Bell & Ross ปรับปรุงนาฬิกาดำน้ำในกลุ่ม BR03 ด้วยรุ่นปี 2024 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่นับจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตรมีทั้งสตีลและเซรามิก กับหน้าปัดสีใหม่ 4 สี ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ BR-Cal.302-1 ที่มีกำลัง 54 ชั่วโมง พร้อมการปรับเปลี่ยนหน้าปัดและชุดเข็มใหม่
Bell & Ross BR03 Diver 2024 เปลี่ยนครั้งใหม่เพื่อความลงตัว
-
การปรับปรุงครั้งใหม่ในรอบ 7 ปีของ BR03 Diver
-
ตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตรมีทั้งสตีลและเซรามิก กับหน้าปัดสีใหม่ 4 สี
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ BR-Cal.302-1 ที่มีกำลัง 54 ชั่วโมง พร้อมการปรับเปลี่ยนหน้าปัดและชุดเข็มใหม่
หลังจากเปลี่ยนแปลงคอลเล็กชั่นหลักของ BR03 ด้วยการลดไซส์ตัวเรือนมาอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร ในตอนนี้ Bell & Ross ยังคงให้ความสนใจกับคอลเล็กชั่น BR03 และคราวนี้เป็นคิวของรุ่น Bell & Ross BR03 Diver 2024 ที่มีการปรับทั้งหน้าตา สีสันบนหน้าปัด และการเปิดตัวด้วยวัสดุตัวเรือนที่มีทั้งเซรามิก และสแตนเลสสตีล เช่นเดียวกับกลไกใหม่ที่มีกำลังสำรองนานขึ้นเป็น 54 ชั่วโมง
Bell & Ross ให้ความสนใจกับตลาดนาฬิกาดำน้ำมาตั้งแต่ปี 1997 หรือ 5 ปีหลังจากที่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นมา ขณะที่ BR03 Diver ซึ่งเป็นการแตกไลน์ออกมาจาก BR03 ในการเป็นนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกที่มากับตัวเรือนทรงเหลี่ยมนั้นเพิ่งเปิดตัวออกมาเมื่อปี 2017 ซึ่งในตอนแรกมีทั้งสแตนเลสสตีล บรอนซ์ และเซรามิก
หรับเวอร์ชันปี 2024 ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่รายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น แต่รวมถึงสิ่งที่อยู่ข้างในตัวนาฬิกา โดยที่ยังคงเอกลักษณ์และรูปแบบของการเป็นนาฬิกาดำน้ำเรือนเหลี่ยมเอาไว้ โดยในปีที่แล้ว Bell & Ross เคยปรับปรุงรุ่น BR03-92 แบบ 3 เข็มมาแล้วรอบหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะมีการลดขนาดตัวเรือนลงด้วย แต่สำหรับรุ่น Diver ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้
Bell & Ross BR03 Diver 2024 รุ่นแรกที่เปิดตัวและทำตลาดจะมาด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นย่อยจาก 2 วัสดุตัวเรือนและ 4 สีหน้าปัด นั่นคือ
- Ref. BR03A-D-BL-ST/SRB : ตัวเรือนสตีลและหน้าปัดสีดำด้าน
- Ref. BR03A-D-BL-CE/SRB : ตัวเรือนเซรามิกและหน้าปัดสีดำด้าน
- Ref. BR03A-D-LM-CE/SRB : ตัวเรือนเซรามิก และหน้าปัดแบบ Full Lum สีเทอร์ควอยซ์
- Ref. BR03A-D-BLU-ST/SRB : ตัวเรือนสตีลและหน้าปัดสีน้ำเงินแบบซันเรย์
- Ref. BR03A-D-WH-ST/SRB : : ตัวเรือนสตีล และหน้าปัดสีขาว
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน คือ ชุดเข็ม โดยในรุ่นนี้จะใช้เข็มชั่วโมงที่เป็นแบบ Arrow Hand หรือปลายหัวลูกศร ขณะที่เข็มนาทียังเป็นแบบแท่งแต่เป็นในสไตล์ Board Sword Hand หน้าปัดมีการปรับในส่วนของหลักชั่วโมงในตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่มีขนาดสั้นลงและใหญ่ขึ้น มีพื้นที่หน้าตัดในการบรรจุสารเรืองแสงออกแนวกว้าง ทำให้สามารถมองเห็นได้ง่ายขึ้น โดยตัวหลักชั่วโมงในหลักสำคัญคือ 3-6-9 จะเป็นแบบ Baignoire-style หรือทรงไข่ แต่มีลักษณ์ที่ยาว
ขณะที่ตัวเลขบนสเกลจับเวลาของอินเสิร์ตขอบหน้าปัด มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมสายยางแบบใหม่ และตัวนาฬิกาสามารถผ่านมาตรฐานของนาฬิกาดำน้ำแบบจัดกลอย่าง ISO6425 ได้ และในรุ่นทุกรุ่นใหม่จะมีการเคลือบสารเรืองแสงเอาไว้บนสเกลของอินเสิร์ตขอบหน้าปัดด้วย เพื่อความสะดวกในการมองเห็นยามค่ำคืน
กลไก คือ อีกสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงในนาฬิกาเรือนนี้ โดย Bell & Ross ใช้กลไกในรหัสเหมือนเดิมคือ BR-Cal.302 ที่ใช้พื้นฐานของ Sellita SW-300 แต่มีการปรับปรุงสเป็ก ด้วยการอัพเกรดกำลังสำรองจากเดิมอยู่ที่ 38 ชั่วโมงมาเป็น 54 ชั่วโมง ซึ่งจะใช้รหัสภายในของ Bell & Ross ว่า BR-Cal.302-1
ตัวนาฬิกามีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และผ่านการทดสอบการใช้งานโดยทาง Bell & Ross ด้วยการแช่อยู่ในน้ำที่มีความลึก 30 เซนติเมตร (+/-2 เซนติเมตร) ที่อุณหภูมิ 18-25 องซาเซลเซียส นานถึง 50 ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบในเรื่องความทนทานต่อแรงกระแทกที่อาจจเกิดขึ้นจนส่งผลต่อการทำงานของกลไกที่อยู่ด้านใน รวมถึงการทดสอบภายใต้แรงดันที่เกินจากสเป็กที่กำหนดเอาไว้ของตัวนาฬิกา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ การทำงานได้อย่างคงที่และต่อเนื่องภายใต้รูปแบบของการทดสอบที่เกินจากสเป็กที่กำหนดเอาไว้เพื่อให้ความมั่นใจในการใช้งาน
สำหรับราคาของ Bell & Ross BR03 Diver 2024 อยู่ที่ 4,000 ฟรังก์สวิสส์สำหรับรุ่นตัวเรือนสตีล และ 4,900 ฟรังก์สวิสส์สำหรับรุ่นเซรามิก โดยทุกรุ่นนอกจากสายยางแล้วจะมีสายผ้าไนลอนเพิ่มมาให้อีกเส้นในเซ็ต
รายละเอียดทางเทคนิค : Bell & Ross BR03 Diver 2024
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มิลลิเมตร
- ความหนา: 12 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: สตีล/เซรามิก
- กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก: อัตโนมัติรหัส BR-Cal.302-1
- ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 38 ชั่วโมง
- การกันน้ำ: 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline