Seiko Prospex Street Series SRPE29K1-SRPE31K1 เอาใจสายสตรีทด้วยกลไกอัตโนมัติ

0

Street Series คอลเล็กชั่น ของ Seiko มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่จับเอากลไกอัตโนมติอย่าง 4R36 มาติดตั้ง และเตรียมขายเป็นรุ่นใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้

- Advertisement -

Seiko Prospex Street Series SRPE29K1-SRPE31K1

Seiko Prospex Street Series SRPE29K1-SRPE31K1 เอาใจสายสตรีทด้วยกลไกอัตโนมัติ

  • เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ของคอลเล็กชั่น Street Series

  • มากับตัวเรือนทรง Tuna Can ที่มีขนาด 2 มิลลิเมตร และใช้กลไกอัตโนมัติ

  • 580 ยูโรคือราคาป้าย และจะเริ่มขายในยุโรปเดือนมิถุนายนนี้

น่าจะเรียกว่าค่อนข้างแปลกเลยก็ว่าได้ แม้ว่าในแง่ของคอนเซ็ปต์การออกแบบและการให้สีสันบนตัวเรือนจะยังอ้างอิงจากรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันมาระดับหนึ่งแล้วตอนที่ Street Series เปิดตัวออกมาใหม่ๆ แต่การจับคู่กับกลไกอัตโนมัติตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจกับคอนเซ็ปต์ของนาฬิกาในกลุ่มนี้ ซึ่ง ไซโก จัดการเผยโฉมใหม่ของ Street Series 2020 ที่มากับกลไกอัตโนมัติในรหัส 4R36 โดยจะมีจำหน่ายในรหัส SRPE29K1 สำหรับรุ่นตัวเรือนสีกากี และ SRPE31K1 สำหรับตัวเรือนสีเทา

Seiko Prospex Street Series SRPE29K1-SRPE31K1

Seiko Prospex Street Series SRPE29K1-SRPE31K1

ที่บอกว่าน่าแปลกใจนั้นข้อแรกคือ นาฬิการุ่นนี้เน้นจับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งดูเหมือนว่าการเลือกใช้นาฬิกาที่มีความยุ่งยากมากขึ้นอย่างแบบกลไกอัตโนมัติไม่น่าจะใช่ตัวเลือแรกๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Street Series รุ่นแรกจึงเลือกเปิดตัวกับกลไกควอตซ์แบบ SOLAR ที่ชาร์จพลังงานผ่านแสงอาทิตย์ที่ใช้งานง่ายกว่า และเกือบทุกรุ่นที่วางขายหลังจากนั้นก็มีแต่กลไกควอตซ์ SOLAR แต่สุดท้ายทุกอย่างก็นวนกลับมาที่กลไกอัตโนมัติจนได้

สำหรับ SRPE29K1 และ SRPE31K1 มากับตัวเรือนทรง Tuna Can ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่รุ่นแรก โดยเน้นการให้สีสันที่ไม่แสบสันต์แต่ดูสวยสะดุดตาและเลือกใช้โทนสีกากีเข้ม และสีเทาเป็นตัวเปิด โดยในรุ่นนี้มากับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.2 มิลลิเมตร ซึ่งดูแล้วอาจเหมือนใหญ่ แต่พอเมื่อมาดูที่ตัวเลข Lug to Lug หรือความยาวนาฬิกาแล้วกลับถือว่าค่อนข้างสั้นมาก เพราะมีตัวเลขแค่ 44 มิลลิเมตรเท่านั้น และมีความาหนาเพียง 12.5 มิลลิเมตร ดังนั้น คนที่ข้อมือเล็กกว่า 6.5 นิ้วลงไป น่าจะชอบและถูกใจ

Seiko Seiko

Seiko Seiko

ตัวเรือนหลักผลิตจาก Stainless Steel พร้อมกับการเคลือบตัวเรือนสีดำแบบ Hard Coating ตัวเกราะมากับสีเดียวกัน โดยที่ชุดหน้าปัดและชุดเข็มเป็นทรงแท่งทื่อตามสไตล์ของ Street Series ที่ดูแปลกตาดี ส่วนสายยางเป็นแบบซิลิโคนสีเดียวกับหน้าปัด

กลไก 4R36 นั้นแฟน ไซโก คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะประจำการในนาฬิกาหลายรุ่นตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น สามารถสำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่น Day Date และการ Hacking เข็มวินาที ส่วนระดับการกันน้ำของตัวนาฬิกานั้นอยู่ในระดับเดียวกับพวก Diving Watch ของ ไซโก นั่นคือ 200 เมตร

580 ยูโร คือ ราคาขายของทั้ง 2 รุ่น ส่วนบ้านเราน่าจะเข้ามาหลังจากนี้อีกไม่นาน คิดว่าน่าจะสักราวๆ  เดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนราคายังไม่แน่ใจว่าจะแพงขึ้นจากรุ่นเดิมเท่าไร