ชื่อของ MarineMaster ถูกนำกลับมาอีกครั้งหลังจากเปิดตัวรุ่นใหม่ในปี 2023 แต่คราวนี้มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่สามารถอ้างอิงกับ Seiko MM300 รุ่นดังที่เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2000 ทั้งความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และกลไกอัตโนมัติ 8L35 แต่เรื่องของตัวเรือนแม้ว่ายังไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีข่าวเล็ดรอดออกมาว่า Seiko MarineMaster 300M SLA077 และ SLA079 อาจจะไม่ได้มากับตัวเรือน Monocase เหมือนเดิมอีกแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอคำตอบที่ชัดเจนเมื่อนาฬิกาเรือนจริงถูกวางจำหน่าย
Seiko MarineMaster 300M SLA077 และ SLA079 เปลี่ยนแปลงพร้อมความสดใหม่
-
การปรับปรุงครั้งใหม่ของ MarineMaster หลังจากที่เปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาในปี 2023
-
ตัวเรือนอ้างอิงดีไซน์ของ 1968 Heritage Diver แต่ลดขนาดเหลือ 42.6 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 8L35 และกันน้ำได้ 300 เมตร
หลังจากเปิดตัวและเป็นที่รู้จักของแฟนนาฬิกาดำน้ำมานานนับจากปี 2000 ในตอนนี้ MM300 หรือที่ย่อมาจาก MarineMaster 300M นาฬิกาดำน้ำสุดเจ๋งของ Seiko ถึงเวลาของความเปลี่ยนแปลงแล้ว กับรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่เฉพาะหน้าตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายละเอียดหลายอย่างซึ่งทำให้ Seiko MarineMaster 300M SLA077 และ SLA079 แตกต่างจากที่เคยมีมา
เรารู้จักกับ MM300 ในฐานะของนาฬิกาที่มีตัวเรือนแบบ Monocase ไม่มีฝาหลัง และขับเคลื่อนด้วยกลไกรุ่นใหญ่อย่าง 8L35 โดยดีไซน์และคอนเซ็ปต์ของตัวเรือนถอดแบบมาจากนาฬิกาดำน้ำตัวเรือนแบบชิ้นเดียวไม่มีฝาหลังของ Seiko ที่เปิดตัวในปี 1968 โดยนับจากรุ่นแรก SBDX001 เป็นต้นมา ทาง Seiko ได้มีการปรับสเป็กและปรับปรุง MM300 หลักๆ อยู่ 2 ครั้ง คือ ในปี 2015 กับรหัสใหม่ SBDX017 และอีกครั้งในปี 2018 กับรุ่น SBDX023 หรือ SLA017 ที่มีความเปลี่ยนแปลงบนหน้าปัด คือ ถอดคำว่า MarineMaster บนหน้าปัดออกไป และแทนที่ด้วยสัญลักษณ์ PS หรือตัว X พร้อมขอบเซรามิก และกระจกแบบ Sapphire
อย่างไรก็ตามในปี 2023 Seiko ปัดฝุ่นนำชื่อ MarineMaster พร้อมความผิดหวังเล็กๆ เพราะตัวนาฬิกาถูกสร้างสรรค์บนพื้นฐานการออกแบบของนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกในปี 1965 ตัวเรือนเล็กลงแถมมีฝาหลัง ปรับสเป็กกลไกลงมาใช้ตระกูล 6R และกันน้ำแค่ 200 เมตรเท่านั้น จนกระทั่งกลางปี 2024 พวกเขาจึงหวนคืนกลับสู่ความเทพของนาฬิกาดำน้ำสเป็กเยี่ยมอีกครั้ง กับรุ่นใหม่ของ MarineMaster
Seiko เปิดตัวออกมา 2 รุ่นแรก คือ
-
SLA077 ในตลาดโลก หรือ SBDX063 ในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งมากับหน้าปัดสีขาว พร้อมอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนสีดำ
-
SLA079 ในตลาดโลก หรือ SBDX065 ในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งมากับหน้าปัดสีดำ พร้อมอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนสีดำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับ MarineMaster ใหม่ทั้ง 2 รุ่นที่เปิดตัวออกมา จะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะรุ่นแรกเป็นการเดินตามรอย First Diver รุ่นปี 1965 ของ Seiko ขณะที่รุ่นใหม่คือ การเดินตามรอย 1968 แต่ก็ไม่ถึงกับเป๊ะๆ กันสักทีเดียว
สิ่งนี้ยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากเว็บไซต์ของ Seiko หรือแม้แต่เว็บไซต์ของสื่อมวลชนต่างประเทศทั้งข้อมูลและภาพ แต่จากลูกค้าที่ได้ไปร่วมงานของ Seiko เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีโอกาสได้จับเรือนจริง บอกว่าตัวเรือนไม่ได้เป็นแบบ Monocase อีกแล้ว และมากับฝาหลังแบบใส มีความสวยงามและง่ายต่อการเซอร์วิส แต่แฟนๆ รุ่นดั้งเดิมอาจจะมีเคืองใจได้
อีกสิ่งของความเปลี่ยนแปลงคือ MM300 ใหม่ไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับที่ผ่านมา เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนลดลงราวๆ1.7 มิลลิเมตรมาอยู่ที่ 42.6 มิลลิเมตร และไม่ได้หนาเหมือนเก่า แต่ทว่าในแง่ของเส้นสายบนตัวเรือนและรูปทรงยังพอมีกลิ่นอายของรุ่นเดิมทิ้งเอาไว้ โดยเฉพาะการวางเม็ดมะยมเอาไว้ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ส่วนความกว้างขาสายยังเท่าเดิม คือ 20 มิลลิเมตร
ในแง่ของรายละเอียดบนหน้าปัด และชุดเข็มถือว่า Seiko พยายามคงรายละเอียดหลายอย่างเอาไว้ แต่มีการปรับเพื่อความร่วมสมัยขึ้น เช่น หลักชั่วโมงแถบยาวในตำแหน่ง 3-6-9 ส่วนในตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะเป็นแบบโล่ หน้าปัดเป็นแบบมีเกรนหยาบดูมีมิติขึ้น พร้อมกับย้ายตำแหน่งช่องวันที่จากเดิมอยู่ที่ 3 นาฬิกามาเป็น 4.30 น. ขณะที่ชุดเข็มมีรูปทรงคล้ายเดิม แต่ปรับเปลี่ยนการขัดแต่งและดีไซน์รูปทรงอีกเล็กน้อย เพื่อความสวยงามและทันสมัย
กลไกอัตโนมัติในรหัส 8L35 ยังเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนสำหรับ Seiko MarineMaster 300M SLA077 และ SLA079 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และมีกำลังสำรองในระดับ 50 ชั่วโมง โดยที่ความสามารถในการกันน้ำยังเท่าเดิมที่ 300 เมตร
การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนนี้ โดยราคาจะอยู่ที่ 407,000 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko MarineMaster 300M SLA077 และ SLA079
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.6 มิลลิเมตร
- ความหนา : 13.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 49.3 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire ทรงโดมคู่เคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน
- กลไก : อัตโนมัติรหัส 8L35
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- ความเที่ยงตรง : +15 ถึง -10 วินาทีต่อวัน
- กำลังสำรอง : 50 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline