Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition สีสันแห่งเสียงเพลงบนตัวเรือน 37 มม.

0

Music Edition ของ Audemars Piguet Royal Oak กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นเวอร์ชันใหม่ซึ่งเข้ามาเติมเต็ม Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition เพิ่มตัวเรือนเซรามิกไซส์ 37 มม. พร้อมหน้าปัด Tapisserie สุดสวน ซึ่งเลียนแบบลวดลายของอีควอไลเซอร์ (หรือ VU meter ที่บอกระดับความดังของเสียง และมีการผลิตเพียง 250 เรือนเท่านั้น

- Advertisement -

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition สีสันแห่งเสียงเพลงบนตัวเรือน 37 มม.

  • การเพิ่มอีกทางเลือกให้กับรุ่น 37 มิลลิเมตรด้วยตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิก

  • หน้าปัด Tapisserie สุดสวน ซึ่งเลียนแบบลวดลายของอีควอไลเซอร์ (หรือ VU meter ที่บอกระดับความดังของเสียง

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ 5909 และมีการผลิตเพียง 250 เรือนเท่านั้น

หลังจากที่รุ่น 37 มิลลิเมตรมีจำหน่ายแค่ตัวเรือนไทเทเนียม และ White Gold เท่านั้น ในตอนนี้ Audemars Piguet เติมเต็มทางเลือกของนาฬิการุ่น Royal Oak Offshore Music Edition ให้ครบทุกแบบ ด้วยการเปิดตัวรุ่นตัวเรือน 37 มิลลิเมตรที่มากับวัสดุอย่างเซรามิกออกสู่ตลาดด้วยเวอร์ชันปี 2023

Royal Oak Offshore Music Edition ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อปี 2022 ซึ่งในตอนนั้นมีทั้งตัวเรือนขนาด 37 และ 43 มิลลิเมตร ซึ่งเฉพาะตัวเรือน 43 มิลลิเมตรเท่านั้นที่มีทางเลือกของวัสดุครบ 3 แบบ คือ ไทเทเนียม White Gold และเซรามิก ดังนั้นในปีนี้ ทางแบรนด์จึงเสริมทัพให้กับรุ่นตัวเรือน 37 มิลลิเมตรด้วยวัสดุอย่างเซรามิกที่มาพร้อมหน้าปัด Tapisserie ซึ่งเลียนแบบลวดลายของอีควอไลเซอร์ (หรือ VU meter ที่บอกระดับความดังของเสียง)

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition
Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition

นับตั้งแต่ก่อตั้ง Audemars Piguet ได้ทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสะพานเชื่อมโลกแห่งดนตรีมากับโลกแห่งนาฬิกามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บทบาทของการเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนานาฬิกาที่มีระบบเคาะบอกเวลา (chiming watches) โดยคอลเลกชัน Royal Oak Offshore ยังเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชันที่นำเสนอการทำงานร่วมกันระหว่างโอเดอมาร์ ปิเกต์กับหลากหลายศิลปิน ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน

สำหรับรุ่น Royal Oak Offshore Music Edition ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 2022 นั้นเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานนี้ด้วยสุนทรียภาพใหม่ล่าสุด ซึ่งหมายถึงหน้าปัด Tapisserie ที่จำลองลวดลายของอีควอไลเซอร์ พร้อมหมุดพิมพ์ลายที่ชวนให้นึกถึงแจ็คต่อสายเครื่องดนตรี

ส่วน Crown guard ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากปุ่มเฟดเดอร์บนแผงมิกซ์เสียง ในขณะที่กลไกอัตโนมัติซึ่งบอกเวลาชั่วโมง นาที และวินาทีและมาพร้อมคริสตัลแซฟไฟร์บนแกนโค้งไปตามแนวตำแหน่ง 6 นาฬิกาถึง 12 นาฬิกาและมุมเอียงที่ขยายใหญ่ขึ้น ช่วยขับเน้นสไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเพลงป๊อปเปี่ยมสีสันได้อย่างโดดเด่นและพิถีพิถัน

เมื่อแบล็กเซรามิกพบกับสีสันฉูดฉาด

นาฬิการุ่น Royal Oak Offshore Music Edition ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรที่เปิดตัวในปีนี้ โดดเด่นด้วยตัวเรือน ขอบตัวเรือน และเม็ดมะยมแบบสกรูล็อกที่รังสรรค์ด้วยแบล็กเซรามิก

ส่วนการใช้ไทเทเนียมในส่วนประกอบอื่นยังช่วยเติมคอนทราสต์ที่น่าสนใจให้กับดีไซน์ของนาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของข้อต่อที่ชวนให้นึกถึงลวดลายของแจ็คต่อสายเครื่องดนตรี หรือ Crown guard และเข็มกลัดสายนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปุ่มเฟดเดอร์บนแผงมิกซ์เสียง

เซรามิกซึ่งเป็นวัสดุทีมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษและไม่ใช่วัสดุที่สามารถนำมาผลิตชิ้นงานได้ง่าย จะถูกนำมาผ่านการเก็บรายละเอียดสุดท้ายอย่างพิถีพิถันเพื่อเผยให้เห็นถึงความโดดเด่นแตกต่างที่แมตช์กับเส้นสายอันซับซ้อนของตัวเรือนของรุ่น Royal Oak Offshore

ภายใต้มาตรฐานด้านคุณภาพระดับสูงของ Audemars Piguet ส่วนหนึ่งของเซรามิกนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นจากผงเซอร์โคเนียมออกไซด์ที่นำมารวมเข้ากับสารยึดเกาะเฉพาะ การทำให้เกิดสีที่เป็นเนื้อเดียวกันนั้นจะเกิดขึ้นได้เมื่อเซรามิกถูกนำมาผ่านความร้อนที่อุณหภูมิมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส

จากนั้น ส่วนประกอบต่าง ๆ จะได้รับการขัดเงาและการขัดแบบซาตินในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการเก็บรายละเอียดสุดท้ายด้วยมืออย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เท็กซ์เจอร์ที่ผ่านการขัดเงาและการขัดแบบซาตินซึ่งเป็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Audemars Piguet

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition
Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition

รายละเอียดของลวดลายอีควอไลเซอร์บนหน้าปัดประกอบด้วยสีต่าง ๆ ถึง 10 สีพิมพ์ลงบนลาย Tapisserie ซึ่งถูกตัดผ่านรายละเอียดการออกแบบที่เรียบง่าย เมื่อตัดช่องบอกวันที่ออกไป หน้าปัดจึงดูเด่นขึ้นพร้อมทั้งให้รูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยและดูสมบูรณ์แบบขึ้นอีกเมื่อประดับด้วยโลโก้ AP White Gold ขัดเงาที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา

รวมถึงเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาไวท์โกลด์ 18 กะรัตเคลือบสารเรืองแสง ที่ช่วยให้สามารถบอกเวลาได้อย่างชัดเจนที่สุดแม้ในฮอลล์คอนเสิร์ตที่มืดสนิท

นาฬิกาสุดโมเดิร์นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีข้อมือเพรียวบางเรือน ยังมาพร้อมสายนาฬิกายางสีดำที่สามารถถอดเปลี่ยนได้พร้อมลวดลาย “โมเสก” ที่แมตช์กับสีของหน้าปัด โดยมีสายนาฬิกาสำรองให้อีก 3 เส้น

โดยเป็นสายนาฬิกายางสีเขียวเทอร์ควอยซ์ สีเหลือง และสีเขียว ที่ตกแต่งด้วยลวดลาย “โมเสก” ด้วยเช่นกัน และเปิดโอกาสให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้ตามอารมณ์ความรู้สึกในแต่ละครั้งที่หยิบนาฬิกามาสวมใส่

ฝาหลังประดับแซฟไฟร์และไทเทเนียมเผยให้เห็นรายละเอียดของการตกแต่งด้วยมือที่กลไก โดยมีการสลักคำว่า “Limited Edition of 250 Pieces” เอาไว้

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการตกแต่งฝาหลังอื่น ๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็นงานสร้างสรรค์เรือนเวลาชั้นสูง อาทิ การใช้เทคนิคการตกแต่งลายวงกลมวน “โกตส์ เดอ เฌอแนฟ” (Côtes de Genève) การขัดเงาแบบซาติน เทคนิค “เซอร์คิวลาร์ เกรนิง” เทคนิค “เทรตส์ ทิเรส์” (traits tirés) และการขัดเงาลบมุม

รวมไปถึง oscillating weight พิ้งค์โกลด์ 22 กะรัตเคลือบด้วยเทคนิคเอ็นเอซีที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคอลเลกชันนี้ด้วย

Audemars Piguet Royal Oak Offshore Music Edition

คาลิเบอร์อัตโนมัติเจเนอเรชันใหม่

นาฬิกาขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรเรือนใหม่นี้มาพร้อมคาลิเบอร์ 5909 กับกลไกอัตโนมัติในการนับชั่วโมง นาที วินาทีเจเนอเรชันล่าสุด การตัดช่องแสดงวันที่ออกไปช่วยขับเน้นความโดดเด่นของลวดลายที่เปี่ยมด้วยสีสันของหน้าปัดได้ดียิ่งขึ้น กลไกนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยอ้างอิงจากคาลิเบอร์ 5900

ซึ่ง Audemars Piguet นำเสนอออกมาเป็นครั้งแรกในปี 2022 ในรุ่น Royal Oak ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตร ด้วยจุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาทั้งการมีขนาดที่บางขึ้นและให้ความถี่ที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างคาลิเบอร์ 3120 โดยสามารถสำรองพลังงานได้ยาวนาน 60 ชั่วโมง

สำหรับการผลิตมีเพียง 250 เรือนเท่านั้น

รายละเอียดทางเทคนิค : Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding Music Edition

  • รหัส : Ref.77600CE.OO.A002CA.01
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 37 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 12.1 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : แบล็คเซรามิก เม็ดมะยมสกรูล็อกแบล็กเซรามิก crown guard และหมุดเป็นไทเทเนียม
  • กระจก : Sapphire
  • หน้าปัด : สีดำพร้อมลายพิมพ์ “VU meter” เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงไวท์โกลด์ เข็มนาฬิกา Royal Oak ไวท์โกลด์เคลือบพีวีดีสีดำและสารเรืองแสง โลโก้ AP โทนสีโรเดียม
  • สายนาฬิกา : ยางสีดำพร้อมลวดลาย “โมเสก” พร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายเองได้และเข็มกลัด AP ไทเทเนียม โดยมีสายนาฬิกาสำรองให้อีก 3 เส้นเป็นสายนาฬิกายางพร้อมลาย “โมเสก” สีเขียวเทอร์ควอยซ์ สีเหลืองและสีเขียว
  • กลไก : อัตโนมัติรหัส Calibre 5909
  • ความถี่ : 4 Hz (28,800 ครั้ง/ชั่วโมง)
  • กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 50 เมตร