ความงดงาม ความหรูหราแห่งเครื่องบอกเวลาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ในตอนนี้ Frederique Constant ได้นำเสนอความพิเศษในช่วงเวลาพิเศษของคอลเล็กชั่น Classics Worldtimer Manufacture ด้วยนาฬิการุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี กับการผสมผสานดีไซน์จากในอดีตให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ พร้อมการผลิตเพียง 100 เรือนทั่วโลกโดยในเมืองไทยจะมีเพียงแค่ 2 เรือนเท่านั้น
Frederique Constant Highlife Vintage Worldtimer Manufacture ฉลองครบ 10 ปี Classics Worldtimer Manufacture
-
นาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อฉลองวาระครบรอบ 10 ปีในการทำตลาดของ Classics Worldtimer Manufacture
-
รูปทรงมีการผสมผสานความสวยงามของรุ่น Highlife กับ คอลเลกชั่น Classics Worldtimer Manufacture เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
-
การผลิตมีเพียง 100 เรือนทั่วโลก และเมืองไทยจะมีเพียง 2 เรือนเท่านั้น
ในปี 2022 Frederique Constant ได้ฉลองครบรอบ 10 ปีของการผลิตนาฬิการุ่น Classics Worldtimer Manufacture ที่เปิดตัวในครั้งแรกในปี 2012 และเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่โดดเด่นของแบรนด์ Frederique Constant ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเหตุการณ์นี้ Frederique Constant เลือกที่จะผสมผสานดีไซน์รูปแบบของนาฬิกาคอลเลกชั่น Highlife กับ คอลเลกชั่น Classics Worldtimer Manufacture เข้าด้วยกัน โดยเลือกที่จะนำนาฬิการุ่นแรกของ Highlife Worldtimer Manufacture ที่เปิดตัวในปี 2000 และนาฬิการุ่นแรกของ Worldtimer ที่เปิดตัวในปี 2012 มาผสมผสานเป็น “ Highlife Vintage Worldtimer Manufacture” ที่ถูกผลิตขึ้นมาจำกัดเพียง 100 เรือนทั่วโลก
นับเป็นเวลากว่า 30 ปีที่ Frederique Constant ได้ก้าวหน้าและสร้างรากฐานใหม่ในการผลิตนาฬิกา กลายเป็นการผลิตแบบครบวงจรที่สามารถพัฒนากลไกได้มากถึง 31 Caliber ในขณะเดียวกันก็ยังคงรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Frederique Constant ไว้ด้วยความเป็นนาฬิกาสวิสสุดหรู ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้
นาฬิการุ่น Highlife Vintage Worldtimer Manufacture นี้ เป็นการรวมตัวกันของความเป็นที่สุดของนาฬิการุ่นสำคัญสองรุ่นของแบรนด์ Frederique Constant โดยนาฬิการุ่น “Worldtimer” ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาที่มีความนิยมอย่างสูงต่อเนื่องมาตลอด 12 ปี และนาฬิการุ่น Highlife ซึ่งจะกลายเป็นคอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ Frederique Constant นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
นาฬิการุ่นนี้มีความสำคัญอย่างมากซึ่งสะท้อนแง่มุมต่างๆ ของ Frederique Constant ได้เป็นอย่างดี โดยการดึงเอาประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาใช้ เนื่องจากนาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นวินเทจ Highlife ซึ่งเปิดตัวในช่วงต้นปี 1999 มาผสมผสานกับกลไก FC-718 ที่เป็นนาฬิการุ่นแรกของ World timer ซึ่งถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นในปี 2012 และกลายเป็นหนึ่งในคาลิเบอร์ที่โดดเด่นที่สุดคาลิเบอร์หนึ่งของแบรนด์ เนื่องจากรูปทรงดีไซน์ที่โดดเด่นและแต่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่สะดวกง่ายดายต่อผู้สวมใส่
หน้าปัดสีเงินเสริมด้วยลวดลายกิโยเชเหลือบสะท้อนสีเงิน (Sunray Guilloche) ที่สง่างามตรงกลาง โดยดึงความผสมผสานของรุ่น Original Highlife ในปี 2012 รอบหน้าปัดเป็นตัวเลขโรมันสีน้ำเงิน และเข็มหน้าปัดสีน้ำเงิน บอกเวลา ชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
วงขอบหน้าปัดนอกเหนือจากส่วนแผนที่โลกได้รับการรังสรรค์ในสีขาว ตกแต่งด้วยชื่อเมืองสำคัญที่กระจายอยู่ในแต่ละช่วงเขตเวลาโลกจำนวน 24 เมือง โดยมีวงแหวนกำกับเวลา 24 ชั่วโมง คาดด้วยแถบสีน้ำเงิน-ขาว เพื่อแสดงช่วงเวลากลางวันและกลางคืน พร้อมกับบอกเวลาในแต่ละเมืองไปในคราวเดียวกันตามตำแหน่งของเวลาและเมืองที่ตรงกัน
การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกังวลกับการอ่านเวลาทั้งกับเวลา ‘Local Time’ และเวลา ‘Home Time’ ซึ่งจะเชื่อมกันโดยอัตโนมัติ โดยที่เวลาทั้งหมดสามารถปรับตั้งได้ผ่านการดึงเม็ดมะยม 2 จังหวะ โดยจังหวะแรกเมื่อปรับหมุนขึ้นจะเป็นการตั้งวันที่ และเมื่อหมุนลงจะเป็นการปรับเวลาของเขตเมือง ส่วนจังหวะที่ 2 ของการดึงเม็ดมะยมจะเป็นการตั้งเวลาตามปกติ
ตัวเรือนมีขนาด 41 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยชุดจักรกลคุณภาพเยี่ยม และเป็น ‘In-house’ ออโตเมติก Cal.FC-718 ที่มีอัตราความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ติดทับทิมกันสึก 26 เม็ด มีระดับการสำรองพลังงานอยู่ที่ 38 ชั่วโมง แท่นเครื่องขัดแต่งด้วยลาย ‘Perlage’ (เพอร์ลาจ) สลับกับ ‘Côtes de Genève’ (โกตส์ เดอ เฌอแนฟ) พร้อมโชว์ชุดจักรกลอกที่เป็นหัวใจแห่งการขับเคลื่อน และขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทองฉลุโปร่ง ทั้งหมดนี้สามารถชื่นชมได้ผ่านฝาหลังที่กรุด้วยกระจกใส
Frederique Constant Highlife Vintage Worldtimer ได้ถูกผลิตขึ้นมาตรงกับ DNA ของแบรนด์ โดยนาฬิกาย้อนยุคแต่ทันสมัยเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการผลิตนาฬิกาสวิสแบบดั้งเดิมที่มีการตกแต่งคุณภาพสูงออกแบบมาสำหรับนักสะสมรุ่นต่อไปที่ต้องการครอบครองนาฬิกา Swiss Made อันหรูหราที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นความคลาสสิกได้พิสูจน์แล้วว่าอยู่เหนือแฟชั่นและกระแสนิยม และตัวนาฬิกามาพร้อมกับสายหนังนกกระจอกเทศสีน้ำตาลโดยประเทศไทยได้รับมาเพียง 2 เรือนเท่านั้น ในราคา 179,000 บาท
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline