คำถามหนึ่งที่เราเจอเสมอคือ ถ้าต้องเลือกซื้อ MM300 สักเรือน จะเลือกรุ่นไหนดี รุ่นแรกแต่เป็นมือสองอย่าง SBDX001 หรือรุ่น SBDX017 ที่มีทั้งมือหนึ่งและมือสองให้เลือก หรือว่าจะไปรุ่นใหม่อย่าง SBDX023/SLA021 เลยที่สเป็กดีขึ้น ราคาป้ายแดงก็ถูกกว่า SBDX017 แต่ดันมีโลโก้ Prospex อยู่บนหน้าปัดดี ? วันนี้เรามีคำตอบมาช่วยสนับสนุนความคิดในเรื่องนี้ครับ

Seiko Marinemaster เราจะเลือก SBDX001, SBDX017 หรือ SBDX023/SLA021 ดี
แน่นอนว่านาฬิกาทรง Monocase ของ Seiko ในตระกูล Marinemaster ที่คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า MM300 คือ ยาสามัญประจำกรุของคนที่เป็น Seikomania อย่างไม่ต้องสงสัย เรียกว่าถ้าคุณมาทางสายดำน้ำแล้ว นี่คือ หนึ่งคอลเล็กชั่นที่จะต้องมีอยู่ในกรุของตัวเอง เพราะเป็นนาฬิกาอัตโนมัติที่มีเอกลักษณ์ประจำตัว ดีไซน์สวย กลไกเยี่ยม ชนิดที่เรียกว่าแข่งกับแบรนด์สวิสส์อย่าง Omega Seamaster Pro300 และ Rolex Submariner ได้เลย
Seiko MM300 เปิดตัวออกสู่ตลาดมานานตั้งแต่ปี 2000 และเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง 15 ปี มีการปรับเปลี่ยนไปตามช่วงอายุตลาด ซึ่งในตอนนี้สินค้าที่มีอยู่ในตลาดนั้นจะมีทั้งรุ่นแรกก็คือ SBDX001 รุ่นปรับโฉม SBDX017 และรุ่นปรับทั้งโฉมและสเป็ก SBDX023 หรือที่บ้านเราใช้รหัส SLA021 ดังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือ จะเลือกรุ่นไหนดีเข้ามาอยู่ในกรุ คำถามที่ผมต้องเจอประจำคือ จะซื้อ SBDX001 ที่เป็นมือสองหรือ SBDX017 ที่เป็นรุ่นใหม่มือหนึ่งดี หรือว่าจะตัดใจซื้อ SBDX023/SLA021 ที่เป็นมือหนึ่งดี
เอาละก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้นเรามาดูความแตกต่างในแง่ของรายละเอียดของ Seiko Marinemaster ทั้ง 3 รุ่นกันก่อน
SBDX001 | SBDX017 | SBDX023/SLA017 | |
เปิดตัว | 2000 | 2015 | 2018 |
เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.) | 44.3 | 44.3 | 44.3 |
หนา (มม.) | 15.4 | 15.4 | 15.4 |
Lug-to-Lug (มม.) | 50.5 | 50.5 | 50.5 |
ความกว้างขาสาย (มม.) | 20 | 20 | 20 |
กระจก | Hardlex | Hardlex | Sapphire |
ขอบ Bezel | ฟิล์มเคลือบแล็คเกอร์ | ฟิล์มเคลือบแล็คเกอร์ | เซรามิก |
ตัวเรือน | Monocase+SS | Monocase+SS+DiaShield | Monocase+SS+DiaShield |
หน้าปัด | มีคำว่า Marinemaster | มีคำว่า Marinemaster | มีโลโก้ Prospex |
กลไก | 8L35 | 8L35 | 8L35 |
สำรองพลังงาน (ชม.) | 50 | 50 | 50 |
ระดับการกันน้ำ | 300m | 300m | 300m |
แพ็คเกจ | กล่องกระดาษ+สายยาง | กล่องหนัง+สายยาง | กล่องหนัง+สายยาง |
ราคา | มือสอง 55-60K | มือหนึ่ง 74-76K
มือสอง 64-66K |
มือหนึ่ง 68-72K |
จริงๆ แล้ว MM300 มีรุ่นย่อยอีกหลายรุ่น แม้ว่าจะไม่มากเหมือนกับพวกรุ่นน้องๆ อย่าง Monster หรือ เต่า แต่ก็พอที่จะทำให้บางคนถึงขั้นงงได้ ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่จับเอาพวกรุ่นพิเศษ หรือ Limited เหล่านั้นมาเปรียบเทียบ เพราะว่าราคาแตกต่างกันจากรุ่นธรรมดาอยู่พอสมควร ดังนั้น งานนี้ก็เลยขอเปรียบเทียบกับรุ่นธรรมดา ซึ่งก็คือ SBDX001, SBDX017 และ SBDX023/SLA021 แทน
คำถามคลาสสิคที่เราเจอกันบ่อยมากคือ จะเลือกรุ่นไหนดี ?
ถือเป็นสิ่งที่ตอบยากมาก เพราะตรงนี้จะต้องมีปัจจัยบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น
–ถ้าคุณเป็นนักสะสม แน่นอนว่าเราให้เลือก SBDX001 ที่ค่อนข้างหายากในตลาดก่อน จากนั้นค่อยตามเก็บไล่ขึ้นมาคือ SBDX017 และ SBDX023/SLA021 ที่ยังหาได้อยู่ในตลาด
-ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไร SBDX001 คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดเพราะความเป็นรุ่นแรกของ MM300 ทำให้ ความคล่องตัวในการซื้อหรือขายเป็นไปได้ง่ายกว่ารุ่นอื่นๆ
-ถ้าคุณไม่ชอบโลโก้ Prospex รุ่น SBDX001 นอนมาเช่นเดียวกัน เพราะเป็น MM300 รุ่นปกติเพียงรุ่นเดียวที่ไม่มีโลโก้มาปรากฏอยู่บนตัวเรือนหรือชิ้นส่วนอื่นๆ โดยทั้ง 3 ข้อข้างต้นคุณต้องยอมทำใจอยู่อย่างหนึ่งคือ การเป็นนาฬิกามือ 2 เพราะ SBDX001 ของใหม่คงหายากถึงยากมาก นอกจากจะมีใครระเบิดกรุออกมา ดังนั้น ของที่วนเวียนอยู่ในตลาดจะเป็นมือสองมากกว่า ซึ่งราคาก็จะอยู่ราวๆ 55-60K ขึ้นอยู่กับสภาพและของครบหรือไม่
-ถ้าคุณเน้นใช้งานไม่สนใจอะไรขอให้เป็น MM300 ก็พอ คำตอบของเราก็จะเป็น SBDX023/SLA021 เพราะเป็นนาฬิกาใหม่ที่มีราคาป้ายแดงหลังหักส่วนลดถูกกว่ารุ่นเก่าที่มันเข้ามาแทนที่เสียอีก อย่างช่วงที่เรากำลังควานหาของใหม่ของ SBDX023/SLA021 นั้น ราคาที่เจอจะอยู่ที่ 68-70K ขณะที่ SBDX017 ที่ตกรุ่นไป ถูกขยับราคาขึ้นไปเป็น 75-77K กันเลยทีเดียว
ทำไมเราถึงเลือก SBDX023/SLA021 แทนที่จะเป็น SBDX017 ?
คำตอบแรกคือ สเป็ก ซึ่ง SBDX023/SLA021 ได้รับการปรับปรุงในหลายส่วน ทั้งการเปลี่ยนกระจกมาเป็น Sapphire ซึ่งตรงนี้คือจุดที่ MM300 2 รุ่นที่ผ่านมาโดนบ่นตลอดเวลา อันดับต่อมาคือ การเปลี่อย Bezel Ring มาเป็นเซรามิก แทนที่จะเป็นฟิล์มเคลือบด้วยแลคเกอร์เหมือนกับ 2 รุ่นที่ผ่านมา และขอบ Bezel นี้เอง ทาง Seiko เติมลูกเล่นเข้าไปอีกด้วยการแต้มพรายน้ำบนหลักเวลาของ Bezel
และเมื่อบวกกับราคาของใหม่ที่ถูกกว่า SBDX017 และเป็นรุ่นใหม่กว่า แล้วทำไมเราถึงจะต้องจ่ายแพงเพื่อรุ่นเก่าด้วยละในเมื่อวัตถุประสงค์หลักคือ การซื้อมาใช้งาน โดยเราเชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้ SBDX023/SLA021 ราคาหล่นและไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักเล่นชาวไทยทั้งที่สเป็กดูดีกว่าคงจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อ คือ
-การปรากฏตัวของโลโก้ Prospex บนหน้าปัด
-การที่ Seiko ตัดคำว่า Marinemaster ออกไปจากแถบตัวหนังสือในตำแหน่ง 6 นาฬิกา
โดยทั้ง 2 เรื่องนี้ถือเป็นจุดที่บรรดาแฟนๆ MM300 รับไม่ค่อยได้ และทำให้หลายคนเมินหน้าไป ซึ่งเราคิดว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาของ SBDX023/SLA021 หล่นลงมา
ลองพิจารณากันดูครับว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน เพราะในแต่ละสถานะนั้นมีคำตอบในตัวของมันเองอยู่แล้ว
![]() |
![]() |
![]() |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline