หลังจากเปิดตัวรุ่นฉลองครบรอบ 20 ปีไปเมื่อปี 2020 ในตอนนี้ Maurice Lacroix เพิ่มอีก 4 ทางเลือกให้กับ Pontos Chronograph 43mm ด้วย 2 สีหน้าปัดใหม่ที่มาพร้อมกับความหรูและเพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นของกลไกอัตโนมัติ ML115 ที่สามารถจับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง โดยจะมีราคาระหว่าง 3,100-3,150 ยูโร
Maurice Lacroix Pontos Chronograph 43mm ขยับความสดด้วยหน้าปัดสีใหม่
-
เพิ่มสีสันใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีให้กับ Pontos Chronograph
-
ตัวหน้าปัดมีทั้งแบบสีดำขอบ Rhodium เงิน และหน้าปัดเทาขอบและหลักชั่วโมงเป็น 4N Gold
-
มีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อยกับราคาระหว่าง 3,100-3,150 ยูโร
Maurice Lacroix ขยับตลาดครั้งใหม่ให้กับรุ่น Pontos Chronograph 43mm ด้วยหน้าปัด 2 สีใหม่ที่จะเข้ามาเสริมทัพในการทำตลาดร่วมกับ 2 สีแรกที่เปิดตัวในปี 2020 บนตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล 43 มิลลิเมตรพร้อมกับทางเลือกของสายที่มีทั้งสแตนเลสสตีลและสายหนัง
ในปี 2020 Pontos เพิ่งฉลองครบรอบ 20 ปีในการทำตลาดพร้อมกับเปิดตัวนาฬิกาเวอร์ชันใหม่ออกมากับหน้าปัดสีขาวและสีเงิน จากนั้นในปี 2022 เปิดตัวรุ่น Pontos s Chronograph ที่หันมาเน้นความสปอร์ต ซึ่งเป็นตัวย่อของ S หรือ Sport ที่ต่อท้ายชื่อรุ่น ด้วยหน้าปัดในสไตล์ทูโทนหรือ Panda Dial โดยมีจำหน่ายกับสีน้ำเงิน-ดำ และขาว-ดำ ก่อนที่จะมาเปิดตัวทางเลือกใหม่ที่เห็นอยู่นี้
Maurice Lacroix ทำตลาดด้วย 2 สีหน้าปัด คือ ดำขอบเงิน และเทาอ่อนขอบทอง พร้อมกับแบ่งเป็นอีก 2 รุ่นย่อย คือ
- Ref.PT6388-SS002-320-1 หน้าปัดดำขอบเงิน และสายสแตนเลสสตีล
- Ref.PT6388-SS001-320-2 หน้าปัดดำขอบเงิน และสายหนังวัวสีดำปั๊มลายหนังจระเข้
- Ref.PT6388-SS002-321-1 หน้าปัดเทาขอบทอง และสายสแตนเลสสตีล
- Ref.PT6388-SS001-321-2 หน้าปัดเทาขอบทอง และสายหนังวัวสีดำปั๊มลายหนังจระเข้
สิ่งหนึ่งที่ Pontos Chronograph มีความแตกต่างจากรุ่นสปอร์ตคือ นาฬิกาเรือนนี้จะเน้นการใช้สีแบบโทนเดียวเป็นหลัก ซึ่งจะสังเกตได้จากรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมานับจากปี 2020 การตกแต่งจะเน้นความหรูด้วยการเดินขอบเงิน หรือทองตามความเหมาะสมบนขอบตัวเรือนแบบบาง หรือหน้าปัดวงย่อยในระบบจับเวลา เช่นเดียวกับชุดเข็มในตำแหน่งต่างๆ
ตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีล มีการขัดเงาสลับกับซาตินได้อย่างสวยงาม ฝาหลังเป็นแบบใสทำให้มองกลไกอัตโนมัติที่อยู่ด้านหลัง ตัวหน้าปัดขัดลายแบบซันเรย์ พร้อมกับหลักชั่วโมงที่ผลิตจาก Rhodium แบบจัดเงาในรุ่นหน้าปัดดำ แต่ถ้าเป็นรุ่นหน้าปัดเทาจะเป็นหน้าปัดแบบ Sun-Brushed เคลือบด้วยแล็คเกอร์ โดยที่หลักชั่วโมงจะผลิตจากทองคำ 4N และไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนตัวสายจะมากับระบบ Easy-Change ซึ่งช่วยให้สามารถเปลี่ยนสายได้อย่างสะดวกและง่ายดายโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือ และมีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร
กลไกที่ขับเคลื่อนเป็นแบบอัตโนมัติในรหัส ML115 ที่มีพื้นฐานมาจากรุ่น SW-500 ที่มีฟังก์ชั่นจับเวลา Chronograph และผ่านการจัดแต่งโดย Maurice Lacroix โดยมีความสามารถจับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง พร้อมกำลังสำรอง 42 ชั่วโมง ตรงนี้จะแตกต่างจากรุ่น Pontos s Chronograph ที่เป็นรหัส ML112 เพราะในรุ่น Pontos Chronograph เป็นรุ่น Date มีช่องวันที่ในตำแหน่ง 2 นาฬิกาส่วนรุ่น Pontos s Chronograph จะเป็นแบบ Day/Date
Maurice Lacroix Pontos Chronograph 43mm จะทำตลาดโดยมีราคาอยู่ที่ 3,100 ยูโรสำหรับรุ่นสายหนัง และ 3,150 ยูโรสำหรับรุ่นสายสแตนเลสสตีล
รายละเอียดทางเทคนิค : Maurice Lacroix Pontos Chronograph 43mm
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
- ความหนา : 15 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: สแตนเลสตีล
- กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก: อัตโนมัติ ML115 จับเวลา Chronograph
- ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 42 ชั่วโมง
- การกันน้ำ: 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline