หลังจากเขย่าตลาดให้กระหึ่มด้วยรุ่นตัวเรือนที่ผลิตจากทองคำ 18K ไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในตอนนี้ Oris (โอริส) กลับมาอีกครั้งกับรุ่น Oris Aquis GMT Carysfort Reefพร้อม 2 ทางเลือกของสายยางและสายโลหะโดยจะมีการผลิตอย่างละ 2,000 เรือน
Oris Aquis GMT Carysfort Reef รุ่นพิเศษเพื่อการอนุรักษ์ปะการัง
-
ผลงานใหม่จากความร่วมมือกับทาง Coral Restoration Foundation
-
มี 2 ทางเลือกระหว่างสายยางกับสายโลหะโดยจะมีการผลิตอย่างละ 2,000 เรือน
-
เริ่มขายแล้วกับราคา 2,650 และ 2,850 ฟรังก์สวิสส์
ถ้ายังจำกันได้เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาง โอริส ให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือในการฟื้นฟูแนวปะการังที่เรียกว่า Coral Restoration Foundation และมุ่งเน้นในการฟื้นฟูแนวปะการังที่ Carysfort ซึ่งอยู่ในมลรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับมีการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับโครงการนี้ออกมาแบบไฮเอนด์สุดๆ กับตัวเรือนที่ผลิตจากทองคำ 18K แน่นอนว่ามีการผลิตไม่เยอะ และเสียงเรียกร้องให้มีการผลิตเวอร์ชันธรรมดาออกมาขายด้วย ซึ่งในตอนนี้กลายมาเป็นความจริงแล้วกับ โอริส รุ่น Aquis GMT Carysfort Reef ที่มีให้เลือก 2 แบบกับสายโลหะและสายยางสีส้ม
ถ้านับแล้วตรงนี้ถือเป็นผลผลิตที่ 3 ซึ่งทาง โอริส ร่วมมือกับ Coral Restoration Foundation โดยก่อนหน้านั้นคือปี 2017 กับรุ่น Staghorn Restoration จากนั้นก็มากับรุ่นเรือนทองสุดพิเศษที่ผลิตเพียง 50 เรือน ก่อนที่จะมาซ้ำอีกครั้งกับรุ่น Aquis GMT ตัวเรือนปกติสำหรับรุ่น Carysfort Reef อย่างที่เห็นในภาพ
Carysfort Reefคือเขตพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสอ่งมีชีวิตใต้น้ำมากมาย โดยเฉพาะแนวปะการังที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งตัวพื้นที่นี้จะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Florida Keys National Marine Sanctury และด้วยเหตุที่มีการรุกร้ำและทำให้ระบบนิเวศน์ต้องเสียหาย ทาง CRF จึงเข้ามาดูแลและพื้นฟูระบบนิเวศน์ทางทะเลของที่นี่มาตั้งแต่ปี 2014
สำหรับ โอริส รุ่น Aquis GMT Carysfort Reefนั้นใช้พื้นฐานของรุ่น Aquis GMT ที่มากับตัวเรือนซึ่งผลิตจาก Stainless Steel ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.5 มิลลิเมตร มากับฟน้าปัดสีน้ำเงินแบบไล่เฉดหรือ Gradient และบนปลายเข็ม GMT มาร์คเกอร์ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาบนขอบตัวเรือน และตัวหนังสือในสเกล GMT ในช่วง A.M. จะมากับสีส้มที่ตัดกันอย่างลงตัวกับความเข้มของหน้าปัด เช่นเดียวกับในรุ่นสายยางจะเป็นสีส้ม ขณะที่อีกรุ่นจะมากับสาย Stainless Steel ซึ่ง ทั้ง 2 แบบจะมีการผลิตออกมาอย่างละ 2,000 เรือนและจัดอยู่ในแพ็คเกจพิเศษที่ผลิตจากวัสดุแบบยั่งยืนซึ่งแปรรูปแบบมาจากสาหร่ายทะเลหรือ Sustainable Algae ส่วนฝาหลังมีการสลักสัญลักษณ์ที่เป็นรูปปะการังแบบต่างๆ และมีหมายเลขของเรือนที่ถูกผลิตกำกับเอาไว้
กลไกเป็นรหัส โอริส 798 มีฟังก์ชั่น GMT ในการแสดงเวลาที่ 2 และขับเคลื่อนในแบบอัตโนมัติที่สามารถ Hacking เข็มวินาทีได้ เดินด้วยความถี่ 4Hz หรือ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 42 ชั่วโมง โดยกลไกรุ่นนี้เป็นการพัฒนามาจากกลไก SW-330-1 ของ Sellita พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
จะเริ่มจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้โดยจะมีการผลิตอย่างละ 2,000 เรือน ซึ่งรุ่นสายยางจะมีรหัส Ref.
01 798 7754 4185-Set RS พร้อมราคา 2,650 ฟรังก์สวิสส์ ส่วนรุ่นสาย Stainless Steel มีรหัส Ref. 01 798 7754 4185-Set MB และราคา 2,850 ฟรังก์สวิสส์
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/