ชื่อ Rangeman กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง พร้อมความเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นอดีตมาสู่การเป็นนาฬิกาสปอร์ตที่สามารถรองรับกับทุกความต้องการสำหรับคนที่ชอบการออกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการผจญภัยทั้งการปีชนเขา การเดินเทรล กับชื่อรุ่น Casio G-SHOCK Rangeman GPR-H1000 ที่จะเริ่มขายในเดือนมกราคมนี้
Casio G-SHOCK Rangeman GPR-H1000 แปลงร่างรองรับทุกการใช้งาน
-
การกลับมาของ Rangeman ในรูปแบบที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย
-
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับคนออกกำลังและนักผจญภัย
-
เปิดตัวทำตลาดในช่วงแรก 2 รุ่น และเริ่มขายในญี่ปุ่นเดือนมกราคม 2024
การถือกำเนิดครั้งใหม่ของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Rangeman ที่อยู่ในกลุ่ม Master of G ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะแค่หน้าตาของตัวนาฬิกาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แต่ยังรวมถึงแนวทางและรูปแบบในการบ่งบอกและนำเสนอเพื่อให้รุ่นใหม่เป็นในแบบที่แตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง G-SHOCK Rangeman 2024 จะประเดิมตลาดด้วย 2 รุ่นพื้นฐานและมาในรหัส GPR-H1000 ที่แตกต่างออกไป
ถ้ายังจำกันได้ Ramgeman เปิดตัวออกมาในช่วงปี 2014 พร้อมรหัส GW-9400 เพื่อเข้ามาทำตลาดแทนที่ Mudman ที่หายไปและปล่อยหน้าที่ในการลุยโคลนเป็นของ Mudmaster แทน และหลังจากนั้น ในปี 2018 G-Shock จึงเปิดตัวรุ่นพิเศษที่ถือว่าแตกต่างและฉีกแนวจากนาฬิกาของพวกเขาในช่วงนั้น นาฬิกาใช้ชื่อ Rangeman เหมือนกัน แต่ไม่มีอะไรเหมือนกับ รุ่นปกติเลย นอกจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่ต้องการเอาใจกลุ่มคนที่ชื่นชอบการผจญภัย และเดินทาง
นาฬิการุ่นนั้นมากับรหัส GPR-B100 พร้อมหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่ สามารถชาร์จพลังงานได้ทั้งผ่านทางแสงอาทิตย์ และสายชาร์จ รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ได้ด้วย และถูกเรียกแบบบ้านๆ ตามประสาคนเล่นนาฬิกา G-SHOCK บ้านเราว่า ‘แมวใหญ่’
ดูจากการวางแผนเปิดตัวแล้ว เชื่อว่าหน้าที่ของ GW-9400 จะถูกส่งต่อไปให้กับ Mudman ใหม่ในรหัส GW-9500 ที่เพิ่งเปิดตัวออกมา ส่วน Ramgeman ใหม่ในรหัส GPR-H1000 จะรับในอีกบทบาทสำหรับคนที่ต้องการความสามารถที่เพิ่มขึ้นของนาฬิกาผจญภัยยุคใหม่ด้วยการผนวกเอาความสามารถดั้งเดิมของ G-SHOCK อย่างความทนทาน และความสามารถในการกันโคลน หรือ Mud Resist เข้ากับความสามารถในเชิงนาฬิกาออกกำลังกาย
เพราะในรุ่นนี้มากับโมดุลในรหัส 3554 ซึ่งเป็นโมดุลที่ถูกนำมาใช้กับนาฬิการุ่นนี้ โดยจะมีทั้ง HR หรือ Heart Rate Sensor การเชื่อมต่อกับ Bluetooth ที่สามารถเลือกโหมดของการออกกำลังกายในแบบต่างๆ และการนับก้าว รวมถึงการปักหมุดในการเดินทาง การวัดความสูง ความกดอากาศ อุณหภูมิ หรือเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการดูตารางน้ำขึ้นน้ำลงที่สามารถดูได้จาก 3,300 จุดทั่วโลก (เมื่อมีการเชื่อมต่อกับ Application)
ในส่วนของ Sport Mode นั้นจะสามารถวัดค่าในการทำกิจกรรมภายใต้รูปแบบต่างๆ ถึง 9 ประเภทด้วยกันและครอบคลุมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินทางไกล, การวิ่ง/เดิน, การปั่นจักรยาน, การว่ายน้ำในสระหรือบนพื้นที่เปิด เช่น ทะเล และการออกกำลังกายในยิม
เรียกว่าเป็นการผนวกความสามารถในหลายๆ ด้านเข้าด้วยกัน และเมื่อพลิกฝาหลังดูก็ไม่ต้องตกใจว่าทำไมถึงไม่พบกับภาพของเจ้าแมวที่เป็นสัญลักษณ์ของ Rangeman เหตุผลคือ เรื่องของการติดตั้ง Heart Rate Sensor เอาไว้จึงต้องเจาะรูปบนฝาหลัง แต่ก็มีการยืนยันว่านี่คือ Rangeman เอาไว้บนหน้าปัดในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และย้ายสัญลักษณ์ไปอยู่ที่ ด้านหลังของ End Link ของสายแทน
รุ่นที่ทำตลาดจะมีด้วยกัน 2 สีในช่วงแรก คือ
- GPR-H1000-1 มากับตัวเรือนและสายสีดำ
- GPR-H1000-9 มากับตัวเรือนและสายสีเหลือง
ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 53.2 มิลลิเมตร กรอบตัวเรือนและสายผลิตจากวัสดุที่เป็น Biomass Plastic ซึ่งเป็นส่วนผสมของวัสดุที่เป็นอินทรีย์และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อมีการถูกทิ้ง โดยด้านข้างในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาจะมีกรอบโลหะประกบเพื่อป้องกันโมดุล เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีทั้งหมด 6 ตัว และเสาสัญญาณ GPS จากการกระแทกในระหว่างใช้งาน ซึ่งวัสดุชิ้นนี้ผลิตจากกระบวนการที่เรียกว่า MIM หรือ metal injection molding
รุ่นนี้สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ทั้งผ่านทางแสงอาทิตย์ของระบบ Tough Solar หรือหัวชาร์จแบบ Type A
การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคมนี้ที่ญี่ปุ่น และจากนั้นจะเริ่มทยอยทำตลาดทั่วโลก โดยมีเพียงแค่ 2 รุ่นในช่วงเริ่มต้น และมีราคาเท่ากันที่ 66,000 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK Rangeman GRP-H1000
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 53.2 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 60.6 มิลลิเมตร
- ความหนา : 20.3 มิลลิเมตร
- โมดุล : 3554 แบบ Tough Solar
- การกีนน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline