Tissot นำนาฬิกาสุดเจ๋งแห่งยุคทศวรรษที่ 1960 กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง โดย Sideral 2023 ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาสุดคลาสสิกที่เปิดตัวในปี 1969 และมากับตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Forged และมีสายให้เลือก 3 สี โดยจะขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Powermatic 80 และมีราคาอยู่ที่ 35,900 บาท
Tissot Sideral 2023 คืนชีพความสปอร์ตหลากสีสันยุค 1960
-
การคืนชีพนาฬิกาสปอร์ตยุคทศวรรษที่ 1960 ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูร่วมสมัยขึ้น
-
ใช้ตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Forged และสายที่มีสีสันสวยงาม
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Powermatic 80 และมีราคาอยู่ที่ 35,900 บาท
Tissot นำความสำเร็จของนาฬิการุ่นดังในอดีตกลับมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจในตลาดยุคใหม่อีกครั้ง และคราวนี้เป็นคิวของนาฬิการุ่น Sideral ซึ่งเป็นนาฬิกาสปอร์ตที่เปิดตัวในปลายทศวรรษที่ 1960 กลับมาทำใหม่โดยจะมีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อยและขับเคลื่อนด้วยกลไก Powermatic ที่มีกำลังสำรองสูงสุด 80 ชั่วโมง
ทศวรรษที่ 1960 ถือเป็นช่วงที่เรียกว่า Golden Age ของอุตสาหกรรมนาฬิกาเลยก็ว่าได้ ในตลาดมีแบรนด์ที่มากหน้าหลายตา ขณะที่แบรนด์เหล่านั้นต่างพยายามแข่งขันในการนำเสนอด้วยสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อนในตลาดทั้งในเรื่องของการออกแบบ
การพัฒนาองค์ความรู้ในด้านต่างๆ และความล้ำสมัยของเทคนิคกลไก แน่นอนว่า Tissot คือ หนึ่งในนั้น นอกจากการที่เป็นแบรนด์ซึ่งบุกเบิกในเรื่องของการพัฒนานาฬิกาที่มีความทนทานต่อสนามแม่เหล็กที่มีขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 แล้ว ในปี 1969 พวกเขายังนำเสนอความแปลกใหม่ในตลาดนาฬิกาด้วยรุ่น Sideral
![]() |
![]() |
Sideral รุ่นดั้งเดิมเป็นนาฬิกาทรง Tonneau แบบไม่มีขาสาย ซึ่งตัวเรือนเป็นแบบ Monocase และผลิตจากไฟเบอร์กลาส ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นวัสดุที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยครั้งนักในการผลิตนาฬิกา โดยสิ่งที่แตกต่างออกไปอีกประเด็นคือ การเลือกใช้สีสันในการนำเสนอบนตัวเรือนเพื่อสร้างความโดดเด่นเมื่อสวมใส่บนข้อมือ จากนั้นในอีก 2 ปีต่อมาพวกเขาก็เปิดตัวรุ่น Sideral S ที่มากับความสวยสปอร์ตมากขึ้น พร้อมกับระบบสายที่เรียกว่า Fastening System
แน่นอนว่าในช่วงของการประชุมผู้สื่อข่าวของ Tissot ที่มีขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ทางแบรนด์ได้เผยโฉมโปรเจ็กต์ในการนำ Sideral กลับมาสู่ตลาดให้สื่อมวลชนทั่วโลกได้สัมผัสกันมาแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่านี่คือ นาฬิกาอีกรุ่นหนึ่งของ Tissot ที่มีความน่าสนใจอย่างมาก
สำหรับ Sideral 2023 ยังคงยึดรูปแบบของดีไซน์ตามแบบฉบับรุ่นดั้งเดิม และมีจำหน่ายในช่วงแรกด้วยกัน 3 สีตัวเรือน คือ
- T145.407.97.057.00 สายและรายละเอียดบนหน้าปัดสีเหลือง
- T145.407.97.057.01 สายและรายละเอียดบนหน้าปัดสีฟ้า
- T145.407.97.057.02 สายสีแดงและรายละเอียดบนหน้าปัดสีเทา
![]() |
![]() |
![]() |
สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมคือ ตัวเรือนที่แม้ว่าจะมาในแบบ Tonneau แต่ก็ไม่ใช่แบบ Monocase เหมือนกับที่ผ่านมา โดยชิ้นส่วนตัวเรือนหลักจะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ผ่านกระบวนการผลิตแบบ Forged และมีลวดลายเหมือนกับหินอ่อน พร้อมฝาหลังแบบใสและขันเกลียวที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มิลลิเมตร
บนหน้าปัดของตัวนาฬิกาจะมีสเกลสำหรับใช้ในการจับเวลาเพื่อการใช้งานได้หลากหลายทั้งการดำน้ำ และกีฬาทางน้ำ โดยบนสเกลระหว่าง 10-15 ที่อยู่บนหน้าปัดจะมีการแยกสีแดงและเขียวเพื่อใช้ในการจับเวลาถอยหลังสำหรับการแล่นเรือนยอชท์ ส่วนบนขอบตัวเรือนชนิดหมุนทางเดียวก็มีความพิเศษตรงที่มีทั้งมาตรวัดสำหรับใช้ในการจับเวลาแบบเดินหน้า และจับเวลาถอยหลังให้เลือกใช้งาน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
อีกสิ่งที่พิเศษคือ ตัวสายยางที่นอกจะมีลวดลสยย้อนยุคด้วยการเจาะรูบนสายเหมือนกับสายในยุคทศวรรษที่ 1960-1970 แล้ว ยังมาพร้อมระบบ Interchangeable Quick Release ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนสลับสาย และบนตัวรัดสายยังถูกออกแบบให้สวมใส่ง่ายด้วยตัวรัดที่เป็นแบบ Fastening คล้านกับรุ่นดั้งเดิม
![]() |
![]() |
สิ่งที่ขับเคลื่อน Tissot Sideral 2023 คือ Powermatic 80 ซึ่งเป็นกลไกที่พัฒนามาจากพื้นฐานของ ETA 2824 ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Swatch Group เช่นเดียวกับ Tissot โดยตัวสายใยนาฬิกาหรือ Balance Spring ได้รับการผลิตจาก Nivachron มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็ก และทนทานต่อการใช้งาน โดยมีกำลังสำรองสูงสุด 80 ชั่วโมง และเป็นกลไกที่มีติดตั้งอยู่ในนาฬิกาหลายรุ่นหลายแบรนด์ในเครือ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามลวดลายของแบรนด์ที่ถูกสลักลงบนโรเตอร์ขึ้นลาน
![]() |
![]() |
![]() |
Tissot Sideral 2023 เริ่มบุกตลาดแล้ว และในเมืองไทยมีราคาป้ายอยู่ที่ 35,900 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Tissot Sideral 2023
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 46.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : คาร์บอนไฟเบอร์แบบ Forged
- วัสดุฝาหลัง : สแตนเลสสตีล 316L พร้อมกระจกใส
- กระจก : Sapphire แบบโดมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : Powermatic 80 อัตโนมัติ Date
- ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 80 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline