Seiko Prospex SRPD15K1 ไม่ผิดหวังกับการตัดสินใจ

0

หลังจากนั่งเพ่งภาพในอินเตอร์เนตอยู่นานสองนาน ในที่สุดผมก็ตกลงใจสั่งเจ้า Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edition เพียง 2,200 เรือนเพื่อขายใน 5 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกแต่ไม่ใช่ในไทยเข้ามาอยู่ในครอบครอง และสารภาพเลยว่า ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง

Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edtion เพียง 2,200 เรือนเพื่อขายใน 5 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกแต่ไม่ใช่ในไทย

Seiko Prospex SRPD15K1 ไม่ผิดหวังกับการตัดสินใจ

  • รุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อตลาดฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน

  • พัฒนาบนพื้นฐานของ Baby Tuna แต่เด่นด้วยสีหน้าปัดเหลืองบนคอนเซ็ปต์ Butterfly Fish

  • ในเซ็ตมากับสายยาง แต่แถมสายยางขาวให้อีกเส้น และผลิตเพียง 2,200 เรือนเท่านั้น

- Advertisement -

สิบภาพจากอินเตอร์เน็ตยังไม่เท่าหนึ่งสัมผัสจริง’ ผมมีอารมณ์ลักษณะนี้จริงๆ นะครับ ตอนที่ได้เจ้า Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edition ที่ขายอยู่ใน 5 ประเทศแถบเอเชีย เพราะตอนแรกเท่าที่เห็นหน้าตาจากภาพและวีดีโอโปรโมทในสื่ออนไลน์ทั้งหลาย อารมณ์ยังอยู่ในอาการลังเลและแทบไม่ได้สนใจเท่าไร แต่สุดท้ายหลังจากที่มีดีลดีๆ โผล่ออกมาจากคนคุ้นเคยอย่างร้าน Mewela ของคุณแจ็ค (เสิร์ชชื่อนี้จาก Facebook ได้เลยครับ) และเปิดกระเป๋าเงินออกดู พร้อมกับตัดสินใจ ‘เอาก็เอาวะ’ ซึ่งเมื่อของถึงมือหลังจากรอร่วม 2 สัปดาห์ ก็ต้องบอกให้วนกลับขึ้นไปอ่านบรรทัดแรกของเรื่อง

Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edtion เพียง 2,200 เรือนเพื่อขายใน 5 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกแต่ไม่ใช่ในไทย

Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edtion เพียง 2,200 เรือนเพื่อขายใน 5 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกแต่ไม่ใช่ในไทย

Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 ที่เป็น Limited Edtion เพียง 2,200 เรือนเพื่อขายใน 5 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกแต่ไม่ใช่ในไทย

ส่วนตัวตอนที่ได้เห็นในภาพของเจ้า SRPD15K1 เหตุผลที่ทำให้ผมลังเลคงเรื่องของหน้าปัดสีเหลืองแบบ Sunburst  บอกเลยว่าไม่ค่อยถูกจริตเท่าไร เพราะส่วนตัวผมชอบหน้าปัดแบบด้านๆ มากกว่าการเล่นเหลื่อมของสีบนหน้าปัดไปตามแสงที่ส่องกระทบ…อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวที่อาจจะสวนทางกับบางท่านที่อาจจะชอบหน้าปัดสไตล์นี้ นอกจากนั้น ผมยังติดใจ Limited Edition ของ Baby Tuna ในรหัส SRPD14K1 ที่ออกมาขายก่อนหน้านี้มากกว่า เพราะความลงตัวของสีน้ำตาลเข้มที่ตัดกับเกราะสีทองแบบ Rose Gold อย่างลงตัวและให้อารมณ์เหมือนกับนั่งเพ่งพี่ใหญ่อย่าง SBBN042

สุดท้ายผมก็มาจบที่ SRPD15K1 ด้วยเหตุผล 2  ข้อคือ ราคาที่เชิญชวนให้เป็นเจ้าของจากร้าน  Mewela และอีกข้อคือ ในช่วงที่อยากได้นั้นเจ้า SRPD14K1 ราคารุนแรงเหลือเกิน ขยับไปหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ กันเลยทีเดียว…เกินงบฯ ลับของผมเยอะไปหน่อย

สำหรับ SRPD15K1  เป็น Limited Edition ที่ผลิตออกมาเพียง 2,200 เรือนเหมือนกับ SRPD14K1 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ และมีขายอยู่ในวงจำกัดเพียงแค่ 5 ประเทศ คือ ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ โดยตัวคอนเซ็ปต์ของนาฬิกาเป็นการสร้างสรรค์และเลือกสีสันให้สอดคล้องกับเจ้า Butterfly Fish  ซึ่งเป็นปลาทะเลที่สวยงามพันธุ์หนึ่ง และถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของนาฬิกาในกลุ่ม Prospex อย่าง Baby Tuna ที่แต่ไหนแต่ไรมาโดนลืมกันไปเลย

มาถึงตรงนี้ขอเล่ากันหน่อยสำหรับ Baby Tuna ซึ่งในอดีตเมื่อสัก 4 ปีที่แล้วถือเป็นนาฬิกาฮ็อตรุ่นหนึ่งของ Seiko แต่น่าแปลกที่ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา Seiko กลับไม่ได้ผลิตรุ่นพิเศษหรือรุ่นผลิตจำกัดที่ใช้พื้นฐานของนาฬิกาเรือนนี้เลย เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทอยู่กับ Turtle และ Samurai จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้วกับ Zimbe No.8 และหลังจากนั้นไม่นาน ทางฮ่องกงก็เปิดตัว SRPD14K1 ตามมา และต่อด้วย SRPD15K1 ที่ผลิตออกมาอย่างละ 2,200 เรือนเท่ากัน แน่นอนว่าในเมืองไทยไม่มี 2 รุ่นนี้ขายอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของพ่อค้าไทยที่สามารถหาของมาตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในไทยได้

Seiko Prospex SRPD15K1 มากับกล่องที่อลังการขึ้นตามสไตล์ Limited Edition โดยตัวกล่องมากับสีน้ำเงินเข้มคาดเหลืองตามคอนเซ็ปต์สีของตัวนาฬิกา และเมื่อเปิดออกจะพบกับเจ้า SRPD14K1 วางอยู่พร้อมกับสายสำรองอีก 1 เส้นที่เป็นสีขาว โดยสิ่งที่ผมประทับใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนสไตล์สายยางของนาฬิการุ่นนี้มาเป็นสายยางแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Turtle และ Samurai แตกต่างจากสายยางเดิมติดรุ่นของ Baby Tuna อย่าง SRP639 และ SRP641 ซึ่งเป็นสายยางสไตล์ Diver ของ Seiko รุ่นเก่าๆ ซึ่งมันดูบวมๆ และไม่ค่อยโอเคเท่าไร

สายยางซิลิโคนทั้ง 2 เส้นมากับตัวรัดสายที่ผลิตจาก Stainless Steel ดังนั้นไม่ต้องห่วงในเรื่องความทนทาน แต่ในเรื่องโอกาสเกิดรอยอันนี้ต้องทำใจ เพราะถึงจะระวังอย่างไรก็ต้องมีแน่ๆ ขณะที่ตัวสายหลักมากับสีน้ำเงินเข้มซึ่งเข้ากับหน้าปัดเหลืองและขอบ Bezel ที่เป็นสีน้ำเงินเงางามออกแนว Anodized และตัดกับชุดหน้าปัดสีเหลืองแบบ Sunburst และ Chapter Ring สีเหลืองออกด้านๆ  พร้อมกับเจาะหน้าต่างวันและวันที่ (Day Date) แบบยาวในตำแหน่ง 3 นาฬิกา และวางเม็ดมะยมในตำแหน่ง 4 นาฬิกาตามแบบฉบับนาฬิกา Diver

รูปทรงของ Baby Tuna ถูกถอดแบบมาจากพี่ใหญ่อย่าง Tuna Can เป็นนาฬิกาทรงกระป๋องที่มีเกราะหรือ Shroud ล้อมรอบ และตัวเกราะผลิตจาก Stainless Steel แทนที่จะเป็นแบบพลาสติกเหมือนกับ Sardine ที่พวกมันเข้ามาแทนที่ และตอนที่เปิดตัวนั้นเข้ามาทำตลาดนั้น ด้วยการเป็นนาฬิกาในสไตล์เดียวกัน แต่ด้วยเหตุต้องการให้เกิดความเชื่อมโยงกับรุ่นพี่ในกลุ่ม Tuna Can มันก็เลยถูกตั้งชื่อเล่นว่าเป็น Baby Tuna แทนที่จะเป็น Sardine อย่างที่ควรจะเป็น

ในช่วงที่คอลเล็กชั่นนี้เปิดตัวใหม่ๆ ผมมีโอกาสครอบครองและสัมผัสกับทั้ง 3 รุ่นเรียกว่าคลั่งสุดๆ แต่สุดท้ายด้วยความด่วนในการตัดสินใจเพราะดันเอาไปเปรียบเทียบกับ Emperor Tuna ที่มีอยู่ ก็เลยไม่แฮปปี้กับขนาดตัวของมันว่าไม่ใหญ่และหนาแบบสะใจตามคอนเซ็ปต์ Tuna Can สุดท้ายก็เลยสลายกรุไปจนเรียบ เช่นเดียวกับเจ้า Tuna Can Quartz  ในกลุ่ม Marine Master 300 เมตรที่มีขนาดใกล้เคียงกัน…น่าเสียดายชะมัด

สำหรับ SRPD15K1 มากับขนาดตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 47.5  มิลลิเมตร และจากการที่มีขายื่นออกจากตัวเรือนนิดนึง Lug to Lug หรือความยาวเมื่อวัดจากขาสายด้านหนึ่งไปด้านหนึ่งจึงเพิ่มขึ้นเป็น 50 มิลลิเมตร และความหนาตัวเรือน 14 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าคุณชอบนาฬิกาที่มีดีไซน์ซึ่งมีกลิ่นอายของ Emperor Tuna แต่ไม่ชอบขนาดที่กลมแบบไม่มีขาแถมยังหนาผิดปกติ นี่คือ ทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรื่องนี้ ในกรณีที่ไม่อยากจ่ายแพงกว่านี้เพื่อสัมผัส Marine Master 300 เมตรแบบ Quartz

เอาละมาถึงคำถามสำคัญว่า เมื่อของมาถึงมือแล้ว  อารมณ์และความรู้สึกเป็นอย่างไร ? คำตอบก็อย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ‘ถูกใจ’ และ ‘สวยกว่าที่คิด’ แม้ว่าจะยังเคืองๆ หน้าปัดแบบเหลื่อมๆ แต่ในแง่ของภาพรวมที่ประกอบขึ้นเป็นเรือนนาฬิกานั้นถือว่า ‘สอบผ่าน’ สายยางซิลิโคนชุดใหม่ของ Seiko เป็นอะไรที่ผมถูกใจเสมอ เพราะทั้งนุ่มและให้สัมผัสที่ใส่สบาย กระชับแบบไม่ต้องรัดเน้นจนอึดอัด สายสีน้ำเงินเข้มดูลงตัวอย่างมากกับตัวเรือน

ส่วนสายสีขาว ผมรู้สึกแปลกๆ และขัดใจสักหน่อย เพราะอย่างแรกคือ เมื่อลองทาบแล้วมันไม่ค่อยเข้ากับหน้าปัดที่เป็นสีอ่อนอยู่แล้ว และอีกเรื่องถ้าคุณเป็นแฟน G-shock มาก่อน จะทราบดีกว่า มีความเสี่ยงสูงในหลายๆ เรื่อง ทั้งความสกปรก และคราบเหลืองที่อาจจะตามมาเมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ..แต่ก็อย่าไปคิดมาก เพราะของต้องใช้งาน นอกจากคุณจะเป็นพวกสายดมที่ชอบเก็บ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าหงุดหงิดจนการเป็นแฟน Seiko ต้องทำใจ (ให้ได้)

คือ ความเข้มในการ QC สินค้าของ Seiko โดยเฉพาะเรื่องของเข็มชั่วโมงและนาทีที่ไม่วางตรงแนวในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่งเจอกันมาหลายรุ่นและเป็นปัญหาเดิมๆ ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที จนหลายคนถึงกับแซวอย่างเซ็งๆ ว่าถ้าเรือนไหนเข็มชั่วโมงและนาทีวางในแนวตรงที่ตำแหน่ง 6  นาฬิกา นั่นคือของปลอม ซึ่งโชคดีของผมที่เจ้า SRPD15K1  เป็นของแท้ แม้ว่าจะทำให้เจ้าของต้องน้ำตาซึมนิดๆ

หมื่นกลางๆ ที่หาได้จากกลุ่ม Seiko Mania Market Thailand อาจจะทำให้หลายคนยังไม่กล้าตัดสินใจว่าสมควรที่จะคบกับเจ้า Seiko SRPD15K1 ดีหรือไม่ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นธรรมดาถือว่าต้องจ่ายเพิ่มอีกเกินครึ่งหมื่นเลย ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับ Limited Edition แบบไทยๆ อย่าง Zimbe No.8 ที่มาพร้อมสายเหล็กและสายยาง ถือว่าราคาถูกกว่าหลายพันเหมือนกัน

ผมคงต้องบอกอย่างนี้ ถ้าชอบ…อย่าคิดมาก (เพราะผมเป็นมาแล้ว) สุดท้ายแม้ว่าความคุ่มค้าในเชิงสเป็กมันจะไม่ได้ต่างจาก Seiko Baby Tuna รุ่นปกติเพราะเป็นการแชร์พื้นฐานเดียวกันรวมถึงกลไก 4R36 และวัสดุที่ต่างกันก็แค่สีสันเท่านั้น แต่ในแง่ของจิตใจและความเด่นเวลาอยู่บนข้อมือแล้ว มันเทียบกันไม่ได้ ที่แน่ๆ หลังจากได้เข้านี่มา มันทำให้ผมเกิดมีไฟขึ้นมาอีกครั้งที่จะตามเก็บเจ้า Baby Tuna กลับมาเข้ากรุอีกครั้ง แต่นั่นหมายความว่า ต้องมั่นใจว่ามีงบฯ ลับติดอยู่ในกระเป๋าก่อนนะ

Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1
Seiko Prospex SRPD15K1 Seiko Prospex SRPD15K1

ข้อมูลทางเทคนิค : Seiko Prospex SRPD15K1 Limited Edition

  • ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง : 47.5 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 50 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 14  มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
  • ระดับการกันน้ำ : 200 เมตร
  • จำนวนการผลิต :  2,200 เรือน
  • ประเภทสาย : ยางซิลิโคน ตัวรัดสายผลิตจาก Stainless Steel
  • กลไก : 4R36 อัตโนมัติ Hack เข็มวินาที ขึ้นลานมือ
  • จำนวนทับทิม : 24 เม็ด
  • ความถี่ในการเดิน : 3Hz หรือ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
  • สำรองพลังงาน : 41 ชั่วโมง
  • ความเที่ยงตรง : +/- 20 วินาทีต่อวัน
  • ประทับใจ : การให้สีสันบนหน้าปัด ขอบ Bezel และตัวเรือน ดีไซน์ตัวเรือน
  • ไม่ประทับใจ : คุณภาพการตรวจสอบสินค้า