TAG Heuer นำสีสันที่อยู่บนในโลกแห่งความเร็วมาถ่ายทอดลงบนหน้าปัดของนาฬิกาควอตซ์แบบจับเวลารุ่นดังของแบรนด์อย่าง Formula 1 Chronograph ซึ่งนาฬิการุ่นใหม่นี้จะมีด้วยกัน 3 สีของหน้าปัดคือ แดง เขียว และเหลือง โดยจะมาพร้อมกับสายยางโทนสีเดียวกันเพื่อสร้างสีสันที่สดใสบนข้อมือ
TAG Heuer Formula 1 Chronograph สีสันจากสนามแข่งสู่การใช้งานบนหน้าปัด
-
นำ 3 สียอดนิยมในวงการรถแข่งช่วงทศวรรษที 1970 มาถ่ายทอดลงบนหน้าปัดนาฬิการุ่น Formula 1 Chronograph
-
ตัวเรือนสแตนเลสสตีล 43 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ และกันน้ำ 200 เมตร
-
หน้าปัดมีด้วยกัน 3 สีคือ แดง เขียว และเหลือง ซึ่งมีราคาเท่ากันที่ 1,850 เหรียญสหรัฐฯ
เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าเรื่องของสีสันที่อยู่บนหน้าปัดไม่ได้ถูกตีกรอบด้วยสีที่มีความเรียง่ายและเคร่งขรึมอีกต่อไป แต่หลายๆ แบรนด์เริ่มนำสีสดใสที่มีความสนุกสนานเข้ามาเติมเต็มและเพิ่มเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่ง TAG Heuer เองก็จัดการตอบรับความต้องการแบบใหม่ๆ ของลูกค้าด้วยการปรับคอลเล็กชั่น Formula 1 Chronograph ด้วยการเติมสีสันสดใสเข้าไป โดยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อยกับสีหน้าปัดทั้งเหลือง แดง และเขียว
TAG Heuer Formula 1 Chronograph ถือเป็นนาฬิกาที่อยู่คู่กับแบรนด์มาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1980 สมัยที่ TAG Heuer เริ่มต้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการ F1 อย่างเต็มตัว โดยตัวนาฬิกาถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิดของสีสันและรูปลักษณ์ที่ทันสมัยเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น (ในยุคนั้น) โดยจะมีทั้งแบบที่เป็น 3 เข็มและ Chronograph
สำหรับรุ่นใหม่ถือเป็นเวอร์ชันปี 2022 ที่ทางแบรนด์นำแนวคิดในการใช้สีสันของโลกแห่งความเร็วหรือ Racing Color มาเป็น Theme ในการสร้างสรรค์ความสวยเด่นอยู่บนข้อมือ โดยจะมีด้วยกัน 3 สีที่ถูกใช้ในแวดวงรถแข่ง คือ
- Ref CAZ101AP : British Racing Green ซึ่งเป็นสีเขียวที่หลายคนรู้จักชื่อนี้กันดี เพราะถูกใช้มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 สำหรับรถแข่งที่มาจากเกาะอังกฤษ
- Ref CAZ101AN : Rosso Corsa Red กับสีแดงเพลิงที่เราคุ้นตากับรถแข่งและรถสปอร์ตสัญชาติอิตาเลี่ยน
- Ref CAZ101AM : Or Yellow กับสีทองผ่องอำพัน ที่หลายทีมแข่งมักจะนำเข้าไปผสมผสานกับสีอื่นๆ เพื่อใช้ในรถของตัวเอง
ทั้ง 3 สีนี้ถือเป็นสีหลักที่เราพบเห็นได้อยู่เป็นประจำในรถแข่งที่อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งบนหน้าปัดของนาฬิการุ่นใหม่นี้จะมากับลายแบบซันเรย์ที่มีการเล่นแสงอย่างสวยงามเวลาที่สัมผัสกับแสงที่มาส่องกระทบ ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีลและมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร มาพร้อมกับขอบตัวเรือนแบบสตีลเคลือบ PVD ดำและไม่สามารถหมุนได้ (Fixed Bezel) ซึ่งบนขอบตัวเรือนจะมีสเกล Tachymeter ขณะเดียวกันเม็ดยม และปุ่มกดในระบบจับเวลาที่ตำแหน่ง 2 และ 4 นาฬิกาก็จะมีการเคลือบ PVD ดำเช่นเดียวกัน
ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับสายยางที่มีโทนสีเดียวกับหน้าปัด และขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์แบบจับเวลา ซึ่งในตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะเป็นวงจับเวลาละเอียดในระดับ 1/10 วินาที และในตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นวงจับเวลาสูงสุด 30 นาที พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร
เริ่มทำตลาดแล้ว และทุกรุ่นมีราคาเท่ากันที่ 1,850 เหรียญสหรัฐฯ
ข้อมูลทางเทคนิค : TAG Heuer Formula 1 Chronograph
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
- หนา : 12.4 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 21.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กระจก: Sapphire
- กลไก: ควอตซ์ พร้อมฟังก์ชันจับเวลา
- การกันน้ำ: 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline