The Black Series กลับมาแล้ว และในเวอร์ชันปี 2022 มากับคอนเซ็ปต์ในการยึดเอานาฬิกาดำน้ำที่เด่นๆ ของ Seiko ในแต่ละช่วงเวลามาอยู่ในเซ็ตสำหรับปีนี้
Seiko Prospex The Black Series 2022 อัพเกรดไลน์อัพสู่ตลาดไฮเอนด์
-
คอลเล็กชั่นปี 2022 ของ The Black Series ที่จับเอานาฬิการุ่นเด่นในแต่ละช่วงเวลามาทำ
-
มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยโดย SLA061J จะถือเป็น Top of the line
-
การผลิตมีรุ่นละ 5,500 เรือน ยกเว้นรุ่น SLA061J จะมี 1,000 เรือนและเริ่มขายในเดือนมีนาคม
จากเดิมที่ Black Series ของ Seiko ทำตลาดโดยอ้างอิงตลาดนาฬิกาดำน้ำรุ่นกลางๆ เป็นหลัก ในตอนนี้ กับเวอร์ชันปี 2022 Seiko จัดการอัพเกรดไลน์อัพของนาฬิกาที่อยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ของปี 2022 ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุดที่จับเอานาฬิกาดำน้ำรุ่นใหญ่ โดยจะมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันแบ่งเป็นสายผ้า 3 รุ่นและสายสแตนเลส 1 รุ่น ซึ่งรุ่นนี้ถือเป็น Top of the line ก็ว่าได้
The Black Series เป็นคอลเล็กชั่นที่แฟนๆ Seiko รู้จักกันดีเพราะเปิดตัวอย่างต่อเนื่องมาทุกปีในช่วงรอยต่อระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยนับจนถึงตอนนี้แล้ว Seiko เปิดตัวออกมาทั้งหมด 4 เจนเนอเรชั่นนับจากปี 2018 ซึ่งเป็นปีแรกที่คอลเล็กชั่นนี้ทำตลาด (2018-2020-2021-2022)
![]() |
![]() |
แนวคิดของ The Black Series ถูกสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ของแสงสว่างที่เกิดขึ้นท่ามกลางความมืดของใต้ผืนน้ำที่นักดำน้ำดำดิ่งลงไป ซึ่งตรงนี้ถูกสะท้อนผ่านสีสันบนตัวเรือนและรายละเอียดบนตัวนาฬิกา ซึ่งนาฬิกาทุกเรือนของคอลเล็กชั่นนี้จะมากับสีดำซึ่งเปรียบเสมือนความมืดใต้ท้องทะเลในยามค่ำคืน และสีส้มที่ถูกนำเสนอผ่านเข็มนาที และหลักจับเวลาบนขอบตัวเรือนคือ แสงที่สอดส่องอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
สำหรับ Seiko Prospex The Black Series 2022 จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเหมือนกับปี 2020 โดยจะมีรุ่นธรรมดาและรุ่นท็อป โดยทั้งหมดถูกสร้างขึ้นภายในคอนเซ็ปต์ในการนำตัว Re-Issue หรือ Re-Interpretation ของนาฬิกาดำน้ำที่ถือเป็น Milestone ของ Seiko ในแต่ละช่วงมาทำ ซึ่งทั้ง 3 ช่วงก็คือ 1965, 1968 และ 1970 โดยทุกรุ่นในส่วนนี้จะขับเคลื่อนด้วยกลไก 6R35 ที่มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง โดยในเซ็ตจะมีทั้งสายผ้า NATO อย่างดี พร้อมกับสายยางอยู่ในเซ็ต
-
SPB253J1 (ตลาดโลก) / SBDC153 (ญี่ปุ่น) :
- เป็น Re-Intrepretation ของ The First Diver จาก Seiko ซึ่งตัวนาฬิกามาพร้อมกับความสวยงามตามคอนเซ็ปต์มีขนาดตัวเรือน 5 มิลลิเมตร ผลิตจำนวน 5,500 เรือน มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น 500 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 143,000 เยน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
-
SPB255J1 (ตลาดโลก) / SBDC155 (ญี่ปุ่น) :
- เป็นตัวแทนของนาฬิกาดำน้ำแบบ Hi-Beat รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1968 มีขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตร ผลิตจำนวน 5,500 เรือน มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น 300 เรือน โดยมีราคาเท่ากับ SBDC153
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
-
SPB257J1 (ตลาดโลก) / SBDC157 (ญี่ปุ่น) :
- เป็นตัวแทนของนาฬิกาดำน้ำรุ่นดังอย่างตะพาบ หรือ Captain Willard ที่เปิดตัวในปี 1970 โดยรุ่นนี้เป็น Re-Interpretation มีขนาดตัวเรือน 7 มิลลิเมตร ผลิตจำนวน 5,500 เรือน มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น 300 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 154,000 เยน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
-
ส่วนอีกรุ่นถือเป็น Top of the line มากับรหัส SLA061J สำหรับตลาดโลก
- ส่วนตลาดญี่ปุ่นจะใช้รหัส SBDX051 ซึ่งเป็นการนำตัว Re-Issue ของตะพาบ นาฬิกาสุดคลาสสิกรุ่นดังที่เปิดตัวในปี 1970 มาทำ คราวนี้มากับสายสตีลรมดำ ขับเคลื่อนด้วยกลไก 8L35 ของ MM300 และมีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง โดยการผลิตจะอยู่ที่ 1,000 เรือนและขายในญี่ปุ่น 100 เรือนกับราคา 363,000 เยน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
Seiko Prospex The Black Series 2022 ทุกรุ่นจะมีวางขายทั่วโลก และจะเริ่มทำตลาดในเดือนมีนาคม 2022 รักเรือนไหนชอบเรือนไหนก็เก็บเงินรอกันได้เลย
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Prospex The Black Series 2022
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/