Rado เติมเต็มทางเลือกในตลาดให้กับคอลเล็กชั่น Captain Cook ด้วยกลไกอัตโนมัติแบบจับเวลารุ่นใหม่ล่าสุด R801 ที่มีกำลังสำรองนานถึง 59 ชั่วโมง และในรุ่นนี้มาพร้อมทางเลือกของตัวเรือนทั้งแบบสแตนเลสสตีล และบรอนซ์
Rado Captain Cook Chronograph เติมทางเลือกใหม่พร้อมตัวเรือนบรอนซ์
-
ทางเลือกใหม่ของ Captain Cook โดยมากับรุ่นจับเวลา Chronograph
-
วัสดุที่ผลิตตัวนาฬิกามี 2 แบบคือ สตีลและบรอนซ์พร้อมขนาด 43 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ R801
นอกเหนือจากรุ่นตัวเรือนปกติที่มาพร้อมกลไกในแบบ 3 เข็มที่ถือเป็นรุ่นมาตรฐานของ Captain Cook มานานตั้งแต่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เป็น Re-Issue ออกมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว ทาง Rado จัดการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคอลเล็กชั่น Captain Cook ด้วยกลไกใหม่ในแบบจับเวลา 2 วงและจะมีทางเลือกทั้งตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และบรอนซ์ พร้อมแพ็คเกจในแบบ Treasure Trunk ที่สวยและแตกต่างจากรุ่นทั่วไป
Rado Captain Cook Chronograph รุ่นใหม่ล่าสุดจะมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดด้วยกัน 3 รุ่นย่อย คือ ตัวเรือนสตีล ที่มี 2 สีหน้าปัด คือ ดำ (Ref. Ref. R32145158) และน้ำเงิน (Ref. Ref. R32145208) ส่วนอีกรุ่นเป็นหน้าปัดน้ำเงินแต่ตัวเรือนบรอนซ์ (Ref. R32146208) ซึ่งทั้งหมดจะมากับตัวเรือนไซส์ 43 มิลลิเมตร พร้อมกับสาย 3 เส้นในเซ็ตและกล่องแบบพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนาฬิการุ่นนี้ โดยในรุ่นสตีลจะมีสายสตีล สาย NATO และสายหนังมาให้ในเซ็ต ส่วนรุ่นบรอนซ์จะเป็นสาย NATO 2 เส้นพร้อมกับสายหนัง และให้ความสะดวกด้วยระบบเปลี่ยนสายที่เรียกว่า EasyClip ทำให้สามารถถอดหรือสลับสายได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือ
ในรุ่นสตีลจะมาพร้อมกับหน้าปัดสีดำและน้ำเงินพร้อมกับหลักชั่วโมงและชุดเข็มต่างๆ ที่เป็นสีเงิน พร้อมกับอินเสิร์ต บนขอบตัวเรือนที่ผลิตจาก Hi-Tech เซรามิก และฝาหลังผลิตจากสตีล ขณะที่รุ่นบรอนซ์ ตัวเรือนแลปุ่มกดในระบบจับเวลาซึ่งเป็นแบบขันเกลียวจะผลิตจากบรอนซ์คุณภาพสูง CuAl ชุดเข็มและหลักชั่วโมงจะถูกเคลือบเป็นสี Yellow Gold เพื่อให้สอดรับกับสีทองของวัสดุอย่างบรอนซ์ พร้อมขอบตัวเรือนที่ผลิตจาก Hi-Tech เซรามิก ส่วนฝาหลังในรุ่นนี้จะผลิตจากไทเทเนียม
กลไกที่ขับเคลื่อนด้วยนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นย่อยนี้จะเป็นอัตโนมัติในรหัส R801 ซึ่งถือเป็นกลไกใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาจากบริษัทแม่ของ Rado อย่าง Swatch Group มาพร้อมตัวกลไกที่มีความบาง และความสามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็กด้วยการใช้ใยนาฬิกาแบบ Nivachron พร้อมกำลังสำรอง 59 ชั่วโมง ส่วนความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 300 เมตร
ในส่วนของการจับเวลานั้น นาฬิกาเรือนนี้จะสามารถจับเวลาได้สูงสุด 30 นาที ขณะที่เพื่อความปลอดภัยใช้ในการใช้งานปุ่มกดในระบบจับเวลาจะเป็นแบบขันเกลียว ซึ่งผู้สวมใส่จะต้องคลายเกลียวก่อนที่จะมีการกดปุ่มให้ระบบทำงาน
สำหรับราคาจำหน่ายในเมืองไทย รุ่นสตีลจะอยู่ที่ 122,600 บาท ขณะที่รุ่นบรอนซ์จะขยับราคาขึ้นไปอยู่ที่ 145,700 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Rado Captain Cook Chronograph
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 43 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.8 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 49.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล / บรอนซ์
- กระจก : Sapphire ทรง Box-Shaped เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : อัตโนมัติ รหัส R801 แบบจับเวลา 2 วง
- กำลังสำรอง : 59 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline