คเกจที่เรียกว่าอลังการงานสร้างชุดหนึ่งเท่าที่ผมเคยเจอเลย…แล้วอย่างนี้ จะพลาดกันได้อย่างไรละ
เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะบอกว่า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งหรอก มันจะต้องมีอะไรแอบแฝงมากกว่านั้นอย่างแน่นอน ? สารภาพเลยครับว่า แวบหนึ่งของความคิด ผมเชื่อว่า Seiko 5 Sports x Alex Face จะเป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่กลายเป็นที่ต้องการในอนาคต และนั่นหมายความว่า ‘ราคาขึ้น’ (เพียงแต่จะขึ้นเท่าไรเท่านั้นเอง) ด้วยเหตุผลประกอบ 2 เรื่อง
อย่างแรก ผลงานของ Alex Face ไม่ธรรมดาเป็นที่รู้จักทั้งคนทั่วไปและแฟนพันธุ์แท้ มีความใกล้ชิดกับคนไทยมากกว่าศิลปินคนอื่นดังนั้น ความต้องการมีตามมาอย่างแน่นอน และตรงนี้ส่งผลต่อประการต่อมาคือ การผลิตเพียงแค่ 500 เรือนต่อรุ่นย่อย นั่นเท่ากับว่า เมื่อคลื่นของดีมานด์ถาโถมเข้ามายังกับสึนามิ แล้วซัพพลายมีอยู่แค่นี้ โอกาสที่นาฬิกาเซ็ตนี้จะมีอนาคตที่สดใสย่อมมีแน่นอน
แต่บอกก่อนนะครับว่านี่คือการวิเคราะห์ผสมการคาดเดาของผม เพราะถ้ามีตาทิพย์และรู้จริง ป่านนี้ผมคงไม่ต้องมานั่งปั่นต้นฉบับให้เมื่อยตุ้มอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้หรอกครับ
นาฬิกาเซ็ตนี้ได้รับแรงบันดาลใจในผลงานภาพวาด CLAUDE MONET คือหัวใจหลักในการสร้างสรรค์นิทรรศการ ‘ALIVE’ ขึ้นมา ซึ่งเปรียบได้กับความประทับใจในทัศนียภาพของทุ่งนารอบบ้าน ซึ่งเป็นภาพจำในวัยเด็กของเขา และยังเป็นต้นทางสู่ความหลงใหลการสร้างสรรค์งานศิลปะในพื้นที่กลางแจ้งตามแนวทางของสตรีทอาร์ทในเวลาต่อมา
และแนวคิดศิลปะแบบ Impressionism ที่ว่าด้วยการบันทึกแสงและสีที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาลงไปในภาพวาด การถูกส่งผ่านลงไปบนนาฬิกาทั้ง 5 เรือนพร้อมกับคาแรคเตอร์ น้องมาร์ดีของเขา โดยในแต่ละเรือนจะมีรายละเอียดความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป (รายละเอียดของแต่ละรุ่นอ่าน ที่นี่)
กลับมาที่ตัวนาฬิกากันในรุ่นนี้มีนาฬิกาด้วยกัน 5 รุ่นย่อยที่ถูกสร้างสรรค์ตามไอเดียและแนวคิดของ Alex Face แต่รุ่นที่ผมชอบและสอยเข้ามาคือ SRPG95K ที่เป็นตัวเรือนรมดำ หน้าปัดเขียว และสาย NATO กับแนวคิด BREATHE (in Green) สำหรับรุ่นนี้เป็นการสะท้อนภาพของช่วงเวลากลางวันของฤดูร้อนที่แสงแดดส่องกระทบใบไม้สีเขียว ตัวเรือน หน้าปัด และสายมากับสีเขียวที่เป็น Theme หลักของตัวนาฬิกา
โดยที่มีชุดเข็มชั่วโมงและนาทีเป็นสีฟ้าอ่อน ส่วนเข็มวินาทีในสไตล์ Lolli-Pop แต้มสีแดงเอาไว้ที่วงกลม ขณะที่ตัวสายมีการรมดำ IP เพื่อขับให้ทุกรายละเอียดดูมีความกลมกลืน ซึ่งถือว่าเป็นการตีความที่อาจจะแตกต่างจากแนวคิดของคนทั่วไปที่ เมื่อเข้าสู่หน้าร้อน อะไรมันจะต้องมีสีสันสดใส
และที่สำคัญคือ ภาพของน้องมาร์ดีที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นภาพที่ติดตาผมมานาน และเป็นรูปแบบแรกๆ ที่ผมได้เห็น จนคิดว่าน้องเค้ามีแค่โพสต์แบบโผล่มาครึ่งหน้าแบบนี้เท่านั้น นั่นก็เลยเหมือนกับความประทับใจแรกที่ส่งต่อมาจนกระทั่งนำมาสู่การเลือกในครั้งนี้
ปกติผมไม่ค่อยชอบสาย NATO สักเท่าไร แต่เมื่อประกอบกับราคาที่ทุกเรือนเท่ากันที่ 13,500 บาทไม่ว่าจะสาย NATO หรือสาย Stainless Steel ดังนั้น ในแนวคิดที่มีความคุ้มค่าเป็นที่ตั้ง ยังไงเราควรจะซื้อรุ่นที่มาพร้อมกับสาย Stainless Steel จะดีกว่าไม่ใช่หรือ ?
แต่เอาเถอะเมื่อมองมาที่ลวดลายของสาย NATO แล้ว ต้องบอกว่า แม้จะเป็นสายผ้าไนลอนที่ราคาควรจะถูกกว่า Stainless Steel แต่ลวดลายที่มีแบบเฉพาะและน้องมาร์ดีที่อยู่บนปลายสาย บวกกับภาพรวมของตัวหน้าปัดและตัวเรือน บอกเลยว่า ‘ลืมเรื่องตรรกะแบบนี้ไปเถอะ’ เลือกที่สวยและชอบก็พอแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 2 จุดที่เป็นจุดอ่อนสำหรับสาย NATO ของนาฬิการุ่นนี้ อย่างแรกคือลวดลายบนสายมีเพียบ แต่เป็นการสกรีนลงบนพื้นผิว ซึ่งไม่แน่ใจว่าเมื่อใช้ไปนานๆ แล้วลายพวกนี้จะมีปัญหาอะไรไหม
และอย่างที่สองคือ ตัวสัญลักษณ์น้องมาร์ดีอยู่ปลายสายที่เมื่อใส่จริงแล้วจะมองไม่เห็นน้องขณะที่นาฬิกาอยู่บนข้อมือ เพราะด้วยเหตุที่ปลายสายยาวและต้องม้วนทบสอดเข้าไปกับห่วง ทำให้ลายน้องมาร์ดีที่อยู่ปลายสายถูกพับลงไป และทำให้ด้านในของสายที่ไม่มีลวดลายอะไรโผล่มาแทนที่
ประเด็นในเรื่องของตัวนาฬิกาและสเป็กที่อยู่ข้างใน ผมว่าเป็นประเด็นที่รองเอามากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่คอลเล็กชั่นนี้ถูกสร้างมาด้วยไอเดียของใคร แต่ถ้าถึงไม่ถาม ผมก็คงต้องบอกว่า Seiko 5 Sports x Alex Face คือ ผลงานที่สมดุลในทั้งเรื่องของราคา สเป็กตัวนาฬิกา แพ็คเกจ และคอนเซ็ปต์ของตัวนาฬิกา เพราะบ่อยครั้งที่แม้ว่า เราจะโอเคกับตัวคอนเซ็ปต์นาฬิกา แต่ทว่านาฬิกาที่เลือกมาทำกลับกลายเป็นข้อด้อยจนกลบความรู้สึกอยากได้และอยากมีไปเลย
5 Sports ใหม่เป็นนาฬิกาที่มิติตัวเรือนที่ถือว่าใส่สะดวกและสบายในสไตล์ Unisex เรียกว่าถ้าคุณเป็นผู้ชาย แน่นอนว่าใส่ได้อยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงนั้น ไม่ว่าจะข้อใหญ่หรือเล็กก็สามารถลุยได้ เพราะด้วย Lug to lug ที่ไม่ยาวมาก แค่ 46 มิลลิเมตร ทำให้เวลาสวมบนข้อมือที่เล็กในระดับบวกลบ 5.5-6 นิ้วแล้ว ยังไงก็ดูแล้วไม่กางมากจนน่าเกลียด
ส่วนกลไกอัตโนมัติ 4R36 ที่อยู่ข้างใน ก็ต้องบอกว่า เป็นกลไกที่เชื่อใจได้ทั้งในเรื่องความทนทาน การใช้งานที่ไม่ได้มีอะไรจุกจิก และความเที่ยงตรงในระดับที่รับได้กับราคาของตัวนาฬิกา ซึ่งสำรองพลังงานในระดับ 42 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้มันเป็นนาฬิกาที่เรียกว่า Weekend Watches หรือมีกำลังสำรองอยู่นานจนกระทั่งทิ้งเอาไว้ในคืนวันศุกร์ แล้วเช้าวันจันทร์ก็ยังเดินต่อโดยไม่ต้องมานั่งตั้งเวลาใหม่
เอาเป็นว่าในแง่ภาพรวมแล้ว นี่คือ นาฬิกาที่อลังการงานสร้างมากเท่าที่ผมเคยเห็น Seiko ทำออกมาในรอบหลายปีเลยทีเดียว ความใส่ใจมีทั้งตัวนาฬิกาไปจนถึงแพ็คเกจที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูมีคุณค่าและน่าสะสม
ซึ่งอย่างที่บอก ด้วยปริมาณการผลิตต่อรุ่นไม่มาก (แต่เมื่อรวมทั้งหมดก็ขึ้นหลักพันอยู่ดี) ทำให้หลายรุ่นกลายเป็นที่ต้องการ และขาดตลาดไปโดยปริยาย โดยเฉพาะพวกที่มีสีสันและถูกวางให้เป็นตัวเต็งในการทำกำไรอย่างสีชมพู และสีเขียว และทำให้ของขาดตลาดอย่างรวดเร็ว
เรียกว่าใครที่ตกข่าวและตกขบวนในช่วงเปิดตัว การที่จะหามาใส่ในราคาป้าย (13,500 บาท) นั้น ต้องบอกว่าให้ลืมไปได้เลย เพราะถึงตอนนี้ราคาขยับขึ้นไปแล้ว
ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko 5 Sports x Alex Face
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.5 มิลลิเมตร
- ความหนา : 13.4 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- กระจก : Hardlex
- กลไก : 4R36
- ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
- กำลังสำรอง : 41 ชั่วโมง
- จำนวนทับทิม : 24
- การกันน้ำ : 100 เมตร
- ประทับใจ : แพ็คเกจ ดีไซน์ และการจับมือกับศิลปินที่มีความใกล้ตัวคนไทย
- ไม่ประทับใจ : การสกรีนลายบนสายที่อาจจะลอกหรือหายเมื่อใช้ไปนานๆ และสาย NATO ที่ลายบนปลายสายหายไปเวลาสวมใส่เพราะปลายสายโดนพับ
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/