Casio G-Shock GM-2100 Series สวยเด่นบนตัวเรือนโลหะ

0

นาฬิกาในตระกูล GM อีกรุ่นของ Casio G-Shock ที่ถือว่าสวยและโดดเด่น โดยเฉพาะการใช้พื้นฐานทั้งการออกแบบและกลไกมาจากรุ่น GA-2100 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเราคงต้องบอกว่า ถ้าคุณชอบ GA-2100 แล้ว ก็จะต้องชอบ GM-2100 ด้วยอย่างแน่นอน

Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series

Casio G-Shock GM-2100 Series สวยเด่นบนตัวเรือนโลหะ

  • นาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดที่นำตัวเรือนแบบโลหะมาผลิตบนพื้นฐานของนาฬิการุ่น GA-2100

  • ประเดิมตลาดด้วย 4 สีของหน้าปัด และตัวเรือนมีทั้งสีเงินและรมดำ

  • ราคาอยู่ระหว่าง 8,500-9,200 บาท

- Advertisement -

ตอนที่ Casio เริ่มเอาตัวเรือนโลหะ หรือนาฬิกาที่ขึ้นต้นด้วยรหัส GM มาใช้กับนาฬิการุ่นคลาสสิกของพวกเขาอย่าง 6900 และ 5600 นั้น ถือว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าสนใจ เพราะถ้าไม่นับพวก Top Collection หรือพวกที่เป็นเหล็กมาตั้งแต่เกิดอย่าง G-Steel น่าจะถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นพวก Standard Collection ของ G-Shock มาพร้อมกับกรอบตัวเรือนโลหะ และในตอนแรกผมนึกว่าพวกเขาจะหยุดอยู่แค่นั้น แต่ที่ไหนได้ GM-Series ขยายวงออกเรื่อยๆ และล่าสุดก็มากับรุ่น Casio G-Shock GM-2100 Series ที่ถือว่าทำได้ดีและสวยลงตัวอย่างมาก

บอกก่อนว่า ตอนแรกผมไม่คุ้นเอากับนาฬิกาในตระกูล GM-Series ของ G-Shock เลย เพราะสำหรับผม ถ้าเป็น G-Shock แล้วจะต้องเป็นพวกสายและกรอบเรซินเท่านั้นถึงจะดูแกร่งและเท่ แต่ทว่าแนวคิดนี้ได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ผมมีโอกาสสัมผัส GMW-B5000D-1 รุ่นแรก และหลงใหลมันอย่างหัวปักหัวปำ จนทำให้วิธีมอง G-Shock ที่มากับกรอบตัวเรือนที่เคยยึดติดกับคำว่า ‘จะต้องเป็นเรซินเท่านั้น’ ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเปิดรับมันมากขึ้น

ผมเคยมี GM-6900 และถ่ายภาพเอาไว้เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเขียนรีวิวสักที จนกระทั่งนาฬิกาโดนเด็กๆ แถวนี้สอยเอาไป แต่ไม่เป็นไร เพราะรุ่นนั้นเอาไว้เขียนทีหลังได้แม้ว่าจะมาก่อนก็ตาม ส่วน GM-2100 Series ต้องบอกว่าเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จและความนิยมที่มีต่อนาฬิการุ่น GA-2100 Series ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และหลายคนมักจะชอบเอาไป MOD หรือ โมดิฟายเพื่อให้ดูคล้ายกับนาฬิกาทรงหกเหลี่ยมแบรนด์ดัง จนทำให้นาฬิการุ่นนี้ถูกขนานนามจากคนเล่นนาฬิกาทั่วโลกว่า CasiOak

ทำไมผมถึงชอบ GM-2100 Series ? คำถามนี้น่าสนใจ เพราะตามปกติแล้ว ผมเติบโตและคลุกคลีอยู่กับ G-Shock ในกลุ่มของ Master of G เป็นหลัก และคำว่า G-Shock ในมุมของผมคือ นาฬิกาเรือนใหญ่แบบเต็มๆ ข้อเท่านั้น คำตอบน่าจะเป็นเพราะด้วยวัยที่มากขึ้น และโตขึ้น บวกกับความต้องการแสวงหานาฬิกาที่สามารถใส่กับชุดทำงานของหนุ่มออฟฟิศในวันที่ผมเบื่อพวกนาฬิกาจักรกลได้อย่างไม่เคอะเขิน ตอนนั้นเอง ทำให้นาฬิกาอย่าง 5600 Series เริ่มเข้ามาอยู่ในสายตามากขึ้น จนนำไปสู่การสอย GMW-B5000D-1 และยิ่งถูกใจมากขึ้นเมื่อ Casio เปิดตัว GA-2100 Series ออกมา และผมเลือกเจ้า GA-2110ET-8A เข้ามาอยู่ในกรุ และทั้ง 2 เรือนถือเป็น G-Shock ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางต่ำกว่า 50 มิลลิเมตรเรือนแรกในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว

และ GM-2100 Series ก็เกิดจากอารมณ์เดียวกันนั่นแหละ

นาฬิกาเรือนนี้เพิ่งเปิดตัวและวางขายในบ้านเราเมื่อปลายเดือนกันยายนนี้เอง และมีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีสีสันแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่ารุ่นไหนโดยใจที่สุด รุ่นแรกคือ GM-2100B-3 ที่มากับตัวเรือนรมดำ ส่วนหน้าปัดและสายมากับสีเขียว รองลงมาคือ GM-2100-1A ซึ่งผมมองว่าเรียบง่าย แต่ดูเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ

Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series

GM-2100 ถอดแบบสไตล์และรูปทรงมาจาก GA-2100 ซึ่งทั้ง 2 เรือนคือ งานที่ถูกสร้างสรรค์บนพื้นฐานของแนวคิดในการนำนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เป็น G-Shock เรือนแรกอย่าง DW-5000 มาใช้ในการปรับแต่ง โดยเฉพาะกับตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยม ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล และบนขอบตัวเรือนซึ่งตามปกติของนาฬิกาทั่วไปจะเป็นจุดที่ติดตั้งอินเสิร์ต แต่สำหรับของ GM-2100 มีการขัดหยาบจนเกิดเส้น Hairline ที่ทำให้ตัวนาฬิกาดูสวยและมีมิติ แถมยังเข้ากันกับตัวเรือนหลักที่มาในแบบขัดเงา จริงอยู่ที่แม้ว่างานขัดของ G-Shock อาจจะไม่ถึงกับเทียบเท่ากับนาฬิกาสวิสส์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าดูเนียนและประณีตเกิดคาดสำหรับนาฬิกาที่มีค่าไม่ถึงหลักหมื่นบาท

สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างโอเคและพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาแบบเดียวกันแต่เป็นตัวเรือนแบบเรซินคือ การหล่อและการขัดแต่งตัวเรือนนั้นทำได้ดีมาก ซึ่งในรุ่นพื้นฐานอย่าง 5600 หรือ 6900 บางครั้งคุณอาจจะหงุดหงิดกับบางจุดบนตัวเรือนโดยเฉพาะด้านข้างที่มักจะมีการตัดไม่ละเอียดและทิ้งให้รอยหรือขอบที่ยื่นออกมาตรงกลางซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นจุดที่แม่พิมพ์ 2 ส่วนประกบกัน แต่เรื่องนี้ไม่มีให้เคืองใจกับตัวเรือนแบบโลหะ

Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series

ขณะที่หน้าปัดเป็นโลหะมาพร้อมกับการขัดจนมีเส้นลายสวยๆ หรือ Hairline เกิดขึ้น ช่วยทำให้ดูเด่น ซึ่งสิ่งนี้คุณจะสามารถสังเกตได้ชัดเจนกับรุ่นหน้าปัดเงิน เขียวและน้ำเงิน ขณะที่หน้าปัดแดงอาจจะไม่ค่อยเห็นความงามตรงนี้ชัดเจนมากนัก แต่ก็ได้ความเด่นในแง่ของสีสันไป

Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series Casio G-Shock GM-2100 Series

ในแง่ของตัวเรือนนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับ GA-2100 ที่ผลิตจากเรซินแล้ว ในรุ่น GM-2100 Series มีมิติที่ใหญ่ขึ้น เช่น Lug to Lug เพิ่มขึ้น 0.8 มิลลิเมตรเป็น 49.3 มิลลิเมตร แต่เส้นผ่านศูนย์กลางลดลงจาก 45.4 มาเป็น 44.4 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อพอขึ้นข้อมือแล้ว ส่วนตัวผมไม่คิดว่ามันจะรู้สึกได้ถึงความต่างในแง่ของขนาดที่ทาบลงบนข้อมือ เมื่อเปรียบเทียบกับความแตกต่าง 1 มิลลิเมตรที่เกิดขึ้นกับนาฬิกาแบรนด์ทั่วไป ที่บางครั้งต่างกันแค่ 1 มิลลิเมตร แต่ความรู้สึกที่ได้จากนาฬิกาทั้ง 2 เรือนกลับต่างกันอย่างชัดเจน

ความรู้สึกที่ได้จากการที่คาดนาฬิกาเรือนนี้อยู่บนข้อมือคือ ความเบา สบาย และขนาดที่ไม่เทอะทะ เรียกว่าถ้าต้องใส่แสล็คสวมเสื้อเชิร์ตแบบไม่พับแขน ปลายแขนก็น่าจะรอดผ่านนาฬิกาเรือนนี้ที่มีความหนาเพียง 11.8 มิลลิเมตรได้ ตรงตามความต้องการของผม ที่ต้องการนาฬิกาคูลๆ เอาไว้เบรกอารมณ์เวลาต้องสวมชุดออกงานที่เป็นทางการ แต่ไม่อยากจะสวมนาฬิกาเดรสส์ให้ดูมีพิธีการจนเกินไป และนี่คือคำตอบที่ลงตัวมากกับความต้องการตรงนี้

และอีกอย่างผมมีความรู้สึกว่า ความต้องการของตัวเองกับการสวมนาฬิกานั้นเปลี่ยนไป จากเดิมที่ต้องเน้นขนาดหนาและใหญ่ตามแบบฉบับสปอร์ต สุดท้ายกลายเป็นว่ากลับวกกลับมามองนาฬิกาที่บางลง และเรือนเล็กลง เรียกว่าถ้าเป็นนาฬิกาทั่วไป ไซส์ 40-42 มิลลิเมตรนี่กำลังชอบเลย

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าทำได้ดีและเป็นสิ่งที่ Casio ควรทำนานแล้วคือ การออกแบบสายให้แตกต่างกันในแต่ละรุ่นของนาฬิกา ซึ่งดีแล้วที่ GM-2100 ไม่ได้เอาสายยางทรงเดียวกับ GA-2100 มาใช้ แต่พวกเขาเลือกออกแบบให้แตกต่างกันอย่างชัดเจน และเป็นสายหนังที่มีลวดลายเป็นพื้นผิวหยาบแต่เข้ากับตัวนาฬิกาได้เป็นอย่างดี และมาพร้อมกับระบบเปลี่ยนสายแบบ Quick Change ที่สามารถดันสลักที่อยู่บนสปริงบาร์เพื่อถอดสายออก โดยที่ไม่ต้องมาใช่เครื่องมือเพื่อไขน็อตที่อยู้ตรงด้านข้างขาสายอีกต่อไป

Casio G-Shock GM-2100 Series
Casio G-Shock GM-2100 Series

แต่สุดท้ายผมก็เกิดคำถามว่าจะให้ระบบนี้มาทำไม เพราะในเมื่อสายของ G-Shock แทบจะใช่ร่วมกับสาย Aftermarket แบบอื่นได้เลย หรือแม้แต่ข้ามรุ่นก็แทบจะทำไม่ได้เลย และผมก็ไม่รู้ว่าจะไปหาสายทดแทนเพื่อมาสลับได้จากไหน ส่วน Casio เองก็ยังไม่ได้มีการวางจำหน่ายเฉพาะสายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในช้อปของตัวเอง นอกจากจะซื้อ GM-2100 สีอื่นมาอีกเรือนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งดูแล้ว ผม (และคิดว่าคนอื่นๆ) ก็คงจะไม่ทำอย่างแน่นอน

GM-2100 Series ใช้โมดุลในรหัส 5611 เหมือนกับ GA-2100 ซึ่งอันนี้ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะในแง่การใช้งานนั้น ถือว่ามีฟังก์ชั่นครบครันตามแบบฉบับนาฬิกา G-Shock ยุคใหม่จะต้องมี เช่น Worldtime ที่ครอบคลุม 31 เขตโซนเวลาจาก 48 เมืองทั่วโลก จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง ตั้งปลุก และสัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง ซึ่งถือเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่มีอยู่ใน G-Shock เกือบทุกรุ่นอยู่แล้ว พร้อมอายุแบตเตอรี่ระดับ 3 ปี

ส่วนใครที่คิดว่านาฬิการุ่นนี้แพง ผมคงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะโมดุลที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อนาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะและเป็นแบบ 2 ระบบ ซึ่งตามปกติแล้ว จะมีราคาสูงกว่าระบบเดียวอยู่แล้ว

บทสรุปสำหรับตัวผมที่มีต่อ GM-2100 Series คือ ความสวยของการออกแบบ ความพิถีพิถันในการขัดแต่งตัวเรือนที่เป็นโลหะซึ่งแฟนๆ ของ G-Shock อาจจะไม่คุ้นเพราะปกตินิยมแต่ตัวเรือนเรซิน และสุดท้ายคือ ขนาดกำลังดีสำหรับข้อมือที่มีเส้นรอบวง 7 นิ้วของผม ไม่เล็ก และไม่เทอะทะจนเกินไป

ส่วนราคาจำหน่ายนั้น รุ่น GM-2100-1A จะถูกที่สุด ซึ่งเป็นเพราะตัวเรือนไม่ได้รมดำ มีราคาป้ายอยู่ที่ 8,500 บาท และอีก 3 รุ่นที่เหลือจะมีราคาอยู่ที่ 9,200 บาท ชอบสีไหนก็ลุยกันได้เลย

ข้อมูลทางเทคนิค : Casio G-Shock GM-2100 Series

  • เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 44.4 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 3 มิลลิเมตร
  • หนา : 11.8 มิลลิเมตร
  • วัสดุกรอบตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
  • วัสดุสาย : เรซิน
  • กระจก : มิเนอรัล
  • กลไก : โมดุล 5611
  • การกันน้ำ : 200 เมตร
  • ประทับใจ : ความสวยของการออกแบบ ความพิถีพิถันในการขัดแต่งตัวเรือน และขนาดกำลังดีสำหรับข้อมือ
  • ไม่ประทับใจ : ไม่มี