Casio G-Shock GST-B500 แกร่งขึ้นแต่บางลง

0

Casio G-Shock เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับรุ่น G-Steel แบบ Connected ด้วยรุ่นใหม่อย่าง GST-B500 ซึ่งมาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของโครงสร้างตัวเรือนที่บางลงแต่แข็งแกร่งขึ้น

- Advertisement -

Casio G-Shock GST-B500

Casio G-Shock GST-B500 แกร่งขึ้นแต่บางลง

  • รุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงทั้งหน้าตาและขนาดตัวเรือนให้บางลง

  • ใช้โมดุลใหม่ในรหัส 5684 แต่ครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่จำเป็น

  • ในช่วงแรกมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยราคาเริ่มต้น 49,500 เยน

หนึ่งในคอลเล็กชั่น G-Steel ที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆ ของ Casio G-Shock ทั่วโลก คือ นาฬิกาในตระกูล GST-B ซึ่งในตอนนี้มีการเปิดตัวออกมาเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 แล้ว นั่นคือ Casio G-Shock GST-B500 โดยนอกจากดีไซน์ใหม่ตลอดทั้งเรือนแล้ว ยังมีการปรับปรุงในเรื่องของโครงสร้างตัวเรือนที่มีความบางลง แต่ทว่าตอบสนองต่อความแข็งแกร่ง และทนทานได้อย่างยอดเยี่ยม

Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500
Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500
Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500
Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500

เวอร์ชัน Connected ของ G-Steel เปิดตัวและเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2017 เมื่อพวกเขาเปิดตัวรุ่น GST-B100 ออกมา และหลังจากนั้นก็ทยอยทำตลาดเรื่อยมาจนกระทั่งมาถึงล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมาช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมากับรหัส GST-B500 ซึ่งมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงด้วยการจับเอาโครงสร้างตัวเรือนที่มีการแยกระหว่างส่วนของตัวเรือนกับขอบตัวเรือนมาเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน รวมถึงมีการขัดแต่งอย่างสวยงามแบบขัดเงาสลับกับขัดด้าน

Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500
Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500
Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500

นอกจากนั้นตัวเรือนและสายยังรวมเป็นส่วนเดียวกัน หรือ Integrated Structure และยังใช้โครงสร้างตัวเรือนแบบ Carbon Core Guard เหมือนกับรุ่นที่แล้ว ซึ่งก็คือ GST-B400 เพียงแต่มีการขยับตัวเรือนให้บางขึ้น เพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ โดยตัวเรือนมีความหนาเพียง 12.8 มิลลิเมตร และในรุ่นที่ใช้สายโลหะจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 143 กรัมเท่านั้น ขณะที่รุ่น GST-B400 มีน้ำหนักถึง 160 กรัม ส่วนขนาดตัวเรือนลดลงอีก 0.7 มิลลิเมตรในแง่เส้นผ่านศูนย์กลาง มาอยู่ที่ 48.9 มิลลิเมตร

รุ่นที่เปิดตัวออกมาในช่วงแรกจะมีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ประกอบด้วย

  • GST-B500D-1AJF : ตัวเรือนและสายสตีล หน้าปัดดำ และฟอนต์ Casio สีแดง
  • GST-B500D-1A1JF : ตัวเรือนและสายสตีล หน้าปัด หลักชั่วโมง ชุดเข็ม และหน้าจอเป็นสีดำทั้งหมด
  • GST-B500AD-3AJF : ตัวเรือนและสายสตีล หน้าปัดเขียว
  • GST-B500BD-1AJF : ตัวเรือนและสายรมดำ หน้าปัด หลักชั่วโมง ชุดเข็ม และหน้าจอเป็นสีดำทั้งหมด
  • GST-B500GD-9AJF : ตัวเรือนและสายเคลือบสีทอง

ในส่วนของโมดุลที่อยู่ภายในเปลี่ยนเป็นรหัส 5684 สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ตัวโมดุลได้รับการปรับปรุงให้มีการใช้พลังงานต่ำ มีระบบ Tough Solar เข้ามาช่วยในการชาร์จกระแสไฟฟ้าเติมในระบบ โดยมีฟังก์ชั่นพื้นฐานครบครันของ G-Shock ทั้งการแสดงเวลาที่ 2 หรือ WorldTime สามารถปรับเวลาเมื่อเชื่อมเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยสามารถเลือกเมืองได้มากถึง 300 เมืองทั่วโลก การจับเวลาเดินหน้าและถอยหลัง รวมถึงการตั้งปลุกได้ถึง 5 ครั้งต่อวัน

Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500 Casio G-Shock GST-B500

ราคาของ Casio G-Shock GST-B500 จะอยู่ที่ 49,500 เยนสำหรับรุ่นปกติที่มีสาตสตีล ส่วนรุ่นเคลือบสีทั้งสีทองและดำจะมีราคาขยับขึ้นเป็น 60,500 เยน และไม่มีรุ่นสายยางขายในตอนนี้

ข้อมูลทางเทคนิค : Casio G-Shock GST-B500

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 48.9 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 46.6 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 12.8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 143 กรัม
  • โมดุล : 5684 Tough Solar
  • การกันน้ำ : 200 เมตร