OMEGA กับความสำเร็จในการเก็บสถิติของ Olympic 2020

0

มีผลการแข่งขันมากกว่าหนึ่งล้านรายการถูกคำนวนใน Tokyo 2020 ผ่านทางอุปกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากทาง OMEGA ในฐานะผู้ทำหน้าที่หลักในการจับเวลาของทุกการแข่งขันใน Olympic 2020 ครั้งนี้

- Advertisement -

OMEGA กับความสำเร็จในการเก็บสถิติของ Olympic 2020

เมื่อมหกรรมกีฬาโอลิมปิก Tokyo 2020 รูดม่านปิดฉากลงด้วยพิธีปิดอย่างยิ่งใหญ่ OMEGA ก็ถึงเวลาที่จะหวนย้อนกลับไปมองการทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการและเผยสถิติในการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์รวมถึงผลการแข่งขัน

นับเป็นครั้งที่ 29 ตั้งแต่ปี 1932 ที่ OMEGA ได้ทำหน้าที่ในทุกการแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก นับเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งที่จะต้องบันทึกความฝันของเหล่าสุดยอดนักกีฬาระดับโลก และแม้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ Tokyo 2020 ก็หาใช่ข้อยกเว้น ความจริงแล้วนี่คือการมีส่วนร่วมในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งใหญ่ที่สุดที่ OMEGA เคยมีส่วนมาตลอด 89 ปี

เพื่อจะปฏิบัติหน้าที่นี้ ทางบริษัทได้จัดส่งเครื่องบอกเวลากว่า 530 ชิ้น อุปกรณ์อื่นๆ หนักรวม 400 ตัน และอาสาสมัคร 900 คนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

ตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ที่น่าจดจำ ทางคณะได้คำนวนผลการแข่งขันไปกว่า 1,300,000 รายการ ตั้งแต่ลู่วิ่งในสนามกีฬาโอลิมปิกไปจนถึงชายฝั่งของ Tsurigasaki Surfing Beach แบรนด์ OMEGA อยู่ในทุกการแข่งเพื่อบันทึกทุกผลการแข่งขันอันยอดเยี่ยม

และผลบางรายการก็น่าชื่นชมเป็นพิเศษ มีการสร้าง สถิติโอลิมปิกกว่า 171 รายการ ระหว่าง Tokyo 2020 รวมถึง สถิติโลก 31 รายการ หนึ่งในนั้นคือสถิติเวลา 49.45 วินาทีจากรายการผีเสื้อ 100 เมตรชายของนักกีฬาอเมริกัน Caeleb Dressel

Omega Olympic 2020 Omega Olympic 2020

สำหรับด้านเทคโนโลยี OMEGA ก็เปี่ยมด้วยอุปกรณ์ทันสมัยซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีอย่าง ปืนออกตัวไฟฟ้า และกล้องโฟโต้ฟินิช นอกจากนี้ มีกว่า 7 ชนิดกีฬาที่ได้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและระบุตำแหน่งแบบใหม่ ที่จะสามารถบอกค่าอย่างละเอียดได้ เช่น ความเร็วในเวลานั้น และตำแหน่งปัจจุบัน สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถถ่ายทอดการแข่งขันได้ครบทุกแง่มุม และแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผลลัพธ์ต่างๆ นั้นได้มาอย่างไร

ครั้งนี้นับเป็นมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่แตกต่าง แต่ Tokyo 2020 ก็จะได้รับการจดจำอย่างรักใคร่สำหรับความพยายามอย่างยอดเยี่ยมของเหล่านักกีฬาลงสนาม ตอนนี้ OMEGA กำลังก้าวเข้าสู่การทำหน้าผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการครบ 100 ปีในปี  2032 จนกว่าจะถึงวันนั้น ยังมี Beijing 2022 กับ Paris 2024 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในไม่ช้า และเรายังมีงานอีกมากที่ต้องเตรียมการ!