Seiko 5 Sports ยุกตลาดอีกครั้งหลังจากที่เคยผลิตรุ่นพิเศษเอาในคอม้งงะด้วยรุ่น Jojo มาแล้ว โดยคราวนี้กันมาจับตลาดเกมเมอร์ยุค 1980 ด้วยเกมยอดฮิตอย่าง Street Fighter ที่ผลิตเพียงรุ่นละ 9,999 เรือนจาก 6 ตัวละครหลัก
Seiko 5 Sports Street Fighter V. ลิมิเต็ดเอาใจเกมเมอร์
หลังจากนาฬิกา Seiko 5 Sports ไซโก ไฟว์ สปอร์ต จากแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “ไซโก” ได้ถือกำเนิดใหม่ขึ้นอีกครั้งในปี 2019 โดยนำเสนอในรูปลักษณ์ใหม่ที่มีความแฟชั่นขึ้น หลากหลายขึ้น ผสานความทนทานในหลากหลายด้าน ด้วยนาฬิการะบบกลไกที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ชื่นชอบนาฬิกา
มาในวันนี้ ไซโก ไฟว์ สปอร์ตใหม่ พร้อมสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาไซโก ไฟว์ สปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดทั้ง 6 รุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “สตรีท ไฟเตอร์ 5” (Seiko 5 Sport Street fighter) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของเกมต่อสู้แบบผู้เล่นกับผู้เล่น ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกที่เกมเมอร์พันธ์แท้จะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ
โดยเกม สตรีท ไฟเตอร์ นั้น เปิดตัวครั้งแรกในปี 1987 และยังเป็นเกมต่อสู้ชั้นนำในวงการอีสปอร์ต ที่มีผู้เล่นและผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลก โดยนาฬิกาทั้ง 6 รุ่นของ ไซโก ไฟว์ สปอร์ต นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครหลักของเกม อาทิ Ryu(ริว), Ken(เคน), Chun-Li(ชุนลี), Guile(ไกล์), Zangief(ซานกีฟ) และ Blanka(บลังก้า) โดยคอลเลคชั่นนี้จะออกวางจำหน่ายพร้อมกันที่ไซโกบูติก และรีเทลเลอร์ทั่วโลกในเดือนกันยายนในรูปแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ผลิตออกมาเพียงรุ่นละ 9,999 เรือนเท่านั้น และมีเพียง 1,630 เรือนในประเทศไทยเท่านั้น
แรงบันดาลใจ SEIKO 5 SPORT STREET FIGHTER LIMITED EDITION
RYU (ริว)– นักสู้พเนจร
การออกแบบนาฬิกาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องแต่งกายอันสุดคลาสสิคของตัวละครอย่าง “Do-gi” และมีลายขีดข่วนที่เกิดขึ้นบนขอบตัวเรือนเพื่อสะท้อนถึงการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและทุ่มเทสุดพลังของ Ryu จนกระทั่งกลายมาเป็น ‘นักสู้ตัวจริง’ ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกามีการติดตั้งเครื่องหมายอันเรียบง่ายที่เป็น ตัวอักษรคันจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ’Furinkazan’’ โดยในเกมนั้นจะเห็นสัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่บนถุงมือของเขา และมีความหมายว่า ‘ว่องไวเหมือนสายลม อ่อนโยนเหมือนป่า ดุดันเหมือนไฟ และหนักแน่นดั่งภูเขา’ นอกจากนี้ ยังมีการพิมพ์อักขระทั้งสี่ตัวนี้ที่ด้านหลังของสายในขณะที่คำสั่งควบคุมตัวละครเพื่อให้เกิดท่าไม้ตายของเขา คือ ‘Hadoken’ จะถูกพิมพ์ไว้ที่ด้านหลังของตัวเรือนด้วย
KEN (เคน)– หมัดเพลิงพิฆาต
เครื่องแต่งกายของ Ken และผมสีทองของเขานั้นคือเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวการ์ตูน และได้ถูกนำมาเป็นธีมสีหลักของการตกแต่งนาฬิกา ซึ่งมาในโทนสีแดงสลับเหลือง อีกทั้งยังมีการนำสีของเครื่องแต่งกายมาใช้ในการตกแต่งที่หน้าปัดด้วย สำหรับด้านปลายของสายฝั่งที่ยาวนั้น มีการพิมพ์สัญลักษณ์ของสังกัดที่เขาร่วมอยู่ในเกมนั่นคือ ‘Master Foundation’ เพื่อแสดงให้เห็นตัวตนอีกด้านของเขา สำหรับการกดปุ่มบนจอยสติกเพื่อควบคุมท่าไม้ตายของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า ‘Shoryuken’ จะถูกพิมพ์อยู่ที่ฝาหลัง
CHUN-LI (ชุนลี)– หยกงามแห่งสังเวียน
การผสมผสานระหว่างสีฟ้าและสีทองได้สื่อถึงสีเครื่องแต่งกายอันสง่างามของชุนลี การออกแบบของสัญลักษณ์ที่อยู่บนคอปกบนชุดเดรสของเธอได้ถูกนำมาใช้ประทับไว้ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และกำไลข้อมือทรงหนามของเธอนั้นได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบหลักชั่วโมงในตำแหน่ง 6 และ 9 นาฬิกา ส่วนลวดลายมังกรอันสุดแสนสวยงามที่อยู่บนสายรัดเอวของเธอถูกพิมพ์ลงไปที่ด้านหลังของสาย และสำหรับการกดปุ่มบนจอยสติกเพื่อควบคุมท่าไม้ตายของเธออย่าง ‘Spinning Bird Kick’ จะถูกพิมพ์อยู่ที่ฝาหลัง
GUILE (ไกล์) – หมัดพลังลม
เครื่องแต่งกายที่แสดงถึงตำแหน่งของนายพลประจำกองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาที่มาพร้อมกับลายพรางของ Guile ได้ถูกนำมาใช้กับลวดลายบนหน้าปัดเพื่อสื่อถึงความเป็นนายทหาร โดยมีการประดับเครื่องหมายที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา รวมถึงตำแหน่ง 9 นาฬิกายังประทับ ‘ป้ายTag ประจำตัว หรือ Dog Tag’ ของ Charlie Nash เพื่อนรักของเขาที่ Guile เก็บเอาไว้เพื่อเป็นกำลังใจและทำให้มุ่งมั่นในการต่อสู้ ส่วนบนฝาหลังจะมีการพิมพ์รูปแบบการกดปุ่มบนจอยสติกเพื่อควบคุมท่าไม้ตาย นั่นคือ ‘Sonic Boom’ นั่นเอง
ZANGIEF (ซานกีฟ) – นักสู้พลังไซโคลน
การออกแบบรายละเอียดบนหน้าปัดได้สะท้อนถึงมวลพลังของกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งและร่างกายที่คล่องแคล่วของ Zangief ลวดลายวงกลมที่อยู่ด้านในก็เป็นการแสดงให้เห็นท่าพิเศษของเขานั่นก็คือ ‘Cyclone Lariat’ สำหรับตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่และหนาถูกวางประจำอยู่บนหลักชั่วโมงต่างๆ เช่นเดียวกับที่ช่องแสดงวันที่จะมาพร้อมกับเลนส์นูนขยายซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวนาฬิกาขึ้นมาอย่างชัดเจน สายผ้าไนลอนถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงสายรัดข้อมือแบบเดียวกับของ Zangief ส่วนบนฝาหลังจะมีการพิมพ์รูปแบบการกดปุ่มบนจอยสติกเพื่อควบคุมท่าไม้ตาย นั่นคือ ‘Screw Pile Driver’
BLANKA (บลังก้า)– ยอดนักรบแห่งอเมซอน
ลวดลายของการปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าที่อยู่บนขอบตัวเรือนนั่นแสดงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ Blanka ใช้ท่าไม้ตายของเขานั่นคือ ‘Electric Thunder’ โดยบนหน้าปัดมีการพิมพ์ลวดลายอันมีมิติที่แสดงถึงลมหมุนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเคลื่อนที่แบบหมุนตัวเพื่อเข้าโจมตีอันโด่งดังของ Blanka และบนหลักชั่วโมงถูกออกแบบให้เป็นซี่แหลมเหมือนกับฟันอันแหลมคมและทรงพลังของเขา ภาพตุ๊กตา “Blanka Chan” ที่น่ารักถูกพิมพ์อยู่ที่ปลายสายไนลอน ส่วนด้านหลังบนฝาหลังจะมีคำสั่งสำหรับท่าไม้ตายของเขา นั่นคือ ‘Electric Thunder’
โดยนาฬิกาทุกรุ่นจะมาพร้อมกับกลไกของ Seiko ที่ทนทานและไว้ใจได้ในคุณภาพอย่างกลไกอัตโนมัติ 4R36 ซึ่งมี 24 ทับทิม และสามารถขึ้นลานมือได้ พร้อมกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง และมีฟังก์ชั่นหยุดเข็มวินาที
Specifications:
- กลไก : 4R36
- ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
- กำลังสำรอง : 41 ชั่วโมง
- จำนวนทับทิม : 24
รายละเอียดทางเทคนิค :
- ตัวเรือนสแตนเลสสตีล (SRPF17, SRPF19, SRPF21, SRPF23)
- ตัวเรือนสแตนเลส สตีล พร้อมเคลือบสี Yellow Gold (SRPF24)
- ตัวเรือนสแตนเลส สตีลรมดำ พร้อมเคลือบสี Yellow Gold (SRPF20)
- สายผ้าใบและสายหนังวัว (SRPF19, SRPF20)
- สายหนังวัว (SRPF17, SRPF21)
- สายไนลอน (SRPF23, SRPF24)
- กระจกแบบ Hardlex
- ฝาหลังแบบขันเกลียวและโปร่งใส
- เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 42.5 มิลลิเมตร , ความหนา : 13.4 มิลลิเมตร
- ระดับการกันน้ำ : 10 บาร์
- ระดับการป้องกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
- จำนวนการผลิต 9,999 เรือนต่อรุ่น ทั่วโลก และเพียง 1,630 เรือนในประเทศไทย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/