ตอนที่ออกเวอร์ชันแรก สารภาพตามตรงเลยว่าเวอร์ชัน Royal Flying Doctor Service II ของ Oris โดนใจผมมากในแง่ของดีไซน์และการออกแบบ แต่เรื่องของการอินในแง่สตอรี่ที่เกี่ยวข้องกับตัวนาฬิกานั้น สารภาพตามตรงอีกเช่นกันว่า ไม่ได้มีผลอะไรกับผมมากเท่ากับหน้าตาของมัน และการทำให้พิเศษขึ้นด้วยการใส่สเกล Pulsometer เอาไว้สำหรับให้คุณหมอใช้ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
Oris Royal Flying Doctor Service II : ขยายตัวเรือน แค่ 2,000 เรือน
ในเมื่อสวยและโดนขนาดนี้จึงไม่น่าแปลกใจทื่ Oris จะเปิดตัวเวอร์ชันที่ 2 ออกมา โดยนาฬิการุ่นนี้ผลิตเพื่อหน่วยงานอากาศยานเพื่อการบริการทางการแพทย์แห่งชาติออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในหน่วยงานอากาศยานบริการด้านการแพทย์ที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในโลก ซึ่ง Oris ได้ร่วมงานกับองค์กรที่ไม่หวังผลกําไรนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 และในปี นี้ได้ร่วมมือกันอีกครั้งด้วยการรังสรรค์นาฬิกาที่ผลิตมาจํานวนจํากัดเป็นรุ่นที่สอง Oris Royal Flying Doctor Service Limited Edition II
หน่วยงานอากาศยานเพื่อการบริการทางการแพทย์ ให้บริการฉุกเฉินและดูแลสุขภาพเบื้องต้นให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย โดยเครื่องบินปฏิบัติการมากกว่า 60 ลําจากฐานทัพอากาศทั่วประเทศ รวมทั้งเครื่องบิน Swiss Pilatus PC-12 ด้วย และในเวลาอีกไม่นานก็จะเพิ่มเครื่องบินเจ็ตที่บินได้เป็นระยะเวลานาน Pilatus PC-24 เพื่อร่วมปฏิบัติการด้วย
เหมือนดังเช่นรุ่นแรก รุ่นใหม่ที่ปรากฏมานี้ประกอบด้วย มาตรวัดชีพจร (Pulsometer) เพื่อใช้ในการตรวจชีพจรของผู้ป่วย ทั้งนี้โอริสได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของมาตรวัดชีพจร สําหรับนาฬิการุ่นใหม่ที่สามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจได้เกินกว่า 20 ครั้งได้อย่างรวดเร็วสม่ำเสมอ วงแหวนบนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้สองทิศทางนั้นช่วยให้ทําการวัดชีพจรสามารถทําได้สะดวกทุกเวลาที่ต้องการ
นาฬิการุ่น Oris Royal Flying Doctor Service Limited Edition II ใช้ฐานเครื่องของรุ่นที่เป็นตํานานของโอริส Big Crown คอลเล็คชั่นนาฬิกาสําหรับนักบินที่เชื่อถือได้ และอ่านค่าต่างๆได้ง่าย ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลของนาฬิการุ่นใหม่ที่ใหญ่กว่าปกติด้วยขนาด 45 มม. หน้าปัดสีดํา และสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่เคลือบทับบนตัวเลข และเข็มนาฬิกาอย่างคมชัด
มาตรวัดชีพจร จะปรากฏเป็นสีส้มเข้มที่ไม่เพียงแต่เป็นสีที่จับสายตาได้อย่างรวดเร็วแต่เพียงเท่านั้น ยังเปรียบได้กับสีของพื้นดินในชนบทห่างไกลของประเทศออสเตรเลียที่ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของหน่วยงาน Royal Flying Doctor Service อีกด้วย อีกทั้งวงแหวนบนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้สองทิศทางยังสามารถใช้ปรับตั้งเวลาสําหรับประเทศที่สองได้ด้วย
นาฬิการุ่นใหม่นี้ มีหลายจุดที่มีความพิเศษที่สะท้อนให้เห็นถึงสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นระหว่าง โอริส กับ Royal Flying Doctor Service โดยจัดวางสัญลักษณ์ของหน่วยงานนี้ให้ปรากฏอยู่บนขอบหน้าปัดเหนือตําแหน่ง 12 นาฬิกา และสลักอยู่บนฝาหลังของตัวเรือน อีกทั้งบรรจุอยู่ในกล่องไม้หรูพร้อมเหรียญโลหะสลักตราสัญลักษณ์ด้วยเช่นกัน
นาฬิการุ่น Oris Royal Flying Doctor Service Limited Edition II ผลิตจํานวนจํากัดเพียง 2,000 เรือน ประกอบเข้ากับสายหนัง หรือสายสเตนเลสสตีล โดยโอริสจะมอบรายได้จากการจําหน่ายให้กับ Royal Flying Doctor Service ส่วนราคาก็มีการเปิดเผยว่า 88,000 บาทสำหรับสายเหล็ก และ 77,000 สำหรับสายหนัง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch