Ulysse Nardin นำนาฬิการุ่นต้นแบบที่เปิดตัวในปี 2020 มาผลิตใหม่พร้อมกับสเป็กให้เหมาะสมกับการผลิตในเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการผลิตจำกัดเพียง 200 เรือน และเป็นนาฬิกาที่เปิดตัวออกมาพร้อมกับการเป็น Official Timing Partner ของการแข่งขันเรือใบรายการ The Ocean Race ที่จะเริ่มแข่งขันในปี 2023
Ulysse Nardin Diver X The Race Ocean จับมือพันธมิตรใหม่บนความยั่งยืน
-
นำนาฬิกาต้นแบบที่เปิดตัวในปี 2020 มาผลิตจริงและมีจำหน่ายเพียง 200 เรือน
-
เป็นรุ่นพิเศษผลิตและจับมือกับ The Ocean Race ซึ่งเป็นรายการแข่งขันเรือใบ
-
ราคาอยู่ที่ 10,400 ยูโร
นาฬิกาดำน้ำในคอลเล็กชั่น Diver ของ Ulysse Nardin กลับมาอีกครั้ง เมื่อทางแบรนด์จับมือกับพันธมิตรใหม่อย่าง The Ocean Race ซึ่งเป็นรายการแข่งขันเรือ ในการนำเสนอความโดดเด่นของนาฬิกาดำน้ำที่มาพร้อมกับความยั่งยืนในการผลิตด้วยวัสดุที่ผ่านการเข้าสู่กระบวนการ Upcycle ผ่านทางเรือนเวลาของแบรนด์ Ulysse Nardin และมีการผลิตจำกัดเพียง 200 เรือนเท่านั้น
สำหรับการแข่งขันของ The Ocean Race หรือที่ในอดีตเคยรู้จักกันในชื่อ Volvo Ocean Race จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มกราคม 2023 ที่ Alicante ประเทศสเปน และทาง Ulysse Nardin จะเข้ามาร่วมในฐานะที่เป็น Official Timing Partner ของการแข่งขันรายการนี้
โดยนาฬิกาที่นำมาใช้งานนั้นเป็นการนำนาฬิการุ่นต้นแบบที่เคยเปิดตัวในปี 2020 อย่างรุ่น Diver Net Concept Watch ซึ่งทาง Ulysse Nardin นำเสนอนาฬิกาเรือนนี้เพื่อยืนยันถึงความต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาเรื่องขยะพลาสติกที่อยู่ในท้องทะเล ซึ่งในแต่ละปีจะมีขยะพลาสติกจำนวน 9 ล้านตันถูกทิ้งลงมหาสมุทร
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ในรุ่นต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นาฬิกาเรือนนี้จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการลดปัญหาทางด้านขยะพลาสติก ด้วยการนำขยะเหล่านี้เข้ามาผ่านกระบวนการ Upcycling เพื่อผลิตเป็นวัสดุที่เรียกว่า Nylo สำหรับใช้ในการผลิตตัวเรือน ส่วนสายที่เป็นเส้นใยดูคล้ายกับสาย NATO นั้นมาจากวัสดุที่ผ่านกระบวนการ Recycle จากขวดพลาสติก PET ขณะที่กระจกนาฬิกา ผลิตมาจากเซรามิกแบบใส ส่วนในรุ่นเพื่อจำหน่ายจริง ก็มีการคงแนวทางบางส่วนเอาไว้ แต่ไม่เหมือนกันในทุกส่วน
สำหรับตัวเรือนจะมีขนาด 44 มิลลิเมตรผลิตจากการผสมระหว่าง Nylo (60%) และ Carboium (40%) ดังนั้น บนตัวเรือนจึงมีลวดลายที่แตกต่างและดูคล้ายกับตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ขณะที่ฝาหลังผลิตจากสตีล ซึ่งก็มาจากวัสดุที่มาจากของสตีลที่เหลือใช้ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และนำกลับเข้าสู่กระบวนการ Upcycling ส่วนกระจกจะเปลี่ยนมาเป็นแบบ Sapphire
ในส่วนของหน้าปัดจะยึดเลย์เอาท์ในการออกแบบสไตล์เดียวกับนาฬิการุ่นต้นแบบ Diver Net Concept Watch โดยพื้นหน้าปัดจะมีสีเข้มกว่าและมาพร้อมกับพื้นผิวที่มี Texture หรือดีเทลที่สวยและดูเป็นมิติ ขณะที่ลายหน้าปัดจะมากับลาย X-Shape ด้วยพื้นผิวโทนสีเทาและมีตัดด้วยเส้นสีเขียว พร้อมกับสีขาว
ที่น่าสนใจคือ กว่า 95% ของชิ้นส่วนที่อยู่ในกลไก UN-118 จะถูกผลิตโดยซัพพลายเออร์ที่มีที่ตั้งซึ่งอยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตรโดยรอบของโรงงาน Ulysse Nardin เพื่อลดระยะทางการขนส่งที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยก๊าซไอเสียออกมา โดยมีความถี่ในการทำงานอยู่ที่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และมีกำลังสำรองอยู่ที่ 60 ชั่วโมง มาพร้อมกับฝาหลังแบบใส ซึ่งทำให้เรามองเห็นโรเตอร์ขึ้นลานที่มีการสลักชื่อของ Ulysse Nardin ส่วนบนฝาหลังมีการสกรีนข้อความ The Ocean Race เอาไว้ ขณะที่หมายเลขในการกำกับตัวเรือนไม่มีการระบุเอาไว้บนฝาหลัง นอกจากคำว่า Limited Edition
นาฬิกาเรือนนี้มีการผลิตจำนวนทั้งหมด 200 เรือนและมาพร้อมกับแพ็คเกจที่ผลิตจากวัสดุที่ผ่านกระบวนการ Upcycle มาจากขวดพลาสติกที่เรียกว่า R-PET พร้อมความสามารถในการกันน้ำ ส่วนราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 10,400 ยูโร
รายละเอียดทางเทคนิค : Ulysse Nardin Diver X The Race Ocean
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : Nylo (60%) และ Carboium (40%)
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : UN-118 อัตโนมัติ แบบ Small Second
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
- จำนวนการผลิต : 200 เรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline