Longines Record Chronograph ผสานความคลาสสิคเข้ากับยุคสมัย

0

นาฬิกาอีกรุ่นของ Longines ที่ถูกเปิดตัวออกมาในปีนี้ในวาระของการฉลองครบรอบ 190 ปีของแบรนด์ กับรูปทรงที่และคลาสสิคพร้อมกับกลไกที่มีความเที่ยงตรงในระดับChronometer ซึ่งถูกผสมผสานเข้ากับตัวเรือนอันสุดคลาสสิคอย่างลงตัวของรุ่น Record Chronograph

Longines Record Chronograph
Longines Record Chronograph

Longines Record Chronograph ผสานความคลาสสิคเข้ากับยุคสมัย

  • เพิ่มทางเลือกให้กับคอลเล็กชั่น Record ด้วยรุ่น Chronograph แบบจับเวลา 2 วง

  • ตัวเรือนแบบสตีลขนาด 40 มิลลิเมตรมีทั้งรุ่นสายสแตนเลสสตีลและสายหนัง

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer

- Advertisement -

คอลเล็กชั่น Record ของ Longines มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแง่ของการนำเสนอความแปลกใหม่และแตกต่างจากที่เคยเป็น แน่นอนว่าคอลเล็กชั่นนี้มีความสำคัญกับแบรนด์เหมือนกับนาฬิการุ่นอื่นๆ แต่ที่ผ่านมา การทำตลาดมักจะเน้นความเรียบหรูเป็นหลัก

ส่วนครั้งนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกที่น่าสนใจกับรุ่น Longines Record Chronograph และด้วยรูปลักษณ์ของตัวนาฬิกา เราคงต้องบอกว่านี่คืออีกผลงานที่โดดเด่นและน่าจับตามองจาก Longines

Longines Record Chronograph
Longines Record Chronograph

ปีนี้ถือว่ามีความสำคัญกับ Longines เพราะเป็นช่วงเวลาของการครบรอบ 190 ปีในการก่อตั้งบริษัทนับจากปี 1832 จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่านาฬิการุ่นใหม่ๆ ของพวกเขาที่ถูกเปิดตัวออกมานับตั้งแต่ต้นปี 2022 จะมีการอ้างอิงจากนาฬิการุ่นคลาสสิคของ Longines

ที่ผ่านมาก็มี Ultra-Chron หรือรุ่นที่มีความคลาสสิคแต่ถูกออกแบบใหม่เพื่อให้มีความสวยทันสมัยอย่าง Master Collection ซึ่งเพิ่งเปิดตัว 3 เวอร์ชันของการฉลองครบรอบ 190 ปีของแบรนด์ ส่วนที่เห็นอยู่นี้คืออีกหนึ่งผลผลิตที่น่าสนใจจาก Longines ในวาระของการฉลองโอกาสนี้

และความพิเศษครั้งใหม่คือ การนำเสนอคำว่า ‘ครั้งแรก’ ให้กับคอลเล็กชั่นที่ถือว่ามีความโดดเด่นในด้านการออกแบบและเป็นนาฬิกาในรุ่น Heritage ของแบรนด์ นั่นคือ Record Heritage กับการผลิตรุ่น Chronograph ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก

ก่อนไปถึงตัวนาฬิกา ขอเล่าสักนิดเกี่ยวกับคอลเล็กชั่น Record สักหน่อย คอลเล็กชั่นนี้ถือเป็นนาฬิกาที่เน้นความเรียบหรู แม้ว่าอาจจะไม่โด่งดังในกลุ่มคนเล่นนาฬิกาทั่วไปมากเท่ากับพวกกลุ่มสปอร์ตอย่าง Hydroconquest หรือ Legend Diver

แต่ก็ต้องบอกว่าคอลเล็กชั่นนี้มีความสำคัญอย่างมากกับ Longines เพราะถือเป็นนาฬิกาที่ถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แนวคิดในการผสมผสานความหรูหราคลาสสิกและความเป็นเลิศตามประเพณีสืบทอดการผลิตนาฬิกาในแบบฉบับดั้งเดิมของ Longines เพื่อมุ่งเน้นสู่การเป็นผู้นำแห่งแบรนด์ เรียกว่าทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นบนตัวเรือนนาฬิการุ่นนี้คือ การตกผลึกทางด้านความยอดเยี่ยมในการผลิตเรือนเวลาระดับสูงที่ถูกสร้างสรรค์และปฏิบัติกันมานานถึง 190 ปีของแบรนด์

ที่ผ่านมาในอดีต เรามักจะคุ้นเคยกับหน้าของ Record Collection กับตัวเรือนที่มารูปแบบของการแสดงเวลาแบบ 3 เข็มเป็นหลัก ดังนั้น สิ่งทีเกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นความแตกต่าง และช่วยทำให้นาฬิกาในคอลเล็กชั่นนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

แวบแรกที่เห็น แน่นอนว่า Record Chronograph ถือเป็นนาฬิกาที่สวยและมี่เสน่ห์อย่างมาก ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมค่อนข้างชอบนาฬิกาจับเวลาหรือพวก Chronograph Watch อยู่แล้ว และยิ่งชอบเป็นพิเศษถ้าเป็นพวก Bi-Compax หรือหน้าปัดแบบจับเวลา 2 วง

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

ซึ่งส่วนตัวผมว่าเป็นการออกแบบที่ทำให้หน้าปัดดูมีบาลานซ์มากจากการจัดวางหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ซึ่งก็อีกเช่นกันที่กลไกจับเวลาที่เป็นแบบ 2 วงนี้ก็มักจะพบเห็นได้ในนาฬิกาจับเวลารุ่นเก่าๆ ที่คลาสสิคซึ่งเป็นตัวในช่วงทศวรรษที่ 1930-1940 จริงอยู่ที่ฟังก์ชั่นอาจจะไม่เด่นเท่ากับพวกแบบ 3 หน้าปัด

แต่ความสวย กินขาดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนตัวนาฬิกาที่ถูกออกแบบในสไตล์วินเทจอย่าง Record Heritage Chronograph

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

นาฬิกาเรือนนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตรถือว่าเป็นตัวเลขที่สุดเป๊ะกับกลุ่มและความต้องการของคนในยุคนี้ เพราะตอบสนองได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนความหนาในระดับ 13.8 มิลลิเมตรนั้นผมคงต้องบอกว่าถือเป็นเรื่องธรรมดาของกลไกอัตโนมัติแบบจับเวลาที่ชุดกลไกมักจะมีความหนากว่าปกติ แบละเมื่อสวมใส่นาฬิการุ่นนี้บนข้อมือก็ไม่ได้มีอาการติดขัดหรือรู้สึกว่าหนาจนเทอะทะแต่อย่างใด

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

เมื่อนั่งมองรายละเอียดตามจุดต่างๆ ของตัวเรือนแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังกับการผลิตนาฬิกาของ Longines การขัดแต่งบนตัวเรือนแบบเงาสลับด้านทำได้ลงตัวมากและมีความประณีต ลวดลายของ Hairline บนพื้นที่ของส่วนที่ขัดด้านนั้นทำได้สวยและอยู่ในจุดที่ทำให้ตัวนาฬิกาดูดีอย่างมาก

และต้องบอกว่า Pusher หรือปุ่มกดเพื่อจับเวลาหรือรีเซ็ตระบบจับเวลาทรงสี่เหลี่ยมทรง Slim เป็นอะไรที่สวยและดูดีอย่างมาก เข้ากับลุ๊คและบุคลิกของตัวนาฬิกากว่า Pusher ทรงกลมสูง

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

Longines สร้างสรรค์นาฬิกาเรือนนี้ด้วยแนวคิดในการส่งผ่านความยอดเยี่ยมที่พวกเขาอยู่ในโลกแห่งเรือนเวลามานานถึง 190 ปี ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นทุกความตั้งใจในการผลิตและความประณีตของการสร้างสรรค์ในทุกรายละเอียด นอกจากนั้นการวางแนวคิดในการนำเสนอความคลาสสิคและวินเทจในช่วงเวลาสมัยใหม่ Longine ก็ทำได้ดีอย่างมาก

จริงอยู่ที่กลิ่นอายของตัวนาฬิกามาแบบวินเทจเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่สีของทองและดำบนหน้าปัด การย้ายสเกลของ Tachymeter ซึ่งจากเดิมที่มักจะอยู่บนขอบตัวเรือนมาอยู่ตรงขอบนอกของหน้าปัดดูสวยแปลกตาและให้กลิ่นอายของความเป็นวินเทจอย่างเต็มที่ อีกทั้งกระจก Sapphire แบบทรงโดมยังช่วยขับบุคลิกของตัวนาฬิกาให้โดดเด่นขึ้น

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

นาฬิกาเรือนนี้มีจำหน่ายด้วยกัน 2 ทางเลือก คือ สายหนังสีน้ำตาลที่มาพร้อมกับหัวเข็มขัดรัดสาย และสายสแตนเลสที่เป็นแบบบานพับ ก็ต้องบอกว่าไม่ว่าจะเป็นสายแบบไหน ผมว่าเข้าคู่และช่วยทำให้นาฬิกาดูสวยและมีเสน่ห์อย่างมาก แต่ถ้ารต้องเลือกซื้อ ในมุมมองผม สายหนังสีน้ำตาลอ่อนๆ เข้ากับตัวนาฬิกาในสไตล์วินเทจอย่างมาก

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

Longines Record ChronographLongines Record Chronograph

Longines ถือเป็นบริษัทนาฬิกาที่เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดขององค์ความรู้ในด้านการพัฒนากลไกหลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน และหลายนวัตกรรมของพวกเขาก็ถูกจดสิทธิบัตรเอาไว้ ดังนั้น สิ่งที่ Longines มุ่งเน้นในการพัฒนากลไกจึงไม่ได้มีแค่การเดินตามจังหวะเวลา หรือการขัดแต่งชิ้นส่วนกลไกที่สวยงามเท่านั้น แต่จะต้องเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Longines Record Chronograph Longines Record Chronograph
Longines Record Chronograph Longines Record Chronograph

นั่นจึงทำให้กลไกรหัส L895.4 มีการพัฒนาให้มีความยอดเยี่ยมขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความเที่ยงตรงจนผ่านมาตรฐาน Chronometer ของ COSC โดยมีการใช้ใยนาฬิกาหรือ Balance Spring ที่ผลิตจากซิลิคอนซึ่งมีความทนทานในการทำงาน และทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ส่วนการจับเวลานั้นทำได้สูงสุด 30 นาที และมีกำลังสำรอง 59 ชั่วโมงถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ไม่ต้องกังวลในเรื่องการตั้งเวลาใหม่หลังจากถอดวางเอาไว้ในช่วงเสาร์อาทิตย์

Longines Record Chronograph

นอกจากความสวยและความยอดเยี่ยมของตัวนาฬิกาแล้ว ต้องบอกว่านาฬิกา Longines รุ่นใหม่ๆ ทุกเรือนและก็รวมถึงรุ่นนี้ได้รับการรับประกันที่นานถึง 5 ปี ดังนั้น คุณสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจและหมดห่วงในเรื่องนี้ครับ ส่วนราคาของทั้ง 2 รุ่นอยู่ที่ 113,100 บาทเท่ากัน

รายละเอียดทางเทคนิค : Longines Record Heritage Chronograph

  • เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 40 มิลลิเมตร
  • หนา : 13.8 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : สเตนเลสสตีล
  • กระจกหน้าปัด :แซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน
  • ฝาหลัง : แบบใส
  • กลไก : L895.4 อัตโนมัติ จับเวลาสูงสุด 30 นาที พร้อมความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 59 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 30 เมตร
  • ประทับใจ : ความสวย งานขัดแต่ง กลไกที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
  • ไม่ประทับใจ : ไม่มี