Seiko เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ Prospex The Black Series 2024 กับนาฬิกา 4 รุ่นใหม่ที่ถูกสร้างสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Night Vision มีจำหน่ายทั้งนาฬิกาดำน้ำอย่าง Sumo King Turtle และ Speedtimer โดยมีทั้งรุ่นที่ผลิตจำกัด และรุ่นปกติไม่มีการะบุจำนวนผลิต เริ่มขายในเดือนกุมภาพันธ์
Seiko Prospex The Black Series 2024
-
เวอร์ชันใหม่ของ Seiko Prospex The Black Series 2024
-
มีจำหน่ายทั้งนาฬิกาดำน้ำอย่าง Sumo King Turtle และ Speedtimer
-
มีทั้งรุ่นที่ผลิตจำกัด และรุ่นปกติไม่มีการะบุจำนวนผลิต เริ่มขายในเดือนกุมภาพันธ์
The Black Series นาฬิกาคอลเล็กชั่นดังของ Seiko ที่นำเรือนเวลาจาก Prospex มานำเสนอความโดดเด่นของความงามยามค่ำคืนของพื้นที่ต่างๆ ทั้งในต้องทะเลและบนท้องฟ้า กลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ Seiko Prospex The Black Series 2024 ยังยึดเรื่องของการนำเสนอความงามของท้องฟ้าผ่านทางนาฬิกา 4 รุ่นย่อยสำหรับตลาดญี่ปุ่นและ 3 รุ่นย่อยสำหรับตลาดโลกภายใต้แนวคิด Night Vision
The Black Series เป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี 2018 ผ่านนาฬิกาเซ็ตแรกที่เปิดตัวออกมาทั้งหมด 4 รุ่นและเป็นการนำเสนอเรื่อวราวของความงามใต้ท้องทะเลในขณะที่มีการดำน้ำในช่วงกลางคืน และมีสีส้มของแวงไฟฉายเป็นตัวนำทาง ก่อนที่ในปี 2022 พวกเขาจะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ในการนำเสนอโดยหันมาลุยเรื่องราวบนบกบ้าง กับการนำความงดงามของท้องฟ้าในนามค่ำคืนมาเข้าคู่กับความส่องสว่างของแสงดาว ภายใต้แนวคิด Night-Vision ซึ่งท่ามกลางความมืดสนิท แสงเพียงจุดเล็กๆ ก็สามารถส่องสว่างและมองเห็นได้อย่างชัดเจน
สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ The Black Series Night Vision แล้วนับจากปี 2022 โดยในรุ่นนี้จะมีแบ่งออกเป็น 2 ตลาดด้วยกัน คือ ตลาดญี่ปุ่นที่เป็น JDM และตลาดโลก ซึ่งจะมีจุดต่างต่างกันในเรื่องของรุ่นย่อยที่ทำตลาด โดยในตลาดโลกจะมีแค่ 3 รุ่นเท่านั้น ส่วนญี่ปุ่นจะมี 4 รุ่น ซึ่งก็คือ
-
SBDC193 (สำหรับตลาดญี่ปุ่น) หรือ SPB 433 (สำหรับตลาดโลก)
ใช้พื้นฐานของรุ่น King Sumo กับกระจกหน้าปัดแบบ Sapphire พร้อมขอบตัวเรือนเซรามิก ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส 6R35 มีกำลังสำรอง 70 นาที และมีราคาอยู่ที่ 165,000 เยน โดยมีการผลิตออกขายทั้งหมด 3,500 เรือน และมีจำนวน 300 เรือนในนั้นขายเฉพาะในญี่ปุ่น
-
SBDL105 (สำหรับตลาดญี่ปุ่น) หรือ SSC923 (สำหรับตลาดโลก)
ใช้พื้นฐานของรุ่น Speedtimer ที่มีขนาดตัวเรือน 41.4 มิลลิเมตร มากับสายผ้าไนลอนแบบ Hybrid และขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์แบบ Solar ในรหัส V192 มาพร้อมฟังก์ชั่น Chronograph มีความเที่ยงตรง +/-15 วินาทีต่อเดือน และสามารถทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 6 เดือนหากชาร์จจนเต็มและไม่ได้รับแสง ไม่มีระบุจำนวนการผลิต และมีราคาอยู่ที่ 104,500 เยน
-
SBDY127 (สำหรับตลาดญี่ปุ่น) หรือ SRPK43 (สำหรับตลาดโลก)
ใช้พื้นฐานของรุ่น King Turtle มาพร้อมกระจกแบบ Sapphire ซึ่งมีเลนส์นูนในตำแน่ง Day/Date ที่ 3 นาฬิกา พร้อมอินเสิร์ตที่ผลิตจากเซรามิก เส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 4R36 มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ 104,500 เยน และไม่มีการระบุจำนวนการผลิต
-
SBPK007 มีจำหน่ายเฉพาะตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น
ไม่มีการระบุจำนวนการผลิต ใช้พื้นฐานของรุ่น Sumo GMT มาพร้อมตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์แบบ Solar ในรหัส 5K65 ถ้ามีการชาร์จจนเต็มจะสามารถทำงานอย่างต่อเนื่องได้นานถึง 9 เดือน ไม่มีการระบุจำนวนการผลิต และมีราคาอยู่ที่ 111,100 เยน
นาฬิกาทุกรุ่นมาพร้อมกับตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสแตนเลสแบบเคลือบด้วย PVD สีดำ พื้นผิวของหน้าปัดเป็นแบบเกรนหยาบ ส่วนพรายน้ำเป็นแบบ Lumibrite เคลือบด้วยสีเขียว
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Prospex The Black Series 2024
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline