นับจากเปิดศักราชในปี 1980 ด้วยงานออกแบบที่ฉีกกรอบแบบเดิมๆ ของอุตสาหกรรมนาฬิกา ในตอนนี้ Hublot ได้เดินทางมานานถึง 42 ปีแล้ว และเพื่อร่วมฉลองโอกาสพิเศษนี้ ได้มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษออกมาที่มีตัวเรือนหลากหลายทั้งไซส์ 42, 36 และ 33 มิลลิเมตร
Hublot Classic Fusion Original ร่วมฉลอง 42 ปีของผู้กล้าฉีกขนบธรรมเนียมดั้งเดิม
-
นำความคลาสสิคของนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1980 มาผลิตใหม่อีกครั้งบนตัวเรือนของ Classic Fusion Original
-
มีจำหน่ายกับ 3 ขนาดตัวเรือน 42, 38 และ 33 มิลลิเมตรซึ่งเลือกได้ทั้งเยลโลโกลด์ ไทเทเนียม และเซรามิก
-
กลไกมีทั้งควอตซ์ และอัตโนมัติ
Hublot (อูโบลท์) นำนาฬิกาที่เคยเขย่าขนบดั้งเดิมแห่งการประดิษฐ์นาฬิกามาแล้วในปี ค.ศ. 1980 กลับมาอีกครั้ง ด้วยทั้งความประณีตและสไตล์สปอร์ต ที่ ณ เวลานั้น ตัวเรือนทองล้ำค่าของผลงานนี้ได้ผูกเข้ากับสายยางแบบเรียบง่ายอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และกลายเป็นดั่งคลื่นลูกยักษ์ที่ซัดผ่านโลกของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง
โดยสามารถชนะใจผู้ชมซึ่งเป็นเหล่าผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในนาฬิกา และกำลังตามหานาฬิกาที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง จึงนับเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงเวลาอันเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความกล้าหาญ วิสัยทัศน์นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Maison (เมซง)
ในทุกๆ สิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์ รวมไปถึงการพัฒนา ออกแบบสินค้าใหม่ ตลอดจนความร่วมมือกับพันธมิตรอีกมากมาย และในวันนี้ Classic Fusion Original (คลาสสิก ฟิวชั่น ออริจินัล) กำลังร่วมเฉลิมฉลองการเติบโตอันเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา กับความทันสมัยและเรียบง่ายอย่างไร้กาลเวลา
สะท้อนถึงงานออกแบบดั้งเดิมของ Carlo Crocco (คาร์โล คร็อคโค) อันเป็นที่จดจำได้ทันที ทั้งการจับคู่เข้ากับสายยาง พร้อมทั้งความบริสุทธิ์ของหน้าปัดแล็กเกอร์สีดำขัดเงาที่นับเป็นจุดดึงดูดสายตาไม่เพียงเฉพาะการแสดงเวลา กับการแสดงโดยเข็มชี้เจียระไนทรงเหลี่ยมทำจากเยลโลโกลด์และสัญลักษณ์ของ Maison ที่ ณ แรกเห็นนั้นดูคล้ายกับรุ่นดั้งเดิม ทว่า โลโก้ได้ถูกปรับให้มีความทันสมัยและร่วมสมัยมากยิ่งขึ้นอย่างเหนือกาลเวลา เสมือนดั่งอดีตที่เดินทางมาบรรจบกับปัจจุบัน
เขย่าซึ่งประเพณีอันเข้มแข็งที่มีมาอย่างยาวนาน และความเชี่ยวชาญในมรดกทางประเพณีเพื่อผลักสู่พรมแดนใหม่ๆ ทั้งยังผนึกรวมไว้ซึ่งองค์ประกอบอันทันสมัย ด้วยวัสดุธรรมชาติอันล้ำค่า โดยการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หรือผู้คนผู้ซึ่งร่วมสืบทอดคติพจน์ของเรา คือ “การเป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง”
ตลอด 40 ปีอันมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละได้สร้างรูปให้กับนาฬิกา Classic Fusion Original เหล่านี้ และเราได้ออกแบบขึ้นมาใหม่ด้วยเพราะ Hublot ได้เปลี่ยนแปลงไป นาฬิกาเหล่านี้จึงเป็นตัวแทนของความร่วมมืออันเป็นขบถ ที่สร้างให้เรานั้นเป็นเราเช่นในวันนี้” Richardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) CEO ของ Hublot กล่าว
ในวันนี้ Classic Fusion Original มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชันเยลโลโกลด์ ไทเทเนียม และเซรามิก พร้อมด้วยตัวเรือนซึ่งมีทั้งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม., 38 มม. และ 33 มม. เป็นดั่งตราผนึก ที่สกรูอันโด่งดังทั้ง 6 ตัว ถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งเอกลักษณ์ต่างๆ บนขอบตัวเรือน
ขณะที่ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์เผยให้เห็นชิ้นส่วนจักรกลภายใน โดยรุ่น 42 และ 38 มิลลิเมตรมากับกลไกอัตโนมัติ MHUB1110 มีกำลังสำรอง 42 ชั่วโมง และรุ่น 33 มิลลิเมตรมากับกลไกควอตซ์ ที่มีอายุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3-5 ปี
ตัวนาฬิกาตกแต่งด้วยรายละเอียดอันเป็นไอคอนิกของ Hublot ที่มอบความทันสมัยให้กับนาฬิการุ่นดั้งเดิม และเสริมภาพอันคลาสสิกใหม่อย่างไร้กาลเวลา ตัวอย่างของการหวนคืนสู่อดีตเพื่อสร้างรูปให้กับอนาคตที่ดียิ่งกว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือมีนาฬิกาเพียง 500 เรือนของรุ่นที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่นี้ ที่เหล่านักสะสมจะได้ร่วมสัมผัสได้ถึงการเดินทางแห่งการเปลี่ยนรูปสู่ตำนาน
-
รุ่น 42 มิลลิเมตร
- ตัวเรือนไทเทเนียม รหัส 542.NX.1270.RX.MDM ราคา 8,200 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Black Magic รหัส 542.CX.1270.RX.MDM ราคา 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Yellow Gold รหัส 542.VX.1230.RX.MDM ราคา 24,100 เหรียญสหรัฐฯ
- รุ่น38 มิลลิเมตร
- ตัวเรือนไทเทเนียม รหัส 565.NX.1270.RX.MDM ราคา 7,900 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Black Magic รหัส 565.CX.1270.RX.MDM ราคา 8,500 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Yellow Gold รหัส 565.VX.1230.RX.MDM ราคา 20,500 เหรียญสหรัฐฯ
-
รุ่น33 มิลลิเมตร
- ตัวเรือนไทเทเนียม รหัส 581.NX.1270.RX.MDM ราคา 6,500 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Black Magic รหัส 581.CX.1270.RX.MDM ราคา 7,300 เหรียญสหรัฐฯ
- ตัวเรือน Yellow Gold รหัส 581.VX.1230.RX.MDM ราคา 15,300 เหรียญสหรัฐฯ
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline