TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition เปิดตัวนาฬิกา 2 รุ่นสุดเจ๋งสำหรับคนรักการซิ่ง

โดย

MP4/4

18/10/2022

TAG Heuer กับ Nintendo จับมือกันอีกครั้งในการนำตัวละครจากเกมชื่อดังอย่าง Mario มาโลดแล่นบนหน้าปัดอีกครั้งกับนาฬิการุ่น TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition ที่จะมีการเปิดตัวออกมา 2 รุ่นด้วยกันจากคอลเล็กชั่น F1 โดยจะมีทั้ง Chronograph และ Tourbillon Chronograph

- Advertisement -

TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition

TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition เปิดตัวนาฬิกา 2 รุ่นสุดเจ๋งสำหรับคนรักการซิ่ง

การจับมือครั้งใหม่ของ TAG Heuer กับพันมิตรผู้ผลิตเกมชื่อดังอย่าง Nintendo
เปิดตัวออกมา 2 รุ่นบนพื้นฐานของกลไกจับเวลาทั้งแบบอัตโนมัติ และอัตโนมัติ Tourbillon
มีจำนวนการผลิตที่จำกัด โดยรุ่นแรก 3,000 เรือน และรุ่นที่ 2 จำนวน 250 เรือน

นอกจากการเอาหัวโหม่งอิฐบล็อกแล้ว อีกทักษะที่ถือว่าเด่นสำหรับ Mario ตัวละครจากเกม Console ของ Nintendo คือการซิ่งโกคาร์ท และนั่นทำให้ทางต้นสังกัดมีการเปิดตัวเกมที่เรียกว่า MarioKart ออกมาในปี 1992 และในวาระของการครบรอบ 30 ปีของตัวเกม ทาง TAG Heuer ได้จับมือกับ Nintendo ในการเปิดโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition ด้วยการนำนาฬิกา 2 รุ่นจากโลกความเร็ว นั่นคือ F1 Chronograph และ Chronograph Tourbillon มาตกแต่งเพิ่มความสวยเพื่อให้เข้ากับ Theme ของความร่วมมือครั้งนี้

TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition

TAG Heuer และ Nintendo เป็นพาร์ทเนอร์กันมาตั้งแต่ปี 2021 และมีการเปิดตัวนาฬิกาที่ทำงานร่วมกันออกมารุ่นหนึ่งแล้วนั่นคือ ตัว Connected Smartwatch Mario Version ส่วนในรุ่นใหม่นี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะนอกจากรุ่นอัตโนมัติจับเวลาแล้ว ยังมีอีกทางเลือกเป็นกลไกระดับสูงอย่าง Tourbillon โดยเลือกเอาวาระพิเศษของการฉลองครบรอบ 30 ปีของเกม Mario Kart มาเป็นตัวสร้างสรรค์ โดยเกมนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 และทำตลาดจนถึงปี 2014 ก่อนที่จะหายหน้าไปพักหนึ่ง และทาง Nintendo เปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาในปี 2017 และทำตลาดจนถึงปัจจุบัน

ความพิเศษของ TAG Heuer Formula 1 X Mario Kart Limited Edition ก็คือ การเลือกจับคู่กับนาฬิกาที่มีความสอดคล้องกับความเร็วเข้ามาเป็นส่วนหลักในการสร้างสรรค์ โดยพวกเขาเลือกเอา F1 Chronograph มาเป็นรุ่นในการสร้างสรรค์ ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับโลกของมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ F1 ที่ทาง TAG Heuer เริ่มเข้าไปสัมผัสอย่างเต็มตัวและเป็นทางการในช่วงทศวรรษที่ 1980 โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ การเลือกใช้กลไกระดับสูงอย่าง Tourbillon ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับคอลเล็กชั่น F1

สำหรับรุ่นที่ทำตลาดคือ

รุ่น F1 Chronograph มากับรหัส CAZ201E.FC6517

- พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่นกลไกอัตโนมัติ Calibre 16 ที่มีกำลังสำรอง 42 ชั่วโมงกับตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มิลลิเมตร พร้อมสายหนังวัวสีดำเดินด้ายแดงและมีการปั๊มลายเป็นข้อต่อ Link ที่เป็นเอกลักษณ์ของ TAG Heuer ตัวพื้นหน้าปัดออกแบบเป็นลายคาร์บอนไฟเบอร์ตามสไตล์รถแข่ง นาฬิกาเรือนนี้จับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง และตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา
- ซึ่งเป็นหน้าปัดย่อยสำหรับเข็มวินาทีของระบบบอกเวลาจะมีการสกรีนลาย Mario กับนั่งซิ่งอยู่บน Go Kart ขณะที่บนอินเสิร์ตของขอบตัวเรือนแบบเซรามิกจะมีการสลักคำว่า MarioKart ลงไปแทนที่ Tachymeter และบนฝาหลังจะมีการสลักภาพของ Mario กับนั่งซิ่งอยู่บน Go Kart แบบเดียวกับบนหน้าปัดลงไป ส่วนหน้าตัดของเม็ดมะยมจะมีการสลักสัญลักษณ์ตัว M ของ Mario ลงไป และที่พิเศษคือ บนช่องหน้าต่างวันที่ หรือ Date จะมี Easter Egg ซ่อนอยู่ โดยตัววันที่จะมีการเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ของ Item ที่คุณพบได้ในเกม เช่น ดาว กล้วย หรือ Bullet Bill โดยทางผู้ผลิตไม่ได้ระบุว่าคุณจะพบ Item แต่ละตัววันไหนบ้าง

รุ่น F1 Chronograph Tourbillon มากับรหัส CAZ5080.FC6517

- และใช้ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตรที่ผลิตจากไทเทเนียม เกรด 5 โดยความพิเศษที่สอดคล้องกับตัวละครของเกมคือ การสลักคำว่า MarioKart แทนที่คำว่า Tachymeter ที่อยู่บนอินเสิร์ตของขอบตัวเรือน หน้าตัดของเม็ดมะยมมีการสลักตัว M ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Mario
- ฝาหลังแบบใสมีการพิมพ์ลายของ Mario กับขับ Go Kart เอาไว้ ขณะที่หน้าปัดมีการสลักลายอย่างสวยงาม มีวงจับเวลาอยู่ในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ส่วนในตำแหน่ง 12 นาฬิกาเป็นกรง Tourbillon ที่มีการเติมลูกเล่นด้วยการใส่ตัวละครอย่าง Mario, Bullet Bill และ Spiny Shell สีฟ้า ลงบนตัวหมุนของ Tourbillon เพื่อทำให้เหมือนกับทั้ง 3 ตัวละครกำลังไล่ล่ากัน ตัวกลไกเป็นรหัส Calibre Heuer 02T มีกำลังสำรอง 60 ชั่วโมง พร้อมความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ของ COSC

ทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายแล้ว และเป็นแบบ Limited Edition ที่อาจจะต้องตามหากันหน่อย โดยเรือนแรกจะมีการผลิตออกมาจำนวน 3,000 เรือนมีราคาอยู่ที่ 4,300 เหรียญสหรัฐฯ และอีกรุ่นผลิตเพียง 250 เรือนเท่านั้น ส่วนราคาอยู่ที่ 25,600 เหรียญสหรัฐฯ

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline