TAG Heuer เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับสมาร์ทวอทช์รุ่น Connected กับตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 23 ที่มีขนาด 42 มิลลิเมตร พร้อมการขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre E4 รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมชิพ Qualcomm Snapdragon 4100+ และหน้าจอขนาด 1.28 นิ้วที่มีกระจก Sapphire ทรงโดมคลุมเอาไว้
TAG Heuer Connected Black Titanium Calibre E4 ความพิเศษมาพร้อมตัวเรือน 42 มิลลิเมตร
-
อีกทางเลือกจาก Connected ด้วยรุ่น Black Titanium ที่มีขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วย Calibre E4 พร้อมชิพ Qualcomm Snapdragon 4100+
-
เริ่มทำตลาดกลางเดือนกุมภาพันธ์กับราคา 2,350 เหรียญสหรัฐฯ
กลไกใหม่อย่าง E4 ของค่าย TAG Heuer ซึ่งอยู่ในสมาร์ทวอทช์รุ่น Connected มีการขยับตัวเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจับคู่กับตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตรที่ผลิตจากไทเทเนียม และรมดำเพื่อความเข้มแบบสปอร์ต โดยจะจำหน่ายในชื่อ TAG Heuer Connected Black Titanium Calibre E4
Calibre E4 ถูกเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในช่วงต้นปี 2022 โดยเป็นการพัฒนาให้ตัวกลไกมีขนาดบางลงจะมาพร้อมกับชิพประมวลผลที่มีความเร็วและทรงประสิทธิภาพขึ้นอย่าง Qualcomm Snapdragon 4100+ (รุ่นเดิม Calibre E3 ใช้ชิพ Qualcommm Wear 3100) พร้อมกับการเติมฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้าไปเพื่อทำงานร่วมกับ Sports App เช่นเดียวกับหน้าจอรูปแบบใหม่ๆ ที่ทำให้ตัวนาฬิกามีความแปลกใหม่และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของระบบปฏิบัติการนั้น TAG Heuer Connected Calibre E4 จะขับเคลื่อนด้วย Google’s Wear OS 2 และสามารถอัพเกรดเป็น OS 3 ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเมื่อมีการเปิดให้อัพเกรด
 |
 |
 |
 |
หลังจากนั้นทาง TAG Heuer ได้เปิดตัวเวอร์ชันต่างๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของกลไกรุ่นนี้ออกสู่ตลาดหลายต่อหลายรุ่น เช่น Golf Edition และ Porsche Edition ซึ่งก็รวมถึง 2 รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาในงาน LVMH Watch Week 2023 ที่สิงคโปร์เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งก็คือ Sport Edition 45mm กับ Black Titanium Calibre E4 ที่มาพร้อมตัวเรือนไซส์เล็กอย่าง 42 มิลลิเมตร
 |
 |
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่การใช้ตัวเรือนที่ผลิตจากไทเทเนียม เกรด 2 พร้อมกับการรมดำด้วยกรรมวิธีแบบ DLC ซึ่งจะมีความทนทานและสวยงามยาวนานกว่า ตัวนาฬิกาถูกออกแบบให้ดูคล้ายกับนาฬิกาจับเวลาแบบ Chronograph มาพร้อมเม็ดมะยมขนาดใหญ่ที่ผลิตจากสตีล ซึ่งจะทำหน้าที่ในการเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวนาฬิกา ส่วนสายเป็นแบบยางพร้อมกับบานพับซึ่งให้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ โดยที่หน้าจอของตัวนาฬิกาเป็นแบบ OLED มีขนาด 1.28 นิ้วพร้อมกระจก Sapphire แบบทรงโดม
นอกจากการใช้งานด้วยฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายและครอบคลุมในทุกการใช้งานแล้ว ตัวนาฬิกายังได้รับการปรับปรุงให้สามารถแสดงผลงาน NFT ได้ ซึ่งนับจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา TAG Heuer ได้รับปรุงให้กลไก Calibre E4 ของตัวเองสามารถทำหน้าที่ได้
โดยเจ้าของสามารถนำผลงาน NFT ที่ตัวเองสะสมเอาไว้จัดเข้ามาเก็บในสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ผ่านทางฟังก์ชั่น Lens Watch Face ทำให้ตัวหน้าจอของตัวนาฬิกาสามารถแสดงได้ทั้งงาน NFT และเวลาได้ ซึ่งถือเป็นแรกที่ผู้สะสม NFT สามารถนำสินทรัพย์ของตัวเองขึ้นมาแสดงบนหน้าจอของนาฬิกาและสามารถสวมใส่ได้ ซึ่งการทำงานครั้งนี้ทาง TAG Heuer ได้ทำงานผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง BAYC, Cyptopunk, CLONE-X หรือ World Women Communities เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟฟังก์ชั่นนี้จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TAG Heuer Connected Black Titanium Calibre E4 เริ่มทำตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ด้วยราคา 2,350 เหรียญสหรัฐฯ
รายละเอียดทางเทคนิค : TAG Heuer Connected Black Titanium Calibre E4
- รหัสรุ่น : Ref.SBR8081.BT6299
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มิลลิเมตร
- ความหนา: 15.3 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย: 22 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: ไทเทเนียมเคลือบ DLC
- กระจก: Sapphire แบบแบนเรียบ (Flat)
- กลไก: Calibre E4
- แบตเตอรี่: 330 mAh
- ระบบปฏิบัติงาน: Google’s Wear OS 2
- ชิพประมวลผล : Qualcomm® Snapdragon 4100+ Connectivity: BT 5.0, Wi-Fi GNSS: GPS, GLONASS, BeiDou, QZSS, Galileo
- หน้าจอ: OLED display 1.28’’ 416×416 pixels (326ppi)
- การกันน้ำ: 50 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
