อีกความสง่างามของเรือนเวลาจาก โอเมก้า กับรุ่น Omega Constellation Small Second มาพร้อมกับขนาดตัวเรือน 34 มม.แบบใหม่ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบทอง Sedna™ 18K, สแตนเลสสตีลหรือสองกษัตริย์ บนขอบตัวเรือนสลักด้วยหลักเลขโรมันหรือล้อมเพชรฟูลคัท 38 เม็ด
Omega Constellation Small Second อีกความสง่างามบนข้อมือ
Constellation เผยโฉมครั้งแรกในปี 1952 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของ โอเมก้า ในด้านความงดงามและความเที่ยงตรง รูปลักษณ์ที่กลายเป็นที่จดจำในปัจจุบันซึ่งโดดเด่นด้วยชุดกรงเล็บและเหลี่ยมของขานาฬิกาทรงจันทร์ครึ่งซีกนั้นปรากฎครั้งแรกในปี 1982 และกลายเป็นหนึ่งในการออกแบบนาฬิกาที่ได้รับการจดจำมากที่สุด ในปีนี้ โอเมก้าได้เสริมทัพคอลเลคชั่นด้วยรุ่น Small Seconds ซึ่งมีการประดับเพชรและเพิ่มเติมรายละเอียดหลายจุด
การออกแบบในองค์รวม
นาฬิกามาพร้อมกับขนาดตัวเรือน 34 มม.แบบใหม่ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบทอง Sedna™ 18K, สแตนเลสสตีลหรือสองกษัตริย์ บนขอบตัวเรือนสลักด้วยหลักเลขโรมันหรือล้อมเพชรฟูลคัท 38 เม็ด
เจเนอเรชั่นที่ 5
หลัง Constellation เจเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในปี 2018 บริเวณขอบของชิ้นส่วนที่ได้รับการขัดด้านทุกชิ้นจะได้รับการขัดเงาไม่ว่าจะเป็นบนตัวเรือนหรือสายนาฬิกา ในขณะที่เม็ดมะยมขัดเงาก็ยิ่งเสริมให้ตัวเรือนดูบอบบางมากยิ่งขึ้น และสำหรับคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของ Constellation ชุดกรงเล็บได้รับการขัดเงาและราบไปกับด้านข้างตัวเรือนได้อย่างลงตัว
หน้าปัดสมมาตร
รายละเอียดที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดของเรือนเวลา Small Seconds รุ่นใหม่คือหน้าปัดแบบสมมาตรที่มาพร้อมกับหน้าต่างวันที่ ณ 6 นาฬิกา โอเมก้า ได้เลือกใช้เพชรแทนหลักชั่วโมงและล้อมด้วยตัวยึดที่ทำจากทอง 18K และเรียงรอบหน้าปัดตามขนาด
นอกจากนี้ โอเมก้า ยังได้เพิ่มหน้าปัดย่อยเช่นเดียวกับรางนาทีกลาง และสำหรับนาฬิกาบางรุ่น วงหน้าปัดย่อยจะมาในวัสดุทอง Sedna™ 18K ร่วมกับเพชรแบบซิงเกิ้ลคัท
วัสดุทอง Sedna™ 18K และไวท์โกลด์ 18K ยังปรากฏบนชุดเข็มทรงใบไม้ เข็มวินาทีย่อย ตรา โอเมก้า และดาว Constellation
ศาสตร์แห่งสี
Constellation ได้ก้าวเข้าไปสู่หนทางใหม่ที่สดใสยิ่งกว่าเดิม นาฬิกาแต่ละรุ่นจะได้รับหน้าปัดสีที่แตกต่างกัน โดยนาฬิการุ่นแรกๆ ที่เผยโฉมจะเป็นหน้าปัดซันบรัชสีเบอร์กันดีซึ่งมอบสัมผัสแห่งสุนทรียะและความหรูหราตามแบบฉบับ หน้าปัดแบบอื่นมีทั้งหน้าปัดเปลือกหอยมุก, หน้าปัดซันบรัชสีพีค็อกบลูหรือไลท์เชสนัท
สายนาฬิกาหนังและโลหะ
ในขณะที่นาฬิกา Small Seconds บางเรือนจะมาพร้อมกับสายหนังสีเดียวกับหน้าปัด นาฬิการุ่นที่มาพร้อมกับสายโลหะนั้นจะได้รับสาย mono-rang อันขึ้นชื่อของ Constellation สายนาฬิกาที่ได้รับการขัดด้านผสมผสานเข้ากับข้อกลางที่ผ่านการขัดเงา สายโลหะยังติดตั้งด้วยบานพับแบบปีกผีเสื้อและสามารถปรับความยาวได้ง่ายราวจับวาง
มาตรฐานระดับ Master Chronometer
ภายใน นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก Omega Co-Axial Master Chronometer Calibre 8802 / 8803 ซึ่งผ่านการรับรองความเที่ยงตรง, ประสิทธิภาพและคุณสมบัติการต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูงที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตเรือนเวลาสวิส นาฬิกาทุกเรือนมาพร้อมกับการรับประกันถึง 5 ปีเต็ม
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/