ในที่สุด Oris ก็เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับตลาดด้วยการขยายแนวรุกสู่รุ่น 41.5 มิลลิเมตรของ Aquis Date กับการจับคู่กับกลไกยอดเยี่ยมอย่าง Calibre 400
Oris Aquis Date 41.5 mm. Calibre 400 ความสนุกสนานของจักรกล
-
เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยกลไก Calibre 400 อินเฮาส์อันเลื่องชื่อของ Oris
-
ใช้ตัวเรือนของนาฬิกาดำน้ำยอดนิยมอย่างรุ่น Aquis Date
-
มีจำหน่านทั้งสายสตีล และสายยาง
ต้องบอกว่าปีนี้ Oris รุกตลาดนาฬิกาอย่างหนักเพราะนับจากต้นปี 2021 เป็นต้นมา พวกเขาทยอยส่งนาฬิการุ่นใหม่ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือ การเปิดตัว Oris Aquis Date ขนาด 41.5 มิลลิเมตรที่ถือว่าเป็นไซส์ยอดนิยมที่ในคราวนี้จะมาพร้อมกับกลไกอันยอดเยี่ยมอย่าง Calibre 400
งานนี้ต้องบอกว่าถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้วที่มาพร้อมกับกลไกยอดเยี่ยมอย่าง Calibre 400 โดย Oris เปิดตัวกลไดนี้กับรุ่น Aquis Date 43.5 มิลลิเมตรมาก่อน จากนั้นก็ตามด้วย Aquis Pro Date เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอย่างที่ทราบกันดีว่า กลไกอินเฮาส์ Calibre 400 ของ Oris มีความโดดเด่นพร้อมกับตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับวงการนาฬิกาตามสโลแกน The New Standard เพราะมีความโดดเด่นด้วยกัน 3 ประการอย่างที่ทราบดี คือ
- ความเที่ยงตรงในระดับ +3 ถึง -5 วินาทีต่อวัน ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมาก และถือว่าตามมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ – COSC tolerances
- ความทนทานในการใช้งานจนทาง Oris กล้ารับประกันนานถึง 10 ปีและยังทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบเสมอในยุคปัจจุบัน จนทำให้นาฬิกาจักรกลเผชิญปัญหาเรื่องความเพี้ยนในการทำงาน
- กำลังสำรองจากตลับลานคู่ที่สามารถ ให้กำลังสำรองนานถึง 5 วันหรือ 120 ชั่วโมง
สำหรับ Oris Aquis Date 41.5 มิลลิเมตร จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับย่อขนาดมาจากรุ่น 43.5 มิลลิเมตร เพราะนอกจากการจะใช้กลไก Calibre 400 แล้ว ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ และดีไซน์ที่สอดคล้องตามแบบฉบับนาฬิกา Aquis Date รุ่นใหม่ โดยสิ่งที่มีตามมาด้วยจากรุ่น 43.5 มิลลิเมตร คือ ฝาหลังแบบใส ทำให้สามารถมองเห็นชิ้นส่วนและความงามของกลไกชุดนี้ รวมถึงทุกสีจะมาพร้อมกับรุ่นสายสตีล และสายยางที่มีระบบ Quick Strap Change เพิ่มความสะดวกในการถอดสาย พร้อมกับสเป็กของการกันน้ำระดับ 300 เมตร พร้อมกับกระจกแซฟไฟร์แบบทรงโดมโค้ง เคลือบสารกันการสะท้อนแสง 2 ด้าน
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความแตกต่างและสอดคล้องกับแนวคิดที่เรียกว่า ‘ความสนุกสนานของจักรกล’ นั้น ทาง Oris ก็มีการเพิ่มทางเลือกของสีหน้าปัด โดยในรุ่นนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 สีคือ น้ำเงิน สีแอนธราไซท์ และสีเขียว ส่วนคอนเซ็ปต์ในการสร้างสรรค์ที่เรียกว่า ‘ความสนุกสนานของจักรกล’ ทาง Oris เปิดเผยว่า มันคือ แนวคิดที่สื่อถึง
‘ในโลกยุคดิจิตอลที่ทำให้เราเชื่อมต่อกันและไวต่อความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของเรา ความสนุกสนานของกลไกจักรกลได้นำมาซึ่งความหมายใหม่ ไม่ว่าเราจะมองไปที่ชิงช้าสวรรค์ที่เปิดกว้างให้เห็นการทำงาน หรือมองไปที่กลไกของนาฬิกาผ่านฝาหลังของตัวเรือน มันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจเมื่อได้เห็นว่าสิ่งต่างๆทำงานอย่างไร ที่Orisเราได้รับแรงกระตุ้นจากความสุขนี้ เพราะหากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่นาฬิกาของเราต้องทำ มันคือการนำมาซึ่งรอยยิ้ม เรารู้ว่าไม่มีใครต้องการนาฬิกากลไกจักรกล แต่ความสุขง่ายๆ ของการได้เป็นเจ้าของและได้เห็นการทำงานของมัน ทำให้ชีวิตนั้นมีความสุขยิ่งขึ้น นั่นคือความสนุกสนานของกลไกที่เราหมายถึง’
![]() |
![]() |
![]() |
ใครที่พร้อมเตรียมตัวได้เลย Aquis Date 41.5 มิลลิเมตรพร้อมกลไก Calibre 400 เตรียมทำตลาดแล้ว โดยในยุโรปมีราคาอยู่ที่ 3,200 ฟรังก์สวิสส์ สำหรับรุ่นสายสตีล และ 3,100 ฟรังก์สวิสส์สำหรับรุ่นสายยาง
รายละเอียดทางเทคนิค : Oris Aquis Date 41.5 mm. Calibre 400
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41.5 มิลลิเมตร
- หน้าปัด สีน้ำเงิน สีแอนทราไซต์ หรือ สีเขียว
- วัสดุเรืองแสง เข็มนาฬิกา และขีดบอกเวลา เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®
- กระจกหน้าปัด แซฟไฟร์ โค้งรูปโดมทั้งสองด้าน เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนด้านใน
- ฝาหลัง สเตนเลสสตีล ขันเกลียว กระจกแซฟไฟร์เปลือยให้เห็นกลไกภายใน
- ปุ่มปรับตั้งเวลา เม็ดมะยมนิรภัยสเตนเลสสตีลแบบขันเกลียว พร้อมบ่าป้องกันเม็ดมะยม
- สายนาฬิกา สายสเตนเลสสตีล หรือสายรับเบอร์สีดำ ทั้งสองแบบประกอบด้วยเฟืองล็อคสายนิรภัยแบบบานพับ พร้อมส่วนขยายความยาวสาย และระบบ Quick Strap Change เพื่อการเปลี่ยนสายได้อย่างรวดเร็ว
- การกันน้ำ 30 บาร์ (300 เมตร)
- หมายเลขเครื่อง Oris Calibre 400
- ฟังก์ชั่น เข็มชั่วโมง นาที และวินาทีจากจุดศูนย์กลาง หน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ปุ่มปรับตั้งวันที่ ปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และหยุดเข็มวินาที
- ความเที่ยงตรง -3/+5 วินาทีต่อวัน (ตามมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ – COSC tolerances)
- คุณลักษณะพิเศษ ต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง
- การขึ้นลาน อัตโนมัติ
- พลังงานสำรอง 120 ชั่วโมง
- การรับประกัน* ขยายเวลารับประกันนาน 10 ปี เมื่อลงทะเบียน MyOris ใช้สำหรับนาฬิกาและกลไก ช่วงเวลาการบริการนาฬิกาที่แนะนำ 10 ปี
อัลบั้มภาพ
มารู้จักกับ Calibre 400Oris Calibre 400 Series กำหนดมาตรฐานใหม่ในการผลิตนาฬิการะบบกลไกจักรกลออโตเมติก รังสรรค์ขึ้นภายในโรงงานของOris โดยวิศวกรผู้ชำนาญการของบริษัทนาฬิกาจักรกลสวิสอิสระ ซึ่งมีระดับในการต้านทานสนามแม่เหล็กที่สูงขึ้น สำรองพลังงานได้นานถึง 5 วัน มาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี และช่วงเวลาการบริการนาฬิกาที่แนะนำ 10 ปี Oris Calibre 400 Series สร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตนาฬิกากลไกออโตเมติก คิดค้นและรังสรรค์ขึ้นเองทั้งหมดภายในโรงงานของOris โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาจักรกลสวิสอิสระ ซึ่งมีระดับในการต้านทานสนามแม่เหล็กที่สูงขึ้น สำรองพลังงานได้นานถึง 5 วัน มาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี และช่วงเวลาการบริการนาฬิกาที่แนะนำ 10 ปี ต่อไปนี้จะอธิบายถึงวิธีการทำงานของกลไก กระปุกลานแบบคู่ (Twin barrel concept) พลังงานสำรอง 5 วันเมื่อทำการวางคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ Calibre 400 วิศวกรของ Oris ตระหนักดีว่า ทุกวันนี้เราอาจไม่ได้ใส่นาฬิกาเรือนเดิมทุกวัน หากคุณถอดวางนาฬิกากลไกจักรกลระดับมาตรฐานลงสัก 1-2 วัน นาฬิกาจะหยุดทำงานเมื่อพลังงานสำรองหมดลง กลไก Calibre 400 มีกำลังลานสำรองนาน 5 วัน ดังนั้นนาฬิกาจะยังคงเดินอย่างต่อเนื่อง แม้คุณไม่ได้สวมนาฬิการะหว่างวันพฤหัสบดีและวันอังคาร ด้วยกระปุกลานแบบคู่ทำให้นาฬิกามีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งทั้งสองกระปุกลานมีเมนสปริงที่ขยายออกไป แต่ละอันยาวพอที่จะจัดเก็บพลังงานได้ 2.5 วัน ความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้า (Class-leading reliability) การรับประกัน 10 ปี และช่วงเวลาการบริการที่แนะนำ 10 ปีOrisมั่นใจอย่างยิ่งในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวมอยู่ใน Calibre 400 ซึ่งเราขอเสนอการรับประกันนาน 10 ปีสำหรับนาฬิกาOrisทุกเรือนที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่นี้เมื่อคุณลงทะเบียนผ่าน MyOris นอกจากนี้Orisยังเสนอระยะเวลาการให้บริการที่แนะนำ 10 ปีสำหรับนาฬิกา Oris Calibre 400 Series ซึ่งหมายความว่าหากไม่รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือการตรวจสอบการกันน้ำ คุณไม่จำเป็นต้องนำนาฬิกา Oris Calibre 400 Series เข้ารับบริการจนถึงปี 2031 เป็นอย่างเร็วที่สุด นี่คือมาตรฐานใหม่ ประดิษฐกรรมที่เป็นหัวใจหลัก ระบบจักรเหวี่ยงที่มีความเสถียรยิ่งขื้น
หนึ่งในความมุ่งมั่นที่เป็นรากฐานสำคัญของOrisที่มีต่อ Calibre 400 คือการขจัดปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น วิศวกรของOrisระบุว่า หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดของกลไกจักรกลออโตเมติก เกี่ยวข้องกับระบบลูกปืนที่ช่วยให้จักรเหวี่ยง (หรือ โรเตอร์) หมุนได้อย่างอิสระ นี่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของนาฬิการะบบออโตเมติก เมื่อโรเตอร์หมุน มันจะสร้างพลังงานเข้าไปเก็บสะสมไว้ในเมนสปริงซึ่งบรรจุอยู่ในกระปุกลาน ดังนั้นเราจึงถอดลูกปืนทั้งหมดออก และแทนที่ด้วยระบบลูกปืนสไลด์ที่มีแรงเสียดทานต่ำ ซึ่งแกนโลหะจะไหลผ่านกระบอกสูบที่มีสารหล่อลื่น สิ่งนี้ทำให้ความซับซ้อนน้อยลงมาก เพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้น และส่งผลให้การสึกหรอลดต่ำลง ทำให้แนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายของกลไกลดน้อยลง ความต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง ยกระดับความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก
กลไกจักรกลของนาฬิกาสวิสส่วนใหญ่จะถูกดึงดูด หากสัมผัสกับแรงแม่เหล็กที่รุนแรงที่เราเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นจะทำให้ความเที่ยงตรงลดน้อยลง และสามารถทำให้กลไกหยุดเดินได้ทั้งหมด เพื่อให้มีความทนทานต่อสนามแม่เหล็กในระดับสูง Orisได้ออกแบบ Oris Calibre 400 Series โดยใช้ส่วนประกอบที่ไม่ใช่เหล็ก และทนทานต่อแม่เหล็กมากกว่า 30 ชิ้น รวมถึงใช้ซิลิคอนในการผลิตเอสเคปวีล (Escape Wheel) และเดือยก้ามปู (Anchor) ในการทดสอบโดยสถาบัน Laboratoire Dubois ที่มีชื่อเสียง Calibre 400 มีค่าเบี่ยงเบนน้อยกว่า 10 วินาทีต่อวัน หลังจากสัมผัสกับแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็ก 2,250 เกาส์ ตามบริบทของมาตรฐาน ISO 764 เวอร์ชั่นล่าสุด สำหรับนาฬิกาที่มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็กนั้น กำหนดให้มีคุณสมบัติในการป้องกันสนามแม่เหล็กได้ นาฬิกาต้องมีความเที่ยงตรงอยู่ในอัตรา 30 วินาทีต่อวัน หลังจากสัมผัสกับแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็ก 200 เกาส์ ซึ่ง Calibre 400 ถูกบันทึกค่าเบี่ยงเบนได้เพียงหนึ่งในสามจากที่กำหนด หลังจากสัมผัสกับแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็กมากกว่า 11 เท่าตามที่กำหนดไว้ ทำให้เป็นกลไกที่มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็กระดับสูง |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/