Rado ปัดฝุ่นนำชื่อ Over-Pole กลับมาอีกครั้งหลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว โดยครั้งนี้มากับตัวเรือนของ Captain Cook พร้อมการผลิตจำกัดเพียง 1,962 เรือนเท่านั้น
Rado Captain Cook Over-Pole การกลับมาเพื่อนักเดินทางยุคใหม่
-
นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ใหม่จากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1962
-
ตัวเรือน 37 มิลลิเมตรผลิตจากสตีล และขอบตัวเรือนเซรามิกมาพร้อมกับการสลักชื่อเมืองที่เป็นเขตเวลาเอาไว้
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน R862 และมีการผลิตเพียง 1,962 เรือนตามปีที่นาฬิการุ่นนี้เปิดตัว
การนำเรื่องราวและนาฬิการุ่นดังในอดีตกลับมานำเสนอใหม่ในรูปแบบของเรือนเวลาที่สุดพิเศษนั้น นอกจากจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวและความสำเร็จที่ผ่านมาของแบรนด์แล้ว อีกจุดหนึ่งคือ การเพิ่มความสวย โดดเด่น และความน่าสนใจของนาฬิกาเรือนนั้นได้อีกด้วย เพราะถือเป็นการสร้างสรรค์โดยมีแรงบันดาลจากความสำเร็จในอดีต และนี่คือ สิ่งที่มีอยู่ที่ในตัว Rado Captain Cook Over-Pole นาฬิกาที่ถูกผลิตขึ้นในแบบ Limited Edition
Rado Captain Cook Over-Pole เป็นการอ้างอิงงานออกแบบที่โดดเด่นของนาฬิการุ่นดังของ Rado นั่นคือ Over-Pole Worldtimer ที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 และมีจุดเด่นอยู่ที่ขอบตัวเรือนซึ่งมีการสลักชื่อเมืองสำคัญที่ถูกใช้เป็นการอ้างอิงเขตเวลา หรือ Time Zone ในแต่ละชั่วโมง
งานนี้ถือเป็นการร่วมมือกันของ 2 นาฬิการุ่นดังในอดีต นั่นคือ Over-Pole Worldtimer ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1962 และรุ่นใหม่ของ Captain Cook ที่ถูกนำกลับมาผลิตใหม่อีกครั้งและเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2019 สำหรับ Over-Pole Worldtimer รุ่นแรกประสบความสำเร็จอย่างมากเนื่องจากเป็นนาฬิกาจับเวลาที่เชื่อถือได้ที่ใช้งานได้จนถึงขีดสุดของขั้วโลก และมีชื่อที่ชวนให้นึกถึงเพื่อเป็นการฉลองให้กับนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสำรวจ และนั่นได้นำไปสู่การเปิดตัว Rado Captain Cook Over-Pole รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยคุณลักษณะทางเทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุดของ Rado ในขณะที่ยังคงรูปลักษณ์ในสไตล์วินเทจเอาไว้ และใช้ตัวเรือนสตีลของ Captain Cook
งานนี้เรียกว่า Rado แทบจะถอดแบบมาจากรุ่นดั้งเดิม Over-Pole Worldtimer เพราะคงรายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของตัวนาฬิกาเอาไว้ เช่น อินเสิร์ตบนของตัวเรือนที่เป็นแบบ Worldtime มีการใส่ชื่อเมืองของเขตเวลาทั้ง 24 เขตเวลาเอาไว้สำหรับใช้ในการระบุเวลาที่ 2 แต่เพิ่มความพิเศษตรงที่อินเสิร์ตนี่ผลิตจากเซรามิก ตามด้วยชุดเข็มชั่วโมงและนาทีซึ่งเป็นทรงปลายแหลม และหน้าปัดซึ่งตรงขอบนอกสุดจะมีการใส่สเกลของ 24H เอาไว้เพื่อใช้ในการทำงานร่วมกับอินเสิร์ตในการระบุเวลาทั่วโลก และขอบตัวเรือนสามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง
ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล มีขนาด 37 มิลลิเมตร และมาพร้อมกับสายสตีล โดยจะมีสายหนังเพิ่มมาให้ในเซ็ตอีกชุด ส่วนด้านหลังเป็นแบบฝาหลังเปลือย สามารถมองเห็นความงามของกลไกในรหัส R862 ซึ่งเป็นแบบไขลาน ใช้พื้นฐานของกลไกจาก ETA มีกำลังสำรองนานถึง 80 ชั่วโมงและใช้ใยนาฬิกาหรือ Hairspring ที่ผลิตจาก Nivachron ป้องกันสนามแม่เหล็ก และมีความทนทานในการใช้งานมากกว่าใยนาฬิกาที่ผลิตจากสตีล
การผลิตมีเพียง 1,962 เรือนตามปีที่นาฬิกาเรือนนี้ถูกเปิดตัวออกมา และมีราคาอยู่ที่ 2,400 เหรียญสหรัฐฯ โดยตัวนาฬิกาจะมาพร้อมกับกระเป๋าหนังที่ถูกออกแบบมาเพื่อนาฬิกาเรือนนี้โดยเฉพาะและสามารถใช้เป็นกระเป๋าพกพาสำหรับติดตัวในเวลาเดินทางได้ด้วย
รายละเอียดทางเทคนิค :
- รหัสอ้างอิง : Ref R32116158
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 37 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 43.1 มิลลิเมตร
- ความหนา : 10.3 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire
- กลไก : ไขลาน Rado Calibre R862
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 80 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline