Bell & Ross BR-X5 นิยามใหม่ของนาฬิกาสำหรับคนเมือง

0

BR-05 กลายเป็นนาฬิกาที่มีความโดดเด่นและกลายเป็นความหวังของ Bell & Ross ในการเข้าถึงความต้องการของคนในวงกว้าง และนั่นทำให้ตลอด 3 ปีนับจาก 2019 เป็นต้นมาพวกเขามีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาเป็นทางเลือกมากมาย และก็รวมถึงผลผลิตล่าสุดอย่าง Bell & Ross BR-X5

- Advertisement -

Bell & Ross BR-X5

Bell & Ross BR-X5 นิยามใหม่ของนาฬิกาสำหรับคนเมือง

  • การเพิ่มนาฬิการุ่นใหม่ให้กับกลุ่ม BR-05 Collection กับรุ่น BR-X5

  • เพิ่มความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ด้วยโครงสร้างตัวเรือนแบบใหม่และกลไกจาก Kenissi ที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chromometer

  • ในรุ่นธรรมดามีจำหน่ายด้วยกัน 2 สีหน้าปัดคือ ดำและ Ice Blue

อีกผลผลิตใหม่จาก Bell & Ross ที่ถือว่ามีความน่าสนใจและสามารถแสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนและการผนวกเอาเอกลักษณ์แห่งการออกแบบที่ถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์มาเข้ากับการใช้ชีวิตของคนเมืองพร้อมกับเติมสีสันและความน่าสนใจรวมถึงนวัตกรรมทางความคิดในแง่ของการออกแบบรูปแบบตัวเรือนใหม่ ซึ่งทั้งหมดถูกนำเสนอผ่านทางนาฬิการุ่นใหม่ของพวกเขานั่นคือ Bell & Ross BR-X5 ที่จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 สีหน้าปัด

Bell & Ross BR-X5 Bell & Ross BR-X5 Bell & Ross BR-X5

การเปิดตัวของ BR-05 ในปี 2019 คือการยืนยันอย่างชัดเจนในการแยกให้เห็นถึงความพยายามของ Bell & Ross ในการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนกับรถยนต์สักแบรนด์ที่ถือกำเนิดมาจากการเป็นรถยนต์เพื่อการใช้งานโหดๆ บนเส้นทางออฟโรดที่ต้องการปรับตัวและผันตัวเองตามตลาดที่เปลี่ยนไปด้วยการหันมาผลิตรถยนต์ที่มีกลิ่นอายจากจุดกำเนิดแต่ทว่าสามารถใช้งานง่ายขึ้น และเน้นการใช้งานในเมืองหรือออนโรด

นั่นคือ สิ่งที่ Bell & Ross พยายามที่จะจัดระเบียบและแยกผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ชัดเจน โดยในกลุ่ม Instrumental อย่าง BR-03 คือ นาฬิกาที่ถูกสร้างจากรากเหง้าเดิมและเหมาะกับคนที่ชอบนาฬิกาที่มีความชัดเจนในแง่ของการออกแบบและการสวมใส่ที่เน้นความโดดเด่นรวมถึงการนำไปใช้งานอย่างจริงจัง ส่วนอีกกลุ่มคือ BR-05 นาฬิกาที่มีกลิ่นอายในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แต่ถูกปรับแนวคิดให้เหมาะกับการใช้งานในแบบ Daily Use และเป็นนาฬิกาในรูปแบบ Urban Watch สำหรับคนเมือง ซึ่งทางแบรนด์ต้องการให้เข้าถึงความต้องการของคนกลุ่มนี้มากขึ้น

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพียงแค่ 3 ปีนับจากเปิดตัวคอลเล็กชั่น BR-05 จะมีการเปิดตัวออกมาอย่างมากมายและต่อเนื่องนับตั้งแต่รุ่น 3 เข็ม รุ่น GMT รุ่น Chrono และล่าสุดคือ BR-X5 นาฬิกาที่ถูกปรับรูปแบบของหน้า และมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ในการผลิตตัวเรือน เช่นเดียวกับกลไกใหม่จากบริษัท Kenissi ที่เป็น Third Party Movement รายใหม่ที่มาพร้อมกับกลไกที่เหนือกว่าทั้งกำลังสำรองและความเที่ยงตรง

Bell & Ross BR-X5Bell & Ross BR-X5Bell & Ross BR-X5

บนตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร (เท่ากับรุ่น GMT) สิ่งที่น่าสนใจคือการผลิตตัวเรือนแบบใหม่ที่ Bell & Ross เรียกว่า Sandwich Type Construction ซึ่งเป็นการประกบกันของชิ้นส่วนหลากหลายชั้น (Multi-Layer Construction) โดยจะมีชิ้นส่วนหลักตรงกลางเป็นตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และจะมีโอริงที่ผลิตจากยาง พร้อมกับแผ่นเหล็กอยู่ตรงกลางระหว่างขอบตัวเรือนและตัวเรือนหลัก (ซึ่งฝาหลังก็จะมีส่วนประกอบในลักษณะนี้) และทั้งหมดจะถูกยึดด้วยน็อตที่อยู่ตรงขอบตัวเรือนทั้ง 4 ด้านอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross

Bell & Ross BR-X5

Bell & Ross BR-X5

Bell & Ross BR-X5

ตรงนี้ช่วยทำให้การแยกการขัดในแต่ละชิ้นส่วนทำได้ง่ายขึ้นซึ่งตัวนาฬิกาจะมีทั้งแบบขัดเงาและขัดด้านสลับกันอย่างสวยงาม อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความทนทานต่อการกันน้ำ และความสะดวกต่อการออกแบบและเติมลูกเล่นที่เป็นรายละเอียดบนชิ้นส่วนของตัวเรือนนาฬิกา

ช่วงแรกที่มีการเปิดตัวจะมีจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่นย่อยจาก 2 สีหน้าปัด คือ ดำ และ Ice Blue

  • BR‑X5R-BL-ST/SRB : หน้าปัดดำ สายยาง

  • BR‑X5R-BL-ST/SST : หน้าปัดดำ สายสแตนเลสแบบ Integrated Bracelet

  • BR‑X5R-IB-ST/SRB : หน้าปัดสี Ice Blue สายยาง

  • BR‑X5R-IB-ST/SST : หน้าปัดสี Ice Blue สายสแตนเลสแบบ Integrated Bracelet

Bell & Ross BR-X5 Bell & Ross BR-X5
Bell & Ross BR-X5 Bell & Ross BR-X5

บนหน้าปัด นอกจากจะมีสีสันใหม่ที่เราไม่ค่อยได้เห็นทาง Bell & Ross ทำออกมาสักเท่าไรแล้ว ยังมีการเพิ่มเติมลูกเล่นบางอย่างเข้าไปอย่าง Power Reserve Indicator ที่อยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดยจะแสดงระดับกำลังงานสำรองทั้งหมดของกลไกซึ่งจะอยู่ที่ 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง ขณะที่ฝั่งตรงข้าม ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะเป็นช่องแสดงวันที่ หรือ Date ที่เรียงเป็นแนวยาวทางตั้งสำหรับแสดงวันที่ในแบบ Yesterday-Today-Tomorrow

Bell & Ross BR-X5

สิ่งที่เปลี่ยนไปจากที่ผ่านมาคือ กลไกอัตโนมัติ จริงอยู่ที่กลไกใหม่ในรหัส BR-Cal.323 จะยังเป็นการปรับแต่งจาก Outsourced แต่มีการเปลี่ยนรายใหม่มาเป็น Kenissi ซึ่งเป็นการนำกลไกของ Tudor มาผลิตเป็น Third Party Movement ตามความต้องการของแบรนด์นาฬิกาอื่นๆ อย่าง Breitling, Fortis, Norquain โดย BR-Cal.323 มีกำลังสำรอง 3 วัน และความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer โดยสิ่งที่ Kenissi ปรับปรุงให้ก็มีทั้งการติดตั้งหน้าปัดแสดงระดับกำลังสำรอง และการปรับแต่งลวดลายของโรเตอร์ขึ้นลานที่คุณสามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกใส

Bell & Ross BR-X5

Bell & Ross BR-X5 จะเริ่มทำตลาดแล้ว โดยในเมืองไทยมีการเปิดเผยราคาออกมาแล้ว ถ้าเป็นรุ่นสายยางจะอยู่ที่ 237,660 บาท และรุ่นสายสแตนเลสสตีลอยู่ที่ 257,250 บาท ใครที่สนใจก็เตรียมตัวลุยได้เลย 

รายละเอียดทางเทคนิค : Bell & Ross BR-X5

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 41 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 12.8 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน: สแตนเลสสตีล
  • กระจก : Sapphire แบบเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • กลไก:  BR-Cal.323 อัตโนมัติ มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer
  • ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • สำรองกำลังงาน: 72 ชั่วโมง / 3 วัน
  • การกันน้ำ: 100 เมตร