นาฬิกา GMT หน้าตาเหมือนแต่ฟังก์ชั่นต่าง

0

ขึ้นชื่อว่านาฬิกา GMT หลายคนอาจจะคิดว่าก็แค่นาฬิกาที่มีเข็มพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก 1 อันเพื่อทำหน้าที่ในการบอกเวลาที่ 2 แต่จริงๆ แล้ว GMT มี 2 แบบในเรื่องของรูปแบบความต่างในการตั้งเวลาที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน

- Advertisement -

นาฬิกา GMT

นาฬิกา GMT หน้าตาเหมือนแต่ฟังก์ชั่นต่าง

  • นาฬิกา GMT ที่มีอยู่ในตลาดจริงๆ แล้วมีรูปแบบการตั้งเวลา 2 แบบด้วยกัน คือ Office GMT กับ Traveler’s GMT ซึ่งจะมีการตั้งและการแสดงเวลาที่แตกต่างกันออกไป

  • ประมาณ 80-90% ของนาฬิกา GMT ที่อยู่ในตลาด จะเป็นแบบ Office GMT ซึ่งมีการตั้งเข็ม GMT แบบอิสระ และใช้งานสะดวก

  • สำหรับคนที่ชอบเดินทางแบบข้ามโซนเวลาบ่อยๆ การเลือกใช้นาฬิกาแบบ Traveler’s GMT คือ ตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะระบบถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานลักษณะนั้น

ผมเชื่อว่าเราพอจะทราบนิยามของนาฬิกา GMT กันมาบ้างแล้วว่าคือ นาฬิกาที่มีความสามารถในการบอกเวลาที่ 2 (หรืออาจจะ 3 ในบางรุ่น) ผ่านทางเข็มพิเศษที่เราเรียกว่า GMT Hand แต่หลังจากที่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมกำลังตามหาเป้าหมายใหม่อยู่และนั่ง Search รีวิวในเว็บต่างประเทศ ทันใดนั้นก็มาพบกับเนื้อหาตอนหนึ่งที่แทรกอยู่ในรีวิวของเว็บ Watchtime.com ที่มีการพูดถึงประเภทของนาฬิกา GMT เรียกว่าเป็นการเปิดโลกความรู้ใหม่ให้กับผมเลยก็ว่าได้จนนำมาสู่บทความนี้ในที่สุด

จริงๆ แล้วผมพอจะทราบเรื่องของความต่างในการตั้งเวลาของนาฬิกา GMT ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด เพราะตัวเองดันมีนาฬิกา GMT อยู่ในกรุระดับหนึ่ง และดันมี 2 เรือนที่มีฟังก์ชั่นในการปรับตั้งเวลาต่างจากเรือนอื่นๆ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร และเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบกลไกซะมากกว่า แต่เอาเข้าจริงๆ หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ทำให้ทราบเลยว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น

ตามบทความใน Watchtime มีการระบุว่าจริงๆ แล้วนาฬิกา GMT ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดนั้นสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ Office GMT กับ Traveler’s GMT ซึ่งบอกเลยว่าเมื่อมองจากภายนอก ทั้งแบบ 2 นี้เหมือนกันหมด เรียกว่าคุณไม่มีทางรู้เลยจนกว่าจะหมุนเม็ดมะยมเพื่อปรับเวลาใหม่

ก่อนอื่น ทำความเข้าใจกันก่อนว่า นาฬิกา GMT ที่ผมหมายถึงนี้คือ GMT แท้ๆ นะครับ ที่ไม่ใช่ GMT แบบหลอกๆ ซึ่งเข็มที่ 4 จะทำหน้าที่บอกแค่ AM/PM ไม่สามารถหมุนปรับเวลาได้ต่างหาก ในขณะที่นาฬิกา GMT แท้ๆ เข็ม GMT นอกจากจะบอก AM/PM ได้แล้วยังสามารถปรับเปลี่ยนอีกบทบาทได้ในการบอกเวลาที่ 2

ตามปกติแล้ว เวลาใส่นาฬิกา GMT ผมเชื่อว่าคนทั่วไป (ซึ่งในชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยเดินทางไปไหนข้ามโซนเวลา) มักจะปรับอย่างนี้ คือ เข็มหลัก (ชั่วโมงนาที) จะทำหน้าที่แสดง Home Time ซึ่งก็คือ เวลาของเมืองที่คุณอาศัยอยู่ (หรือเมืองที่คุณเดินทางจากมา ในกรณีที่มองในแง่ของการเดินทาง) ส่วนเข็ม GMT จะถูกตั้งเอาไว้ในการช่วยระบุว่าเวลานั้นคือ AM/PM มากกว่าที่จะแสดงเวลาที่ 2

เพราะตามปกติแล้ว เวลาที่นาฬิกาหมดลาน แล้วคุณจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานพร้อมกับปรับเวลาและวันที่ใหม่ การที่เข็ม GMT ทำหน้าที่นี้จะช่วยในเรื่องของการระบุว่าเวลาที่หยุดเดินคือช่วงไหนของวัน เช่น ถ้าเวลาหลักระบุเป็น 9.00 น. คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันคือ 9 โมงเช้าหรือ 3 ทุ่ม แต่ถ้าเข็ม GMT ถูกเซ็ตให้เป็นการบอก AM/PM คุณจะทราบได้ทันที

แล้วมีประโยชน์ตรงไหน ?

ข้อแรก ช่วยในเรื่องการตั้งเวลาทั้ง Home Time และ Local Time (เมืองที่คุณเดินทางไป) ให้มีความสอดคล้องกัน เพราะถ้าคุณไม่ทราบ การตั้งเวลาก็จะผิดเพี้ยนไปหมดในแง่ของเช้าหรือบ่าย และข้อต่อมาคือ เมื่อต้องตั้งวันที่ หรือ Date การรู้ว่าเวลาที่หยุดเดินคือ เช้าหรือค่ำ โดยเฉพาะในช่วงเลข 8-3 จะมีส่วนช่วยลดความเสียหายอย่างมาก เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า ช่วงเวลา 2 ทุ่มถึงตี 3 ไม่เหมาะกับการหมุนปรับวันที่เพราะอาจจะทำให้กลไกที่ทำหน้าการเปลี่ยนวันที่มีความเสียหายได้  ดังนั้น ถ้านาฬิกาหยุดเดินที่เลข 9 และเข็ม GMT ชี้ไปที่ 9 ไม่ใช่ 21 คุณก็จะสามารถปรับวันที่ได้อย่างสบายใจ

เอาละ…กลับมาที่เรื่องของ Office GMT กับ Traveler’s GMT กันต่อ

Office GMT

สำหรับประเภทแรกคือ Office GMT นั้น ถือเป็นนาฬิกา GMT ที่มีขายอยู่ในตลาดมากที่สุด ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเกือบ 90% ของรุ่นที่มีอยู่ในตลาดเลยก็ว่าได้ ในการใช้งานปกติ เข็มชั่วโมงและนาทีจะทำหน้าที่ในการแสดงเวลาของเมืองที่คุณอาศัยอยู่ หรือ Home Time และจับพลัดจับผลู เกิดมีคนเชิญไปต่างแดน คุณสามารถหมุนเม็ดมะยมและสั่งปรับเวลาที่ 2 ซึ่งก็คือ Local Time (เมืองที่คุณกำลังจะเดินทางไป) ผ่านทางเข็ม GMT ในการแสดงเวลาร่วมกับขอบสเกลแบบ 24 ชั่วโมงบนหน้าปัดได้เลย โดยการแสดงเวลาบนเข็มหลักยังเป็นเวลา Home Time

ข้อดีของ GMT แบบนี้คือ ปรับง่าย และสามารถทำได้ทันทีเมื่อถึงที่หมาย แต่ข้อเสียเท่าที่ผมมองเห็นคือ การดูเวลาที่ 2 หรือ Local Time จะค่อนข้างลำบากและวุ่นวายกว่า เพราะข้อแรกเข็ม GMT เดินแบบ 24 ชั่วโมง (1 รอบหน้าปัดต่อวัน) ทำให้การดูเวลาแบบเร็วๆ แบบชำเลืองสายตาผ่านอาจจะทำได้ยาก โดยเฉพาะบรรดาผู้สูงอายุทั้งหลาย เพราะในแง่ของความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณต้องเดินทางและต้องการให้นาฬิกาสามารถแสดงเวลาได้ทั้ง 2 จุด เวลาที่เป็น Local Time (เมืองที่คุณเดินทางไป) น่าจะมีความสำคัญกว่า เพราะคุณต้องใช้เวลาของเมืองนี้ตลอดในช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น ดังนั้นการดูผ่านเข็ม GMT น่าจะยุ่งยากและวุ่นวายกว่าผ่านทางเข็มชั่วโมงปกติ

อ้าว…แล้วอย่างนั้นจะออกแบบมาให้เป็นอย่างนี้ทำไม ?

ผมคิดว่าเหตุผลที่ปรับเวลาที่ 2 ผ่านทางเข็ม GMT น่าจะเป็นเรื่องของการใช้อ้างอิงเวลาที่ 2 มากกว่าโดยที่ตัวคุณเองไม่ได้เดินทางไปไหนมาไหน เช่น คุณเล่นหุ้นอยู่ในเมืองไทย และต้องการรู้เวลาของตลาดหุ้นอื่นๆ ที่มีความสำคัญ หรือเวลาที่คุณต้องทำงานโดยดีลกับหน่วยงานอื่นที่อยู่ต่างประเทศในเขตโซนเวลาอื่น เป็นต้น ดังนั้น นาฬิกาแบบนี้ก็เลยถูกเรียกว่าเป็น Office GMT เพราะความสำคัญในการดูเวลาบนหน้าปัดคือ Home Time ผ่านทางเข็มปกติมากกว่า Local Time

สำหรับการตั้งเวลาของ Office GMT คือ คุณจะสามารถหมุนเวลาได้เหมือนนาฬิกาปกติได้เลย แล้วถ้าต้องการตั้งเวลาที่ 2 ผ่านทางเข็ม GMT ค่อยดึงเม็ดมะยมขึ้นมา 1 ครั้งในตำแหน่งเดียวกับตั้งวันที่ แล้วค่อยหมุนเลือกเวลาที่ต้องการ

Traveler’s GMT

อีกแบบคือ Traveler’ s GMT อันนี้จะเป็นอีกแบบ คือ GMT ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเดินทาง เพราะการปรับเวลาที่คุณจะเดินทางไป หรือ Local Time ผ่านทางเข็มชั่วโมงหลัก ไม่ใช่เข็ม GMT ยกตัวอย่างเช่น คุณที่อยู่ที่กรุงเทพ และต้องเดินทางไปญี่ปุ่นที่มีความต่างของของเวลา +2 ชั่วโมง เวลา ณ ตอนนั้นคือ 9.00 น. และเข็ม GMT ชี้ไปที่เลข 9

Traveler’s GMT จะให้ความสำคัญของการแสดงเวลาของเมืองที่คุณจะเดินทางไป (Local Time) ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่อย่างนั้นจะตั้งชื่อว่าเป็น Traveler’s GMT ทำไม ดังนั้น การแสดงเวลาของ Local Time ควรจะถูกทำผ่านทางเข็มหลักของนาฬิกา ไม่ใช่เข็ม GMT

เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่แรก คุณต้องเดินทางและใช้เวลาของเมืองที่คุณเดินทางไป (Local Time) มากกว่าเมืองที่คุณเดินทางมา (Home Time) การดูเวลาผ่านทางเข็มหลักจะดีที่สุด เนื่องจากเข็ม GMT เดินในแบบ 1 รอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งดูยากกว่า

ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น เมื่อเท้าคุณแตะพื้นดินของประเทศญี่ปุ่น แค่ดึงเม็ดมะยมออกมาแล้วหมุนเข็มชั่วโมงไปที่เลข 11 เท่านี้นก็จบ คุณจะได้เวลา Local Time 11.00 น. บนหน้าปัดหลัก ขณะที่เข็ม GMT ก็ยังชี้ไปที่เลข 9 ของ Home Time เหมือนเดิม

ถ้าถามว่าแล้ว Office GMT จะทำแบบ Traveler’s GMT ได้ไหม ? คำตอบคือ ทำได้ แต่จะยุ่งยากกว่าเท่านั้นเอง ขั้นแรกคุณต้องปรับเวลาของเข็มหลักให้เป็น Local Time จากนั้นก็จำด้วยว่า Home Time ของคุณคือ กี่โมง จากนั้นค่อยหมุนเข็ม GMT ไปอยู่ในตำแหน่งนั้น

สำหรับการตั้งเวลาอาจจะยุ่งนิดหน่อย ถ้าในกรณีที่เข็ม GMT ถูกตั้งให้ทำหน้าที่แสดงเวลาที่ 2 ไม่ใช่เป็นการแสดง AM/PM คุณควรหมุนตั้งเวลายังไงก็ได้ให้เข็ม GMT มาตกลงตัวเลขของเวลา Home Time ปกติก่อน จากนั้น ค่อยกดเม็ดมะยมลง 1 สเต็ปแล้วค่อยหมุนเข็มชั่วโมงให้ไปอยู่ในเวลาที่ต้องการ เช่น ตอนที่นาฬิกาหยุดเดิน เข็มปกติอยู่ที่ 10.00 น. แต่เข็ม GMT ตกอยู่ที่เลข 12 คุณก็ควรหมุนเข็มชั่วโมงและนาทีให้เข็ม GMT เดินไปตกที่เลข 10 ก่อน (ส่วนเข็มชั่วโมงจะไปตกที่เลขอะไรก็ไม่ต้องสนใจ) จากนั้นค่อยกดเม็ดมะยมลง 1 สเต็ป และหมุนเข็มชั่วโมงกลับมาอยู่ที่เลข 10 เท่านี้ก็จบ

สำหรับคนที่ชอบนาฬิกา GMT ยังไงก่อนซื้อก็ศึกษาและดูก่อนนะครับว่า นาฬิกาที่ชอบนั้นมีรูปแบบของ GMT แบบไหน จะได้ใช้งานกันอย่างสะดวกและถูกใจ แต่ถ้าชอบแบรนด์กับหน้าตาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น GMT แบบไหน งานนี้ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนใจได้อย่างแน่นอน

Office GMT Traveler’s GMT
การปรับเวลา GMT ผ่านทางเข็ม GMT ผ่านทางเข็มชั่วโมง
การแสดง Home Time ผ่านทางเข็มชั่วโมง ผ่านทางเข็ม GMT
การแสดง Local Time ผ่านทางเข็ม GMT ผ่านทางเข็มชั่วโมง
การให้ความสำคัญของเวลาบนหน้าปัดหลัก Home Time Local Time