Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium 10 ปีแห่งการรอคอยสู่ความเป็นจริง

0

10 ปีผ่านไปหลังจากที่ Rolex ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Deepsea ในการลงสู่ใต้ท้องทะเลที่ลึกที่สุดของโลก ในตอนนี้นาฬิกาต้นแบบได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงเพื่อการใช้งานจริงแล้ว และ Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium ได้ถูกเปิดตัวออกมาแล้ว

- Advertisement -

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium 10 ปีแห่งการรอคอยสู่ความเป็นจริง

  • นาฬิกาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจำหน่ายจากรุ่นต้นแบบที่มาจากโปรเจ็กต์ Deepsea Challenge ในปี 2012

  • ตัวเรือนขนาด 50 มิลลิเมตรผลิตจากวัสดุอย่าง RLX Titanium พร้อมกลไก 3230 จาก Submariner ใหม่

  • มีความสามารถในการกันน้ำสูงสุด 11,000 เมตร

จากการสำรวจครั้งยิ่งใหญ่ ณ จุดที่ลึกที่สุดใต้ท้องทะเลซึ่งเกิดขึ้นในปี 2012 Rolex ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานกับทีมสำรวจในการผลิตและพัฒนานาฬิการุ่นพิเศษเพื่อส่งมอบความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่นในการทำงานให้กับ James Cameron ในฐานะหัวหน้าโปรเจ็กต์ นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้มีการผลิตเป็นรุ่นสำหรับวางขายในตลาด จนกระทั่งต้องรอกันนานถึง 10 ปี จึงมีผลผลิตที่เกี่ยวพันกับความสำเร็จในครั้งนั้นออกมา นั่นคือ Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

เป็นที่ทราบกันดีว่า ความสำเร็จในการสำรวจโลกของบรรดานักผจญภัยชื่อดังนั้น Rolex เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่เสมอ นับตั้งแต่การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของโลก ไปจนถึงการผจญภัยใต้ท้องทะเลที่มีจุดเริ่มต้นในทศวรรษที่ 1950

ก่อนที่จะมาสร้างสถิติใหม่ในตอนนั้นกับโปรเจ็กต์ Deepsea Challenge ที่มีผู้กำกับชื่อดัง James Cameron เป็นผู้นำทีม และในวันที่ 26 มีนาคม ปี 2012 พวกเขาลงไปสู่จุดที่ลึกที่สุดใต้ท้องทะเลของโลกอย่าง Mariana Trench ก่อนที่จะทำสถิติด้วยตัวเลขความลึก 10,980 เมตร ซึ่งในโปรเจ็กต์นี้ Rolex ผลิตนาฬิกาต้นแบบเพื่อการใช้งานออกมาด้วย

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

ในวาระของการครบรอบ 10 ปีแห่งการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ได้นำมาสู่การผลิตนาฬิกาเรือนพิเศษที่มีกลิ่นอายและแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นเมื่อทศวรรษที่แล้ว นั่นคือ Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium Ref.126067 พร้อมความสามารถในการกันน้ำถึง 11,000 เมตร ที่สำคัญคือ มากับตัวเรือนไทเทเนียม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Rolex ผลิตนาฬิกาแบบ Full Titanium ทั้งตัวเรือนและสายออกมาจำหน่ายในตลาด

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

นี่คือ The Ultimate watch of the deep ซึ่งก็คงเคลมได้อย่างเต็มที่ เพราะ ณ ปัจจุบัน แม้แต่คู่แข่งที่ผลิตออกมาอย่าง OMEGA Seamaster Planet Ocean Ultra Deep ซึ่งมีจุดกำเนิดที่คล้ายกันนั้นก็ยังมีความสามารถในการกันน้ำของรุ่นผลิตขายจริงเพียงแค่ 6,000 เมตรเท่านั้น ขณะที่แม้ว่าตัวเลขจะถูกระบุอยู่เท่านี้ แต่ทว่าในแง่ของการทดสอบกับทาง Comex (Compagnie Maritime d’Expertises)

ซึ่งเป็นพันธมิตรในการทำงานกับ Rolex นั้น ตัวเลขในการกันน้ำจะมีมากกว่า ด้วยมีความสามารถในการกันน้ำมากถึง 13,750 เมตร หรือ 45,112 ฟุต ซึ่งเป็นตามการทดสอบในด้านความปลอดภัยในแง่ความสามารถในการกันน้ำที่จะต้องมีความสามารถเพิ่มขึ้นอีก 25% จากตัวเลขที่อ้างอิงอยู่บนตัวนาฬิกา

สำหรับตัวเรือนผลิตจาก RLX Titanium เป็นไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคนิคเฉพาะของ Rolex รังสรรค์ขึ้นเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาและมีความทนทานต่อการเปลี่ยนรูปทรงและการขึ้นสนิม ต่างจากรุ่นที่ Cameron ใช้ ซึ่งเป็นสแตนเลสสตีล 914L

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium
Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 มิลลิเมตร และความหนาในระดับ 23 มิลลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นต้นแบบที่ผลิตออกมาในปี 2012 แต่ทว่าในรุ่นผลิตจริงมีน้ำหนักเบากว่าถึง 30% พร้อมกับมีการอัพเดทรายละเอียดหลายจุดเพื่อให้สอดรับกับยุคสมันที่เปลี่ยนไป

เช่น กระจก Sapphire ที่มีความหนาลดลง เพียง 9.5 มิลลิเมตรเท่านั้นแต่ทว่ามีความสามารถในการทนต่อแรงกดของน้ำที่เกิดขึ้นใต้ความลึกในระดับ 11 กิโลเมตร ขณะที่ระบบปรับสายหรือ Glidelock และ Fliplock ก็สามารถรองรับกับการใช้งานกับชุดดำน้ำลึกในปัจจุบันที่มีความหนาถึง 7.5 มิลลิเมตร ขณะที่ระบบป้องกันและการควบคุมแรงดันในตัวเรือนนาฬิกาหรือ Ringlock ก็ให้ความมั่นใจในการป้องกันแม้ว่าจะใช้งานใต้น้ำในระดับที่ลึก

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

ขอบหน้าปัด Deepsea Challenge แบบหมุนได้ทิศทางเดียวและมาพร้อมกับขอบหน้าปัด Cerachrom ที่มีขั้นบอกเวลา 60 นาที ช่วยให้การอ่านเวลาขณะอยู่ใต้น้ำทำได้สะดวก สำหรับขอบหน้าปัดนั้นจะหมุนไปในทิศทางเดียวเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการหมุนโดยไม่ตั้งใจซึ่งอาจทำให้เวลาในการดำน้ำคลาดเคลื่อนได้ ขอบหน้าปัดนี้ทำจากเซรามิกสีดำที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงซึ่งผ่านการพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย Rolex สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังคงสีสันที่งดงามตลอดเวลาและไม่เปลี่ยนสภาพแม้เผชิญกับแสงแดด

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

เมื่อพลิกฝาหลังเราจะมาแบบเรียบๆ แต่มีข้อความที่ระลึกถึงการทำงานของพวกเขาที่มีส่วนร่วมกับ Deepsea Challenge ในปี 2012 โดยจะมีคำว่า “Mariana Trench” และวันในการทำงาน “23-01-1960” และ “26-03-2012” ถูกสลักลงไปตรงขอบรอบนอกของฝาหลัง

ขณะที่บนตัวเรือนฝั่ง 9 นาฬิกาจะมี Helium Escapement Valve สำหรับใช้ในการระบายก๊าซ Helium ที่อาจจะแทรกเข้าไปอยู่ข้างในของตัวนาฬิกาได้ในขณะที่นักดำน้ำใช้ชีวิตใน Chamber หรือที่พักใต้น้ำในระหว่างปฏิบัติงานหลายๆ วัน ซึ่งระบบนี้เป็นสิ่งที่ Rolex คิดค้น พัฒนา และจดสิทธิบัตรมาตั้งแต่ปี 1967

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

กลไกที่ใช้ในการขับเคลื่อนสามารถตอบสนองความเชื่อมั่นทั้งในเรื่องความทนทานและเที่ยงตรง เป็นกลไกอัตโนมัติ In-House 3230 ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีกับการเปิดตัวกับรุ่น Submariner ใหม่ที่เปิดตัวในปี 2020 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง มีความเที่ยงตรงที่เรียกว่า Superlative Chronometer (ผ่านการทดสอบและรับรองทั้งจากของ COSC และ Rolex ) มีความคลาดเคลื่อน -2/+2 วินาทีต่อวัน และสามารถสำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง

Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

ซึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติสองประการ ประการแรกคือความหนาของผนังกระปุกลานที่บางลงเพื่อการใส่สปริงที่ยาวขึ้นจึงสามารถเพิ่มปริมาณการเก็บพลังงานให้มากขึ้นได้ และอีกประการคือการทำงานของชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy

โดยชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ผลิตขึ้นจากนิกเกิล-ฟอสฟอรัสที่ผ่านการจดสิทธิบัตรแล้ว และเป็นการผนวกรวมกันของประสิทธิภาพด้านพลังงานอันยอดเยี่ยมและน่าเชื่อถือ และไม่เกิดผลกระทบใดๆ เมื่อต้องเผชิญกับการรบกวนจากสนามแม่เหล็ก

ราคาของ Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium อยู่ที่ 26,000 เหรียญสหรัฐฯ และจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

รายละเอียดทางเทคนิค : Rolex Oyster Perpetual Deepsea Challenge RLX Titanium

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 50 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 23 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือนและสาย : RLX Titanium
  • กลไก : อัตโนมัติรหัส 3230 มีความเที่ยงตรงในระดับ Superlative Chronometer
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • ความเที่ยงตรง : 2/+2 วินาทีต่อวัน
  • กำลังสำรอง : 70 ชั่วโมง\
  • การกันน้ำ : 11,000 เมตร