Urwerk ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการทำให้โลกของการผลิตนาฬิการะดับสูงมีความซับซ้อนด้วยรูปแบบทรี่แตกต่างจากเดิมที่คุ้นเคยกันมากว่าหลายร้อยปี และนี่คือ ผลงานล่าสุดของพวกเขากับนาฬิการุ่น UR-112 Aggregat Back to Black ที่มีการผลิตออกขายเพียง 25 เรือนเท่านั้น
Urwerk UR-112 Aggregat Back to Black ความแตกต่างที่มีเพียง 25 เรือนเท่านั้นในโลก
-
ผลงานชิ้นใหม่ของ Urwerk ที่มากับตัวเรือนขนาด 42×51 มิลลิเมตร
-
การแสดงเวลาเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติ UR-13.01 caliber
-
ผลิตเพียง 25 เรือนเท่านั้น
ผลผลิตใหม่ล่าสุดของ Urwerk ที่ไม่ทำให้ผิดหวังอีกครั้ง กับการออกแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเ เช่นเดียวกับการออกแบบระบบแสดงเวลาผ่านทางกลไกอัตโนมัติ ซึ่ง Urwerk UR-112 Aggregat Back to Black จะมีการผลิตออกขายเพียง 25 เรือนเท่านั้นกับราคา 280,000 ฟรังก์สวิสส์
Urwerk UR-112 Aggregat Back to Black (อูอาร์-112 แอกกริเกต แบ็ก ทู แบล็ก) มาพร้อมตัวเรือนสตีลและไทเทเนียมภายใต้สถาปัตยกรรมอันซับซ้อน เริ่มต้นจากส่วนด้านบน กับฝาครอบสตีลที่เซาะร่องและเปลือยโปร่งแบบโอเพ่นเวิร์ก (openworked) ทำให้สามารถมองเห็นถึงความสวยงามของกลไก โดยฝาปิดนี้จะเปิดออกในแนวตั้งเพื่อให้สามารถเข้าถึงการแสดงพลังงานสำรองชั้นรองและการแสดงวินาทีด้วยตัวเลข (digital)
ส่วนโครงร่างกลางไทเทเนียมตกแต่งด้วยงานปัดด้านแบบซาติน ขัดแซนด์บลาสต์ (sandblasted) และบีดบลาสต์ (beadblasted) จึงสร้างรูปของสนามไมโครดอท (microdots) แห่งฟังก์ชัน พร้อมทั้งปีกสตีลทำให้เป็นสีดำทั้งสองชิ้นของ UR-112 Aggregat Back to Black ที่ติดตั้งลงในลำตัวกลาง ทำให้แต่ละโซน แต่ละพื้นที่ และแต่ละองค์ประกอบนั้นมีลวดลายพื้นผิว รวมถึงงานตกแต่งและภาษาการออกแบบเฉพาะตัว
นาฬิการุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน สเปเชียล โปรเจกต์ (Special Project) โดยแยกมาจากคอนเซปต์นับตั้งแต่แรกเริ่มของการแสดงชั่วโมงแบบการโคจร (Wandering-hour indication) สำหรับ Urwerk แต่ปรากฏบนสเกลใหม่ทั้งหมด
พร้อมด้วยโครงร่างใหม่ของ UR-122 Aggregat เช่นกันกับกลไก UR-13.01 caliber ซึ่ง Martin Frei (มาร์ติน ไฟร์) ผู้ร่วมก่อตั้งของ Urwerk กล่าวว่า “แรงบันดาลใจของคอลเลกชัน 112 นั้นได้รับโดยตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ทั้ง Felix และผมนั้นโชคดีที่ได้มีโอกาสพบกับคอลเลกชันรถยนต์สุดประทับใจของคุณ Ralph Lauren
ซึ่งท่ามกลางรถรุ่นหายากที่สุดนั้นก็คือ Bugatti Atlantic และใช่เลย มันคือรักแรกพบ ด้วยเส้นสายอันสมบูรณ์แบบ กับโครงรถที่ไล่เลื้อยไปตามลำตัว ด้วยความสง่างามแบบ Art Déco รถ Bugatti คันนี้คือความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง และเป็นตัวแทนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับภาพวาดร่างแรกของ UR-112”
Content (Add Keyword )
ในแง่ของกลไกในการขับเคลื่อนจะไม่มีทั้งลูกบาศก์ ไม่มีกรงหมุนพร้อมแซทเทิลไลต์ (satellites) ต่างๆ และไม่มีการแสดงแบบส่วน 120 องศา เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่เคยสร้างหน้าประวัติศาสตร์สำคัญให้กับ Urwerk มาแล้วตลอดกว่า 25 ปีที่ผ่านมา โดย UR-112 Aggregat Back to Black แสดงชั่วโมงแบบ Jumping hours และแสดงนาทีแบบ Trailing minutes บนปริซึม
โดยการแสดงเวลาเหล่านี่ถูกย้ายมายังด้านหน้าของนาฬิกา ทำให้สามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจก Sapphire ขนาดใหญ่ ขณะที่ชั่วโมงกระโดดในด้านหนึ่ง นาทีก็ขยับไปข้างหน้าครั้งละห้านาทีบนอีกด้าน ส่วนตัวแสดงแบบลากหรือเทรลลิ่ง (Trailing) เพิ่มเติมนี้จะแสดงหน่วยนาทีที่แม่นยำ
Felix Baumgartner (ฟีลิกซ์ โบมการ์ตเนอร์) ผู้ร่วมก่อตั้งของ Urwerk และช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์ กล่าวว่า “นับเป็นอีกครั้งที่เราได้ปล่อยให้ความกล้าหาญได้พูดแทนเราในการสร้างสรรค์ซึ่งยานอวกาศแห่งเวลา เหมือนกับ UFO ที่เป็นความท้าทายทางเทคนิค
โดย UR-112 เป็นความบ้าอันบริสุทธิ์ในแง่ของจักรกลและการตกแต่ง กับพลังงานที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์กลางของ UR-112 ที่ส่งออกไปทั้งสี่ทิศทางตามแกนขวานไม่น้อยกว่า 12 แกน เสมือนลูกไม้แห่งจักรกลอย่างแท้จริง เราจึงสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้เพียงจำนวนจำกัดมากๆ แต่มันคือความสมบูรณ์แบบซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาและความปิติยินดีในการประดิษฐ์สร้างสรรค์เรือนเวลา!”
