Tag Heuer F1 Chronograph ฉลอง 50 ปีชัยชนะที่ Le Mans

0

Tag Heuer  เอาใจบรรดาแฟนๆ ในโลกมอเตอร์สปอร์ตครั้งใหม่ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของชัยชนะใน Le Mans เมื่อปี 1968 ด้วยตัวแข่ง Ford GT40 เปิดตัวคอลเล็กชั่นพิเศษจากรุ่น F1 และ Monaco Chronograph

Tag Heuer F1 Chronograph ฉลอง 50 ปีชัยชนะที่ Le Mans

Tag Heuer F1 Chronograph ฉลอง 50 ปีชัยชนะที่ Le Mans

  • เวอร์ชันพิเศษฉลองชัยชนะในสนามแข่ง Le Mans
  • เมื่อ 50 ปีที่แล้ว มีการผลิต 2 รุ่น
  • คือ F1 Chronograph
  • และ Monaco Chronograph
  • ในรุ่น Monaco ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือน
- Advertisement -

แฟนๆ ของ Tag Heuer คงทราบดีว่านาฬิกาแบรนด์นี้มีสัมพันธ์กับแวดวงมอเตอร์สปอร์ตในแง่ของการสนับสนุนทีมแข่งอยู่เสมอๆ และ Le Mans ก็คือหนึ่งในนั้น ซึ่งชัยชนะที่เกิดขึ้นในปี 1968 ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างมากไม่เฉพาะกับ Ford ที่ตัวแข่ง GT40 ของพวกเขาคว้าแชมป์มาได้ แต่ยังรวมถึง Tag Heuer และ Gulf ในฐานะของสปอนเซอร์หลักทีมแข่ง John Wyer แห่งอังกฤษที่คว้าแชมป์ในปีนั้นอีกด้วย และนั่นจึงทำให้ Tag Heuer ผลิตนาฬิกาเวอร์ชันพิเศษอย่าง F1 Chronograph ออกมาขายในโอกาสที่พิเศษเช่นนี้

เวอร์ชันพิเศษนี้ความจริงแล้วมี 2 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นแรกคือ  F1 Chronograph ที่ใช้กลไกควอตซ์ ส่วนอีกรุ่นแพงกว่าและเด่นกว่าด้วยการผลิตในแบบ Limited Edition นั่นคือ Monaco Chronograph โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับความพิเศษตรงนี้การใช้สีอันเป็นเอกลักษณ์ของรถแข่ง Ford GT40 MkI ที่คว้าแชมป์ในปีนั้น ซึ่งใช้สีฟ้าเป็นพื้นตัวถังและมีสีส้มสลับเข้าไป ซึ่งเป็นสีประจำของ Gulf Oil สปอนเซอร์ในตอนนั้น

สำหรับรุ่น F1 Chronograph แบบควอตซ์ ซึ่งมีตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรและผลิตจาก Stainless Steel เป็นการใช้พื้นฐานของรุ่น CAZ1010 ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์แบบ Chronograph ของ Tag Heuer ที่มีความเที่ยงตรงสูง โดยจุดที่เปลี่ยนไปจากรุ่นปกตินอกจากพื้นสีของหน้าปัดแล้วยังอยู่ที่เม็ดมะยมและปุ่มกดในระบบ Chronograph ยังมีการเคลือบสีดำ PVD เพื่อความโดดเด่นอีกด้วย ส่วนด้านหลังจะมีการสลักโลโก้ของ Gulf ลงไปด้วยเพื่อความพิเศษ

ส่วนในรุ่น Monocao Chronograph นั้น มาพร้อมกับสายหนังสีดำ และโลโก้ Gulf วางอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาเหนือช่องวันที่ Date ส่วนฝาหลังจะมีการสลักหมายเลขของเรือนที่ถูกผลิตจากจำนวนการผลิตทั้งหมดในแบบ XX/50 โดยกลไกที่ใช้กับรุ่น Monaco เป็นรหัส Caliber 11 ที่เดินด้วยความถี่ในระดับ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สามาถรสำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง และฝาหลังแบบใสมีการติดโลโก้ของ Gulf ลงไปด้วยเช่นกัน

ราคาในการจำหน่ายถ้าเป็นรุ่น F1 Chronograph จะอยู่ที่ 1,600 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 51,000 บาทส่วน Monaco Chronograph จะอยู่ที่ 6,350 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 203,000 บาท ซึ่งรุ่นหลังพิเศษหน่อยตรงที่ผลิตออกมาเพียง 50 เรือนเท่านั้นเอง