Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN รุ่นใหม่กับความพิเศษจากสนามแข่ง Le Mans

0

ในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans 2023 ที่ประเทศฝรั่งเศส มีความพิเศษของการเป็นปีครบรอบ 100 ปี และ Rolex ทำนาฬิกาพิเศษเพื่อมอบให้กับแชมป์ ซึ่งจากแนวคิดนั้นได้นำมาสู่การผลิตนาฬิการุ่นพิเศษนี้เพื่อจำหน่ายในตลาด โดยที่มีการปรับปรุงสเป็กและรูปแบบให้แตกต่างจากเรือนพิเศษ โดยมีจำหน่ายในชื่อ Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN และไม่ใช่รุ่นผลิตจำกัด

- Advertisement -

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN รุ่นใหม่กับความพิเศษจากสนามแข่ง Le Mans

  • นาฬิกาที่ผลิตโดยได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อแจกให้กับผู้ชนะการแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงปีนี้

  • ตัวเรือนผลิตจากทองคำขาว 18K มีความหนาเพิ่มขึ้นบนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร

  • กลไกมากับรหัสใหม่ 4132 พร้อมฟังก์ชั่นจับเวลา และมีกำลังสำรองสูงสุด 72 ชั่วโมง

เมื่อต้นปี 2023 Rolex เพิ่งจัดการปรับไลน์อัพของ Oyster Perpetual Cosmograph Daytona นาฬิกาอีกคอลเล็กชั่นที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก และถัดมาอีกไม่นาน ในช่วงเดือนมิถุนายนกับการแข่งขันรถ 24 Hours of Le Mans 2023 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ซึ่งทางแบรนด์เป็นผู้สนับสนุนในด้านการจับเวลาอย่างเป็นทางการและเป็นปีพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปีในการแข่งขันที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1923 นอกเหนือจากการผลิตนาการุ่นพิเศษเพื่อมอบให้กับทีมแชมป์ของการแข่งขันในปีนี้แล้ว ทาง Rolex เองยังได้ผลิตนาฬิการุ่นพิเศษนี้ออกมาขายอีกด้วยในชื่อ Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

ชื่อของ Daytona ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1963 ในฐานะนาฬิกาจับเวลาที่มีเอกลักษณ์ และได้รับการยอมรับจากนักแข่งด้วยรูปแบบของตัวนาฬิกาที่สวมใส่อย่างสะดวกและมาพร้อมกับขอบตัวเรือนที่มีสเกล Tachymeter ซึ่งสามารถใช้ในการจับความเร็วได้ และนั่นทำให้ 60 ปีที่ชื่อนี้อยู่ในตลาด ตัวนาฬิกาจึงได้รับการยอมรับและอยู่คู่กับสนามแข่งรถทั่วโลกมาโดยตลอด

ในฐานะพันธมิตรและนาฬิกาอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans มาตั้งแต่ปี 2001 ทางด้าน Rolex ได้ทำหน้าที่ในการสนับสนุนงานด้านวิศวกรรมและความพยายามของมนุษย์ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการแข่งขันระดับตำนานรายการนี้มาโดยตลอด เช่นเดียวกับการแข่งมอเตอร์สปอร์ตรายการอื่นๆ ทั่วโลก (รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านที่นี่)

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

Rolex มีธรรมเนียมอันยาวนานในการมอบรางวัลแก่แชมป์กีฬามอเตอร์สปอร์ตด้วยเรือน เวลารุ่นพิเศษเพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานและความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของพวกเขา โดยนักแข่งที่คว้าชัยชนะในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mansในปีนี้ จะได้รับนาฬิกา Oyster Perpetual Cosmograph Daytona และชูถ้วยรางวัลครบรอบ 100 ปี ซึ่งทั้งหมดได้นำมาสู่การผลิตนาฬิกาเรือนนี้ออกสู่ตลาดด้วย

นาฬิกาเรือนนี้มากับรหัส Ref. 126529LN บนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ซึ่งผลิตจากทองคำขาว หรือ White Gold 18K เช่นเดียวกับสายและฝาหลัง โดยมาพร้อมกับหน้าปัดในแบบ Reverse-Panda  ที่มีพื้นหน้าปัดหลักเป็นสีดำ และหน้าปัดย่อยเป็นสีขาว ซึ่งตัดกันอย่างลงตัว โดยจุดที่แตกต่างจากรุ่นทั่วไป คือ อินเสิร์ตที่ผลิตจากเซรามิกสีดำจะมาพร้อมกับสเกล Tachymeter แบบใหม่ โดยตัวเลขทั้งหมดจะถูกเคลือบด้วยแพล็ตตินัมผ่านทางกระบวนการ PVD แต่ที่แตกต่างจากรุ่นทั่วไปคือ ตัวเลข 100 จะเป็นเซรามิกสีแดง

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

นอกจากนั้น ความหนาของตัวเรือนก็มีแตกต่างจากรุ่นปกติ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 11.9 โดยขยับเพิ่มขึ้นมาเป็น 12.2 มิลลิเมตร ในส่วนของฝาหลังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ผลิตเพื่อส่งให้กับผู้ชนะเลิศนั้นจะมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งในเวอร์ชันนั้นจะเป็นฝาหลังทึบและมีการสลักสัญลักษณ์เอาไว้ แต่สำหรับรุ่นจำหน่ายทั่วไป ฝาหลังจะเป็นแบบใสเหมือนกับ Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ตัวเรือนแพล็ตตินัม ทำให้สามารถมองเห็นความสวยงามของกลไกรวมถึงโรเตอร์ขึ้นลานที่ผลิตจาก Yellow Gold 18K

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LNRolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Ref.126529LN

ในเวอร์ชันปี 2023 แม้ว่าจะมีการเปิดตัวกลไกใหม่ในรหัส 4131 ที่พัฒนามาจากรุ่นดั้งเดิมซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้จะเป็นรหัส 4132 มีคุณสมบัติที่ทนทานและทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก

ตัวกลไกมากับระบบคลัตช์แนวดิ่งที่รับประกันถึงการทำงานที่ยาวนานของโครโนกราฟโดยที่ไม่รบกวนกลไกความเที่ยงตรงอื่นๆ โดยสามารถจับเวลาได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ซึ่งมาตรวัดจับเวลาในส่วนชั่วโมงจะอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมีกำลังสำรองถึง 72 ชั่วโมง เช่นเดียวกับความเที่ยงตรงในระดับ Superlative Certified

นาฬิกาเรือนนี้เป็นรุ่นพิเศษไม่ได้มีการผลิตจำกัดแต่อย่างใด และราคา 42,207 ยูโร

รายละเอียดทางเทคนิค : Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 40 มิลลิเมตร
  • ความหนา: 12.20 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
  • กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • กลไก: อัตโนมัติ Chronograph Perpetual รหัส 4132
  • ความเที่ยงตรง: -2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน
  • ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง :72 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ :100 เมตร