การขับเคลื่อนตามการเดินหน้าของเวลานั้นเป็นหน้าที่ของกลไก UR-13.01 caliber ซึ่งมีกระปุกลานขนาดใหญ่ที่มอบพลังงานสำรองได้ถึง 48 ชั่วโมงโดยเชื่อมโยงเข้ากับโรเตอร์ขึ้นลานอัตโนมัติ ผ่านการกดปุ่มสองปุ่มบนด้านข้างของนาฬิกานั้น จะเป็นการเปิดเครื่องกำบังหรือตัวปิดและเผยให้เห็นการแสดงพลังงานสำรองและการแสดงวินาทีเล็กอันน่าตื่นเต้น ซึ่งสำหรับการแสดงวินาทีเล็กนี้ประกอบด้วยดิสก์ซิลิคอนแบบสเกเลตัน ที่เชื่อมต่อเข้ากับสะพานจักรอลูมิเนียม อโนไดซ์สีแดง อันเป็นงานออกแบบต้นตำรับของ Urwerk
ตรงกลางของกลไกชุดนี้จะมีเพลาส่งกำลังขนาดใหญ่ที่มีความยาวหลายเซนติเมตร และอาจนับได้ว่าเป็นชิ้นส่วนที่ยาวที่สุดในการประดิษฐ์นาฬิการ่วมสมัย เพื่อรับประกันถึงความเบาและแข็งแกร่งทนทาน ชิ้นส่วนนี้จึงทำจากไทเทเนียม และมั่นใจได้ว่าจะสามารถจับคู่เข้ากับโมดูลการแสดงซึ่งวางตำแหน่งไว้บนด้านหน้าของตัวเรือนด้านนอกได้อย่างสมบูรณ์ โดยการเชื่อมโยงอันมั่นคงนี้เป็นผลลัพธ์มาจากการวางลำดับและความต่อเนื่องใหม่ของชุดเฟืองที่ขับการเคลื่อนที่ของปริซึมชั่วโมงและนาทีผ่านชุดเฟืองในมุมเอียง 90 องศาสองชุด
โดยปริซึมอลูมิเนียมสีดำที่ได้รับการเซาะโพรงบนด้านต่างๆ นั้นได้เสริมความโดดเด่นดึงดูดสายตาด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova พร้อมทั้งยึดอย่างปลอดภัยด้วยระบบขบวนเฟืองแพลเนต (planetary systems) ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าพวกมันจะหมุนได้ทั้งบนแกนของตนเองและภายในพื้นที่เฉพาะ
โดยการบรรลุผลลัพธ์ด้านจลนศาสตร์นี้จำเป็นต้องอาศัยซึ่งความแม่นยำอย่างมาก และได้มอบเป็นคุณลักษณะอันโดดเด่นของ Urwerk UR-112 Aggregat Back to Black ด้วยงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเหนือกว่าประเพณีใดๆ อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นคือวิถีแห่งอูร์เวิร์ก
นาฬิกาเรือนนี้มีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 25 เรือนเท่านั้น และมีราคาอยู่ที่ 280,000 ฟรังก์สวิสส์
รายละเอียดทางเทคนิค : Urwerk UR-112 Aggregat Back to Black
- ตัวเรือน : กว้าง 42 มม. ยาว 51 มม.และหนา 16 มม.
- วัสดุ : ไทเทเนียมและสตีลเคลือบ ดีแอลซี (DLC)
- กระจก : Sapphire
- กลไก : UR-13.01 caliber อัตโนมัติพร้อมการขึ้นลานมือ
- ความถี่ : 4Hz/28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 48 ชั่วโมง
- การบอกเวลา :ปริซึมอลูมิเนียมแสดงชั่วโมงและนาทีแบบแซทเทิลไลต์ (satellite prisms) เพลาส่งถ่ายกำลังไทเทเนียม, เฟืองวินาทีซิลิคอน
- การตกแต่งกลไก : ตกแต่งลายเกรนวงกลม, แซนด์บลาสต์, โคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève), หัวสกรูขัดเงา
- การกันน้ำ : 30 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline