Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J จุดบรรจบของเทคโนโลยีและความงาม

0

ช่วงนี้โลกเรากลับมาเดินทางกันอีกครั้ง และถ้าคุณกำลังมองหานาฬิกาที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานในด้านการบอกเวลาสำหรับนักเดินทางแต่ยังมีความหรูหราและคงดีไซน์ที่ดูเป็นนาฬิกาข้อมือมากกว่าการเอา Gadget มาคาดอยู่บนข้อมือ  Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J คือตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J
Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J จุดบรรจบของเทคโนโลยีและความงาม

  • รุ่นใหม่ของ Astron ที่ถูกเปิดตัวออกมาในวาระของการฉลองครบ 10 ปีในการทำตลาด

  • ลดขนาดตัวเรือน ผลิตจากไทเทเนียม และใช้กลไกใหม่ 5X53 Dual Time

  • มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อยกับ 1 Limited Edition ในราคาเท่ากัน 103,900 บาท

- Advertisement -

ด้วยความที่ผมไม่กำหนดความชอบในนาฬิกาของตัวเองให้ยึดติดอยู่แค่เรื่องของการเป็นนาฬิกาจักรกล ในบางครั้ง มันก็เลยทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพ ‘ชอบไปหมด’ โดยเฉพาะนาฬิกาที่มี ‘อะไร’ นอกเหนือจากเรื่องของเรื่องเล่าและ Heritage ที่ถูกนำมาเชื่อมโยงในแง่ของการทำตลาด

ผมชอบนาฬิกาที่มีความโดดเด่นในตัวของมันเอง ถ้าไม่เรื่องของดีไซน์ ก็จะต้องเป็นนวัตกรรมที่มีอยู่ โดยเฉพาะความสามารถที่นอกเหนือจากเรื่องการบอกเวลา ซึ่ง Seiko Astron ถือเป็นนาฬิกาเรือนหนึ่งที่ผมแอบมองมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหนึ่งที่ชีวิตต้องเดินข้ามเขตเวลาอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Seiko Astron 5X53 Dual-Time จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก

สารภาพก่อนเลยว่า ผมไม่ค่อยชอบสายโลหะ และชื้นชอบการเปลี่ยนสาย ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ผมสนุกกับการเล่นนาฬิกา ดังนั้น นาฬิกาจำพวกเปลี่ยนสายเป็นรูปแบบอื่นๆ ไม่ได้นอกเหนือจากสายของตัวเอง หรือพวกที่เป็น Integrated Bracelet จึงเป็นอะไรที่เมินมาตลอด

จนกระทั่งพักหลังๆ นี่แหละ ที่เหมือนว่าความชอบของตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปอย่างสังเกตได้ชัดเจน และตอนที่ได้เห็นเจ้า Seiko Astron 5X53 Dual-Time เป็นครั้งแรกและได้เห็นรูปแบบของสาย สิ่งที่แรกที่หลุดออกมาจากปากตัวเองก็คือ ‘ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำนาฬิกาที่มีขาสายแบบปกติกันหนอ ???’

อย่างไรก็ตาม สิบปากว่าไม่เท่าลองจับดู โดยเฉพาะการขึ้นข้อ และแค่เพียงครั้งเดียวที่ได้ลอง สามารถทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปเลย และนี่คือ นาฬิกาแบบ Integrated Bracelet เรือนแรกในรอบ 10 ปีที่ถูกใจอย่างมาก

สำหรับชื่อของ Astron นั้นเชื่อว่าหลายคนคงทราบดีถึงที่มาในการเป็นนาฬิกาควอตซ์เรือนแรกของโลกที่ถูกผลิตขายในเชิงพาณิชย์ในปี 1969 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด Quartz Crisis ซึ่งทำให้บรรดานาฬิกาจักรกลสัญชาติสวิสส์ทั้งหลายจำเป็นจะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และจากนั้นชื่อนี้ได้หายไปจากตลาด ก่อนกลับมาอีกครั้งในปี 2012 ในฐานะของการพลิกโฉมหน้าของโลกแห่งนาฬิกาอีกครั้ง

ด้วยการเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่สามารถปรับเวลาในขณะที่เดินทางข้ามเขตเวลาได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียวเพื่อให้ตัวนาฬิการับสัญญาณจาก GPS ดังนั้น Seiko Astron จึงมีนิยามเริ่มต้นในการกำหนดรูปแบบและมาตรฐานของนาฬิกาในสไตล์ GPS Watch นับจากนั้นเป็นต้นมา

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

รุ่นใหม่ที่ Seiko เปิดตัวออกมานั้นถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะในแง่ของขนาดของตัวเรือนทั้งในแง่ความหนาและเส้นผ่านศูนย์ผ่านกลาง ซึ่งถ้าคุณเป็นแฟนของ Astron มาตลอดจะพบว่านาฬิกาช่วงแรกๆ ของพวกเขาทั้งหนาและใหญ่ ซึ่งก็เป็นไปตามองค์ความรู้และต้นทุนในการผลิตของเทคโนโลยีนาฬิกา GPS ในยุคแรก

แต่เมื่อโปรเจ็กต์สอบผ่านในแง่ของการตอบรับจากลูกค้าและมีอนาคตที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ถูกพัฒนา จนกระทั่งสามารถทำให้มีขนาดเล็กลง โดยเฉพาะในส่วนของเสาสัญญาณที่ถือเป็นหัวใจหลักของการรับสัญญาณ จนทำให้สามารถวางในนาฬิกาที่มีขนาด 35-36 มิลลิเมตร จากเดิมที่ส่วนใหญ่นาฬิกาประเภทนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 47 มิลลิเมตร

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

Seiko Astron 5X53 Dual-Time คืออีกผลผลิตที่ถูกพัฒนาขึ้นจากความรู้ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของ Seiko กับตลาด GPS Watch ตัวเรือนถูกพัฒนาให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลงมาอยู่ที่ 42.7 มิลลิเมตร และหนาเพียงแค่ 12.2 มิลลิเมตร เรียกว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถกลายเป็นเครื่องประดับได้โดยที่ไม่สูญเสียประสิทธิภาพในการทำงาน แทนที่จะต้องใส่อะไรที่หนาๆ และเทอะทะเหมือนดับในอดีต

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

ในแง่ของรูปทรงและรูปแบบนั้น ต้องบอกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ผมค่อนข้างอินและชอบนาฬิกาในแบบ Integrated Bracelet แบบตัวเรือนและสายถูกรวมเป็นชุดเดียวกัน และ Astron 5X53 Dual-Time ทำได้ดีมากในแง่ของการออกแบบตัวเรือนซึ่งมาพร้อมกับเส้นสายที่ปราดเปรียว รูปทรงโดยรวมของตัวเรือนที่ดูเพรียวบาง

ทำให้ตัวเรือนมีขนาดพอเหมาะ พร้อมการออกแบบที่เน้นสันเหลี่ยมซึ่งจะทำให้ทั้งตัวเรือน ขาสาย และสายมีความเชื่อมโยง-สอดรับกันอย่างต่อเนื่อง และด้วยความหนาเพียง 12.6 มิลลิเมตรนั้นทำให้ตัวเรือนมี CG หรือ Centre of Gravity หรือจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้สวมใส่สบาย คุณไม่ต้องรัดสายให้แน่นจนอึดอัดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวนาฬิกาเหวี่ยงไปมาเมื่อมีการขยับข้อมือ

ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมดังนั้นหมดห่วงในเรื่องน้ำหนักที่จะกดลงบนข้อมือจนเกิดอาการล้า ตัวเรือนและสายผลิตจากไทเทเนียมที่ได้รับการเคลือบแข็ง (Hard-Coating) เพื่อให้มีความทนทานต่อการขีดข่วนได้ดีขึ้น การขัดแต่งลายซาตินและขัดเงาบนตัวเรือนสลับด้านทำได้อย่างลงตัวและสวยงาม

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบคือ เลย์เอาท์ที่อยู่บนหน้าปัด ซึ่ง Seiko ทำได้ดีขึ้น ไม่ทื่อๆ และไม่ทำให้รู้สึกว่า Astron เป็นเหมือนกับเป็นเครื่องมือเหมือนกับรุ่นแรก แต่กลายมาเป็นนาฬิกาข้อมือระดับหรูที่ดูสวยลงตัว หลักชั่วโมงถูกจัดวางอย่างลงตัวและอยู่เหนือพื้นผิวของหน้าปัดทำให้ดูมีมิติ แต่ละหลักชั่วโมงถูกขัดแต่งบนเส้นสายที่มีความเฉียบคม โดยทั้งหมดรวมถึงชุดเข็มชั่วโมงและนาทีได้รับการเคลือบสารเรืองแสง Lumibrite ที่ช่วยยกระดับความสว่างในการมองเห็นแม้ว่าจะอยู่บนพื้นที่ซึ่งมีแสงน้อย

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J
Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

กระจกเป็นแบบแซฟไฟร์ที่ได้รับการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงเพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนและสะดวกไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของตัวนาฬิกา ขณะที่อินเสิร์ตที่อยู่บนขอบตัวเรือนผลิตจากแซฟไฟร์ ทำให้ดูแวววาว และต่อเนื่องไปกับตัวกระจกหน้าปัดได้เป็นอย่างดี

Seiko ไม่พยายายามยัดเยียดตัวหนังสือกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของหน้าปัดที่เปรียบเสมือนกับเป็น User Manual ขนาดย่อมๆ เอาไว้บนหน้าปัดเหมือนกับนาฬิกา GPS ของแบรนด์อื่นๆ นั่นก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับตัวเองสวมนาฬิกา ตัวหน้าปัดดูแล้วคล้ายกับนาฬิกาแบบ Chronograph หรือจับเวลา โดยจะมีวงย่อยด้วยกัน 3 วง คือ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาเป็นการแสดงวันประจำสัปดาห์ หรือ Day และมีวงเล็กๆ สำหรับระบุว่าเป็น A.M. หรือ P.M.

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J
Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

ตามด้วยตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นหน้าปัดแสดงเวลาที่ 2 ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็น Home Time หรือเวลาของเมืองที่จากมา และในตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นหน้าจอแสดงฟังก์ชั่นของตัวนาฬิกา เช่นการเข้าสู่ Flight Mode แสดงระดับพลังงานของแบตเตอรี่ เป็นต้น

กลไกใหม่อย่าง 5X53 Dual-Time เพิ่งถูกนำมาใช้ได้ไม่นานและถือเป็นกลไกที่ได้รับการปรับปรุงในหลายส่วน โดยเฉพาะเรื่องของขนาดโมดุลและเสาสัญญาณที่เล็กลงจนสามารถวางอยู่ในตัวนาฬิกาที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ใหญ่มาก ตามด้วยความฉับไวในการรับสัญญาณ GPS และเปลี่ยนเวลาที่อยู่บนหน้าปัด เช่นเดียวกับการนำเทคโนโลยี SOLAR ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแสงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วเก็บเข้ามาอยู่ในแบตเตอรี่หรือตัวเก็บประจำ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะทุกครั้งที่นำมาใช้งานจะมีการเติมกระแสไฟฟ้าเข้ามาตลอดในจังหวะที่นาฬิกาสัมผัสกับแสง

โมดุลนี้จะมี Power Save Mode ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับจำศีลของนาฬิกาเพื่อลดความสิ้นเปลืองพลังงาน ในกรณีที่นาฬิกาถอดเก็บเอาไว้และไม่โดยแสงอีกเลย และเมื่อนาฬิกาถูกชาร์จจนเต็ม ถ้าเป็นการใช้งานปกติ แต่ไม่มีการโดนแสง ก็จะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน หรือถ้าเก็บแบบไม่โดนแสงและอยู่ใน Power Save Mode ก็จะอยู่ได้นานถึง 2 ปีเลยทีเดียว

ความเที่ยงตรงไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นนาฬิกาควอตซ์แถมยังมี GPS ควบคุมการปรับเวลาได้ตามความต้องการ  โดยเมื่ออยู่กลางแสงแดด นาฬิกาจะจับสัญญาณ GPS เพื่อปรับเวลาวันละ 2 ครั้ง ทำให้มีความเที่ยงตรงสูง ส่วนในเรื่องของการเปลี่ยนเวลานั้นต้องบอกว่าทำได้เร็วขึ้นอย่างที่ Seiko บอก (นานสุดในการปรับเวลาไม่เกิน 2 นาที) และที่สำคัญคือ ใช้งานง่าย ออกไปยืนกลางแจ้งและกดแค่ปุ่มเดียว ทีเหลือระบบทำให้หมด

Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J
Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบและควรจะมีนานแล้วคือ Dual-Time หรือการแสดงเวลา 2 จุด คือ Home Time และ Local Time และยังสามารถสลับการแสดงผลบนหน้าจอได้ด้วย ใครที่งงเดี๋ยวผมอธิบายตามนี้ ซึ่งตามปกติแล้ว เวลาเรากดรับสัญญาณ GPS ใน Astron รุ่นก่อนๆ เวลาที่เปลี่ยนจาก Home Time (เมืองที่จากมา) ไปเป็น Local Time (เมืองที่มาถึง) จะถูกแสดงอยู่บนหน้าปัดหลัก ซึ่งก็ดีระดับหนึ่ง

แต่สำหรับบางความต้องการ พวกเขาต้องการให้แสดงทั้ง 2 เวลา ดังนั้น นี่ก็เลยเป็นที่มาของการที่สามารถแสดงเวลาได้ 2 ส่วนคือ บนหน้าปัดหลักสำหรับ Local Time และหน้าปัด 6 นาฬิกาสำหรับ Home Time ที่สำคัญ คุณสามารถกดเปลี่ยนสลับไปมาของหน้าปัด 2 ส่วนนี้ได้ด้วยกับการกดปุ่มในตำแหน่ง 2 และ 4 วินาทีค้างเอาไว้ 1 วินาที ดังนั้น ระบบก็จะปรับสลับในการแสดงผลให้

ส่วนตัวผมชอบรุ่น SSH109J มากกว่ารุ่น Limited Edition ด้วยซ้ำ อาจจะเพราะการเลือกใช้สีสันบนหน้าปัดกับรายละเอียดที่อยู่ข้างในช่วยทำให้นาฬิกาดูสวยและไม่เรียบง่ายจนเกินไปเหมือนกับรุ่นอื่นๆ เพียงแต่ในเมื่อต้องจ่ายเท่ากัน คนส่วนใหญ่เลือกที่จะไปหารุ่นที่พิเศษกว่าเป็นหลัก โดยอาจจะมองข้ามความสอดคล้องกันในด้านความชอบและตัวนาฬิกาไป อันนี้นานาจิตตังครับ

นอกจากนั้นตัวโมดุลยังออกแบบมาให้รองรับกับการปรับเวลาด้วยตัวเองตามความต้องการ ดังนั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องรับสัญญาณจาก GPS เพียงอย่างเดียว หากต้องการให้นาฬิกาแสดงเวลาในโซนไหนบ้างก็เลือกได้ตามความต้องการของตัวเองเลย

สิ่งที่น่าแปลกสำหรับนาฬิการุ่นนี้คือ Seiko Thailand เลือกเปิดตัวรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีของ Astron ในรหัส SSH113J ด้วยราคา 103,900 บาทออกมาก่อน จากนั้นจึงค่อยมีรุ่นธรรมดาอย่าง SSH109J หน้าปัดสีน้ำเงินเรือนที่เห็นอยู่นี้ รวมถึงรุ่นอื่นๆ ซึ่งก็คือ SSH107J หน้าปัดสีเงิน และ SSH111J หน้าปัดสีดำ ที่เป็นรุ่นปกติตามออกมา โดยทั้งหมดมีราคาเท่ากันกับตัว Limited Edition

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเป็นรุ่นย่อยไหน ผมว่าเจ้า Seiko Astron 5X53 Dual-Time ถือเป็น GPS ยุคใหม่ที่ผสมผสานความต้องการในด้านความเป็นนาฬิกาข้อมือโดยเฉพาะความใส่ใจในด้านรายละเอียดของความหรูหรา และขนาดที่ลงตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่น่านฟ้าเริ่มเปิดแล้ว และเรากำลังจะกลับมาเดินทางกันได้เหมือนกับยุคก่อนการแพร่ระบาดของโควิดกันได้อีกครั้งหนึ่ง

รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Astron 5X53 Dual-Time SSH109J

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42.7 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug: 48 มิลลิเมตร
  • ความหนา: 12.2 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน: ไทเทเนียม
  • กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • กลไก: รหัส 5X53 ควอตซ์แบบ Solar ปรับเวลาตามการรับสัญญาณ GPS
  • ความเที่ยงตรง: +/-15 วินาทีต่อเดือน
  • กำลังสำรอง: 6 เดือนเมื่อชาร์จเต็ม หรือ 2 ปีเมื่อไม่โดนแสงและอยู่ใน Power Save Mode
  • การกันน้ำ: 100 เมตร
  • ประทับใจ : การผสมผสานนวัตกรรมกับงานดีไซน์ได้อย่างลงตัว การออกแบบหน้าปัด
  • ไม่ประทับใจ : ราคาที่ทำให้ตัดสินใจค่อนข้างยาก