Rado Captain Cook Hi-Tech Ceramic Diver อัพเกรดประสิทธิภาพสู่โลกใต้น้ำ

โดย

MP4/4

10/04/2022

Rado เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Captain Cook กับรุ่น Captain Cook Hi-Tech Ceramic Diver เปลี่ยนหน้าปัดเป็นแบบซันเรย์ พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร

- Advertisement -

Rado Captain Cook Hi-Tech Ceramic Diver

Rado Captain Cook Hi-Tech Ceramic Diver อัพเกรดประสิทธิภาพสู่โลกใต้น้ำ

เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยรุ่นดำน้ำที่มีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
ตัวเรือนมีทั้งแบบไฮเทคเซรามิก และพลาสมาเซรามิก พร้อมหน้าปัดแบบซันเรย์ 4 สี
ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 99,400-115,900 บาท

การเพิ่มทางเลือกครั้งสำคัญให้กับนาฬิการุ่นดังที่นำกลับมาผลิตใหม่อย่าง Captain Cook ของ Rado ด้วยการอัพเกรดจากการเป็นนาฬิกาสำหรับนักผจญภัยมาสู่การใช้งานอย่างจริงจังใต้น้ำด้วยขีดความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และเปลี่ยนหน้าปัดเป็นแบบทึบ พร้อมกับเลือกใช้วัสดุที่ไฮเทคอย่างเซรามิกมาใช้ในการผลิตตัวเรือนและสาย

Rado Captain Cook มีจุดกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และในรุ่นใหม่ที่เป็น Re-Issue ทาง Rado เองได้นำรูปลักษณ์ดั้งเดิมจากปี 1962 มาสร้างสรรค์ใหม่ภายใต้แนวคิดขึ้นใหม่เพื่อการเข้าสู่ศตวรรษที่ 21st ในรุ่นแรกๆ ของ Captain Cook ในแบบ Re-Issue จะเป็นตัวเรือนที่ผลิตจากสตีล จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ปี 2021 ทาง Rado ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ที่มีขนาดตัวเรือนใหญ่ขึ้นเป็น 43 มิลลิเมตร และพร้อมกับการใช้วัสดุอันทันสมัยอย่างไฮเทคเซรามิก โดยในรุ่นนี้จะมากับหน้าปัดใสที่มองเห็นชิ้นส่วนกลไก

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น Captain Cook Hi-Tech Ceramic ยังเป็นนาฬิกาสำหรับนักผจญภัยด้วยแม้จะมีความสามารถในการกันน้ำ 300 แต่ก็มีหน้าปัดเป็นแบบใส แต่สำหรับรุ่นใหม่ที่เห็นอยู่นี้ถือเป็นการเจาะตลาดดำน้ำอย่างเต็มตัวด้วยการปรับปรุงสเป็กของตัวนาฬิกาให้ผ่านมาตรฐานในด้านการกันน้ำตาม ISO

ในรุ่นใหม่ของ Rado Captain Cook Hi-Tech Ceramic Diver มีจำหน่ายด้วยกัน 6 รุ่นย่อยจากหน้าปัด 4 สีและสายก็มีให้เลือกทั้งสายยาง และสายที่ผลิตจากไฮเทคเซรามิกพร้อมข้อกลางของสายที่ผลิตจากไทเทเนียม และจะมี 2 รุ่นจะเป็นการผลิตจากวัสดุที่เหนือกว่าอย่าง Plasma Hi-Tech Ceramic

ตัวเรือนจะมีขนาด 43 มิลลิเมตร และหนา 14.6 มิลลิเมตรเท่ากับรุ่น Captain Cook Hi-Tech Ceramic โดยสิ่งที่สังเกตถึงความแตกต่างได้ ก็คือ ในรุ่นนี้จะมากับหน้าปัดแบบซันเรย์ ไม่ใช่แบบเปลือย โดยหน้าปัดจะมีด้วยกัน 4 สี คือ ฟ้า เทา ดำ และเขียวมะกอก

การขับเคลื่อนเป็นงานของกลไกอัตโนมัติ Rado คาลิเบอร์ R734 ระดับพรีเมียมที่มีแฮร์สปริง Nivachron™ แฮร์สปริง Nivachron™ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยมอบความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันโดยปกป้องนาฬิกาจากสนามแม่เหล็กรอบๆตัว และสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง

สำหรับรุ่นที่ทำตลาดพร้อมราคาในเมืองไทยจะอยู่ที่

R32129152 : ตัวเรือนและสายไฮเทคเซรามิกเคลือบ PVD หน้าปัดดำ ราคา 109,300 บาท
R32129158 : ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกเคลือบ PVD หน้าปัดดำ สายยาง ราคา 99,400 บาท
R32144102 : ตัวเรือนและสายพลาสมา ไฮ-เทค เซรามิก หน้าปัดเทา ราคา 115,900 บาท
R32144202 : ตัวเรือนและสายพลาสมา ไฮ-เทค เซรามิก หน้าปัดฟ้า ราคา 115,900 บาท
R32130312 : ตัวเรือนและสายไฮเทคเซรามิก หน้าปัดเขียวมะกอก ราคา 109,300 บาท
R32130318 : ตัวเรือนไฮเทคเซรามิก หน้าปัดเขียวมะกอก สายยาง ราคา 99,400 บาท