Oris ProPilot X Calibre 400 Laser เทคนิคขั้นสูงสู่ความงานบนหน้าปัด

อีกครั้งที่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ชั้นสูงถูกนำมาใช้ในการผลิตนาฬิกาเพื่อนำความงดงามตามธรรมชาติให้มาปรากฏอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา และครั้งนี้ Oris ได้นำเทคนิค Laser-treated technology มาใช้ในการสร้างการแทรกสอดกันของแสงมาสร้างสรรค์บนหน้าปัด เพื่อนำความสวยงามมาสู่นาฬิการุ่น Oris ProPilot X Calibre 400 Laser

Oris ProPilot X Calibre 400 Laser เทคนิคขั้นสูงสู่ความงานบนหน้าปัด

• Oris นำความงามตามธรรมชาติอย่างการแทรกสอดกันของแสงมาสร้างสรรค์บนหน้าปัด

• หน้าปัดผลิตจากไทเทเนียมและใช้เทคนิค Laser-treated technology ในการสร้างความงาม

• ตัวนาฬิกาและสายผลิตจากไทเทเนียม มีขนาด 39 มิลลิเมตรและขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 400

นับจากเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2022 ในตอนนี้ คอลเล็กชั่น ProPilot X Calibre 400 ของ Oris ทยอยเปิดตัวรุ่นที่น่าสนใจออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือ Oris ProPilot X Calibre 400 Laser ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ กับกระบวนการผลิตหน้าปัดที่มีความซับซ้อนจนได้ความสวยงามที่สอดรับกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างการแทรกสอดกันของแสง หรือ Optical Interference ขึ้นมาบนหน้าปัด

จากการที่ Oris มีแนวความคิดอิสระที่แข็งแกร่ง มีอิสระในการตัดสินใจเลือก และดำเนินตามแนวคิดที่สมเหตุสมผลเพื่อแบรนด์ และเพื่อลูกค้าของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของแบรนด์ และขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืน การสร้างสรรค์และออกแบบกลไกจักรกล

ด้วยความคิดเช่นนั้น เราสามารถสังเกตได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแนวความคิดอิสระได้นำ Oris ไปสู่ความร่วมมือใหม่ๆ ที่เห็นได้บ่อยครั้งจะเป็นพันธมิตรด้านการอนุรักษ์ หรือให้การสนับสนุนการดำเนินงานของชุมชน และบางครั้งก็จะเป็นการทำงานอยู่เบื้องหลังโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ และหลังๆ พวกเขาเริ่มร่วมงานกับห้องปฏิบัติการด้านไอเดียและบริษัทวิศวกรรมที่บุกเบิกมากที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผลักดันนาฬิกากลไกจักรกล Swiss Made ไปสู่อนาคต

ความร่วมมือนี้คือเบื้องหลังของนวัตกรรมแห่งเวลาอย่างรุ่น ProPilot Altimeter ซึ่งมีตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และกลไกจักรกลออโตเมติก Calibre 400 ที่ต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง และมีพลังงานสำรอง 5 วัน ล่าสุดคือ Oris ProPilot X Calibre 400 Laser

สิ่งที่เกิดขึ้นกับนาฬิการุ่นนี้มีอยู่ 2 ประเด็นที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา และมีความเกี่ยวพันกัน ประเด็นแรกคือ การนำไทเทเนียมมาใช้ในการผลิตหน้าปัด และประเด็นที่ 2 ก็คือ การนำชิ้นงานนี้มาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การใช้เทคนิค Laser-treated technology

ซึ่งเป็นการปรับสภาพพื้นผิวไทเทเนียมด้วยเลเซอร์ (Titanium Laser Treatment) จนเกิด Oxide บนพื้นผิว และนำไปสู่การเกิดการแทรกสอดกันของแสง หรือ Optical Interference ทำให้มองเห็นสีของหน้าปัดเป็นสีเหลือบ ฟ้า เขียว ม่วง เหมือนกับสีของปีกแมลงทับ ขึ้นอยู่กับมุมที่มองลงไปที่หน้าปัด โดยหลักชั่วโมง ขีดบอกเวลา และตัวอักษรบนหน้าปัดก็ถูกสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการนี้ด้วยเช่นกัน

กว่าจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้ ทาง ORIS ใช้เวลานานถึง 2 ปีในการพัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมา โดยทั้งหมด Oris ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง ETH Zurich หรือมหาวิทยาลัยแห่งเมืองซูริค และเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่มีช่องหน้าต่างแสดงวันที่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำหรับนาฬิการุ่นนี้จะมาในแบบ No Date

ตัวนาฬิกามากับรูปทรงอันสุดโฉบเฉี่ยวและทันสมัยของนาฬิการุ่น ProPilot X Calibre 400 ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร และสายผลิตจากไทเทเนียม ให้ความทนทาน มีน้ำหนักเบา และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ พื้นผิวได้รับการขัดแต่งตัวเรือนด้วยเส้นสายที่เป็นระเบียบของรูปแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากการบินเป็นพื้นผิวแบบขัด Satin และ Sand Blasted แบบผิวพ่นทราย

ทำให้นาฬิกามีรูปลักษณ์ทางเทคนิคที่ดิบๆ เสริมด้วยขอบตัวเรือนของนาฬิกา ProPilot ที่คุ้นเคย และสายนาฬิกาไทเทเนียมที่ดูแข็งแกร่ง เม็ดมะยมขนาดใหญ่ทำจากไทเทเนียมเช่นเดียวกัน และขนาบข้างด้วยบ่าป้องกันมะยม

ขับเคลื่อนด้วยลไก In-House อย่าง Calibre 400 เจ้าของฉายา The New Standard ซึ่ง Oris นำมาเปิดตัวครั้งแรกกับนาฬิกาดำน้ำรุ่น Aquis โดยกลไกรุ่นนี้มีความทนทานที่ทางแบรนด์กล้ารับประกันนานถึง 10 ปี กำลังสำรองในระดับ 120 ชั่วโมง หรือ 5 วันจากกระปุกลานแบบคู่ ความเที่ยงตรงอยู่ที่ -3 ถึง +5 วินาทีต่อวัน ที่อยู่ภายในช่วงมาตรฐานการรับรองความเที่ยงตรงโครโนมิเตอร์ แกละความสามารถในการทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ซึ่งในกลไกรุ่นนี้จะมีการใช้ชิ้นส่วนมากกว่า 30 ชิ้นที่มีความสามารถในการต้านทานสนามแม่เหล็ก โดยรายละเอียดของกลไกชุดนี้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

นาฬิกาถูกเปิดตัวในงาน Dubai Watch Week 2023 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และบ้านเรามีเข้ามาจำหน่ายแล้วในราคา 191,000 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค : Oris ProPilot X Calibre 400 Laser

• เส้นผ่านศูนย์กลาง: 39 มิลลิเมตร
• Lug to Lug: 47 มิลลิเมตร
• ความหนา: 11.8 มิลลิเมตร
• ความกว้างขาสาย: 20 มิลลิเมตร
• วัสดุตัวเรือน: ไทเทเนียม
• กระจก: Sapphire
• กลไก: อัตโนมัติ Calibre 400
• ความเที่ยงตรง: -3/+5 วินาทีต่อวัน (อยู่ในมาตรฐาน COSC)
• คุณสมบัติพิเศษ: ต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง
• กำลังสำรอง: 120 ชั่วโมง
• การกันน้ำ: 100 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline