TAG Heuer เปิดทางเลือกในตลาดด้วยเวอร์ชันเอาท์ดอร์ของนาฬิกาในตระกูล Aquaracer ที่มากับชื่อ Professional 200 ว่งจะมีทั้งขนาด 40 มิลลิเมตรสสำหรับผู้ชาย และ 30 มิลลิเมตรสำหรับผู้หญิง
TAG Heuer Aquaracer Professional 200 ทางเลือกใหม่กับ 2 ขนาดตัวเรือน
-
การเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคอลเล็กขั่น Aquaracer ด้วยรุ่น Professiona 200
-
มีทั้งรุ่น 40 และ 30 มิลลิเมตร พร้อมกลไกที่มีทั้งอัตโนมัติและควอตซ์
-
ราคาจะอยู่ที่ 1,950-4,700 เหรียญสหรัฐฯ
TAG Heuer เปิดตัวทางเลือกใหม่ของนาฬิกาดำน้ำในตระกูล Aquaracer ด้วยรุ่น Professional Aquaracer 200 ที่มีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร พร้อมทางเลือกของขนาดตัวเรือนที่มีทั้งไซส์ 30 และ 40 มิลลิเมตร พร้อมกลไกที่มีทั้งแบบอัตโนมัติ และควอตซ์
ตรงนี้ถือเป็นการนำชื่อ Professional Aquaracer 200 กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง โดยจุดเริ่มต้นของนาฬิกาสปอร์ตรุ่นนี้เกิดขึ้นในปี 1978 เมื่อ Jack Heuer เปิดตัวรุ่น Heuer Ref.844 ออกมา ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ชายและผู้หญิงที่มองหานาฬิกาสปอร์ตสำหรับใช้ในกิจกรรมกลางแจ้งของพวกเขา ไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำ ดังนั้น นาฬิการุ่นนี้จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นในการกลุ่มนาฬิกา Outdoor ของ TAG Heuer ซึ่งได้นำไปสู่การเปิดตัวรุ่น Aquaracer ในเวลาต่อมา
หลังจากที่นาฬิกาสปอร์ตรุ่นนี้ถูกเปิดตัวออกมาก็มีการปรับแนวคิดและการทำตลาดใหม่ พร้อมกับแนะนำชื่อ Aquaracer เข้ามาในปี 2004 นาฬิกาเรือนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั้งบนบกและต้ำน้ำ พร้อมคุณสมบัติ 6 ประรที่ถือเป็นจุดเด่นของนาฬิกาสไตล์นี้ นั่นคือ ขอบตัวเรือนแบบหมุนทางเดียว, เม็ดมะยมขันเกลียว, การกันน้ำที่ไม่ต่ำกว่า 200 เมตร, พรายน้ำสว่างและชัดเจน, กระจก Sapphire และบานพับสายแบบ Safety ที่เป็นแบบตัวล็อก 2 ชั้น ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ TAG Heuer ยึกปฏิบัติมานานตลอด 40 ปีของการพัฒนานาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้
สำหรับในรุ่นใหม่ของ Aquaracer ในปีที่แล้ว มีการเปิดตัวโฉมใหม่ของ Professional 300 ออกมา พร้อมกับการตอบรับที่ยอดเยี่ยม ส่วนในปีนี้ พวกเขานำเสนออีกทางเลือกภายใต้รูปแบบที่แตกต่าง เพราะในขณะที่ Professional 300 คือ การเน้นไปที่กลุ่มคนรักการดำน้ำ แต่สำหรับ Professional 200 คือ การตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ซึ่งต้องการนาฬิกาที่มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งการใช้งานบนบกและในน้ำ
 |
 |
 |
 |
ในเวอร์ชันปี 2022 ของ Aquaracer Professional 200 ทาง TAG Heuer นำเสนอทางเลือกด้วยกันจาก 2 ไซส์ตัวเรือนคือ 40 และ 30 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับกลไกที่มีทั้งแบบอัตโนมัติ และควอตซ์ โดยรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับขอบตัวเรือนแบบ 12 เหลี่ยมซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของนาฬิกาจาก TAG Heuer ที่นำรูปแบบของขอบตัวเรือนแบบนี้มาใช้เป็นครั้งแรกในปี 1955 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับรุ่นผู้ชายขนาดของ Professional 200 จะลดลงจากรุ่น Professional 300 อีก 3 มิลลิเมตรมาอยู่ที่ 40 มิลลิเมตร ฝาหลังไม่มีสัญลักษณ์ของหมวกนักดำน้ำ (Scaphander Diving Helmet )ที่แฟน Aquaracer คุ้นเคยกันดี แต่มากับภาพลักษณ์ของเข็มทิศแทน
 |
 |
 |
 |
 |
 |
ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 40 หรือ 30 มิลลิเมตรถ้าใช้กลไกอัตโนมัติสิ่งหนึ่งที่มีร่วมกันคือ ในรุ่นนี้จะมีหน้าปัดแบบ Fume ที่ไล่โทนสีจากจุดกึ่งกลางออกไปขอบนอก ขณะที่รุ่นควอตซ์จะเป็นแบบโทนสีเรียบ และไม่มีช่องหน้าต่างสสำหรับแสดงวันที่เหมือนกับกลไกอัตโนมัติซึ่งจะอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา
 |
 |
 |
 |
สำหรับรุ่น 40 มิลลิเมตรจะมากับหน้าปัดสีดำและน้ำเงินในรุ่นกลไกอัตโนมัติ ส่วนกลไกควอตซ์จะใช้หน้าปัดสำและสีขาว ส่วนรุ่น 30 มิลลิเมตร ถ้าเป็นกลไกอัตโนมัติมี 2 รุ่นคือ หน้าปัดดำและน้ำเงิน โดยใช้หลักชั่วโมงแบบฝังเพชร ส่วนรุ่นควอตซ์มีให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกันคือ ดำ ไลท์บลู และสีเงินที่ใช้หลักชั่โมงแบบปกติ ส่วนอีก 2 รุ่นเป็นหน้าปัด Mother of Pearl ที่มีการฝังเพชรเอาไว้บนหลักชั่วโมง และอีกรุ่นหนึ่งมีทั้งฝังเพชรบนหลักชั่วโมงและบนขอบตัวเรือน
ทุกรุ่นมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร โดยในรุ่นอัตโนมัติจะใช้กลไก Caibre 5 มีกำลังสำรอง 38 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 40 มิลลิเมตร และ Calibre 9 สำหรับรุ่น 30 มิลลิเมตร มีกำลังสำรอง 40 ชั่วโมง
สำหรับราคาของนาฬิกาจะเริ่มต้นที่ 1,950 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นผู้หญิง 30 มิลลิเมตรควอตซ์หน้าปัดแบบธรรมดาไปจนถึงรุ่นสูงสุด 4,700 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับรุ่นผู้หญิงแบบฝังเพชรทั้งบนหน้าปัดแบขอบตัวเรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
