อีกครั้งที่ความเที่ยงตรงเป็นหัวข้อในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในด้านการผลิตกลไกของนาฬิกา โดย OMEGA ได้นำใยนาฬิกา หรือ Balance Spring ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษที่เรียกว่า Spirate มาใช้เพื่อให้ กลไกอัตโนมัติ 9920 มีความเที่ยงตรง 0 ถึง +2 วินาทีต่อวัน และใช้พื้นฐานของ Speedmaster Chronograph แบบ 2-Counter หรือจับเวลา 2 วง
OMEGA Speedmaster Super Racing Spirate เพื่อที่สุดของความเที่ยงตรง
-
ความพิเศษกับการนำเสนอด้วยกลไกที่มาพร้อมใยนาฬิกาใหม่ Spirate เพื่อความเที่ยงตรง
-
กลไกอัตโนมัติ 9920 ได้รับการติดตั้งใยนาฬิกาแบบ Spirate มีความเที่ยงตรง 0 ถึง +2 วินาทีต่อวัน
-
ใช้พื้นฐานของ Speedmaster Chronograph แบบ 2-Counter หรือจับเวลา 2 วง
ในโลกของนาฬิกาจักรกล การแสวงหาความเที่ยงตรงในการทำงานของกลไกถือเป็นที่สุดของเป้าหมายของแบรนด์นาฬิกา และแน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ต่างสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้กลไกของตัวเองเดินทางไปถึงจุดนั้น และ OMEGA ก็เช่นเดียวกับกับการเปิดตัวนาฬิกาใหม่ OMEGA Speedmaster Super Racing Spirate ซึ่งถือเป็นนาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ที่ได้รับการติดตั้งกลไกใหม่ที่มากับระบบ Spirate ที่เป็นเอกสิทธิ์ของแบรนด์
![]() |
![]() |
ระบบ Spirate คือ นวัตกรรมที่ประกอบไปด้วยสายใยนาฬิกา หรือ Balance Spring ที่กำลังอยู่ในกระบวนการจดสิทธิบัตรซึ่งทำให้สามารถปรับอัตราการแกว่งได้อย่างละเอียด สายใยแต่ละชิ้นผลิตจากซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตภายในที่มีชื่อว่า DRIE (Deep Reactive Ion Etching) และเนื่องจากสายใยนาฬิกาเป็นชิ้นส่วนที่ซับซ้อนที่สุดในส่วนควบคุมการทำงานของนาฬิกาจักรกล การรังสรรค์ระบบ Spirate ใหม่จึงนับว่าเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ ดังนั้น OMEGA จึงหวังที่จะนำนวัตกรรมที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้มาใช้อย่างคุ้มค่า และแผนในระยะยาวของแบรนด์คือการทยอยนำระบบ Spirate มาประยุกต์เข้ากับกลไกอื่นอีกหลากหลายรุ่น
OMEGA Speedmaster Super Racing Spirate ในรหัส Ref. 329.30.44.51.01.003 ถือเป็นนาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ที่ได้รับการติดตั้งกลไกใหม่ที่มากับระบบ Spirate มากับตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.25 มิลลิเมตร
หน้าปัดถูกรายล้อมด้วยรางนาทีแบบเรซซิ่งอันโดดเด่น บนขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำประกอบด้วยสเกล Tachymeter อีนาเมลสีเหลืองแบบใหม่ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี “Grand Feu (กรองด์ เฟอ)” นอกจากนั้น สีเหลืองอันโดดเด่นแบบเดียวกับที่เคยปรากฏบน Seamaster Aqua Terra >15’000 GAUSS รุ่นปี 2013
นี้ยังถูกนำมาใช้บนเข็มในระบบจับเวลา Chronograph ที่ไล่เฉดสีรวมถึงแถบสีของเข็มวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา หน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที ถึง 12 ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับหลักเลข 3 นาฬิกายังทำหน้าที่บอกโซนเวลาที่สอง ลายรวงผึ้งบนหน้าปัดเป็นการอ้างอิงถึงเรือนเวลาคอนเซปต์ที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ OMEGA ที่สามารถทนทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 160,000 เกาส์
หลักชั่วโมงทรงหัวลูกศรสีดำลบมุมที่ขัดเงาแบบไดมอนด์ถูกบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova แบบใหม่ซึ่งจะมอบแสงสีเหลืองพิเศษที่ชวนหลงใหล รหัสสีนี้ยังครอบคลุมไปจนถึงข้อความ Speedmaster และ Super Racing บนหน้าปัด
เมื่อพลิกด้านหลัง เมื่อมองผ่านกระจก Sapphire จะพบกับความสวยงามของกลไกในรหัส OMEGA Co-Axial Master Chronometer 9920 และได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัย และความเที่ยงตรงในระดับ Master Chronometer จากสถานบัน METAS
ซึ่งหลักฐานของการรับรองนี้มาในรูปแบบบัตร METAS สีแดงโดดเด่น ซึ่งในกรณีนี้ยังมีการยืนยันถึงความเที่ยงตรงที่สูงถึง 0 ถึง +2 วินาทีต่อวันที่สามารถผลิตได้ระดับอุตสาหกรรมด้วยระบบ Spirate™
สำหรับราคาของ OMEGA Speedmaster Super Racing Spirate ในเมืองไทยอยู่ที่ 430,000 บาท และมาพร้อมกับ กล่องนาฬิกา Speedmaster ลายรวงผึ้งที่เย็บด้วยด้ายสีดำและสีเหลือง ภายในกล่องนาฬิกาแบบพิเศษประกอบด้วยสาย NATO ไนลอนรีไซเคิลและเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนสายนาฬิกา
ข้อมูลทางเทคนิค : OMEGA Speedmaster Super Racing Spirate
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44.25 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.9 มิลลิเมตร
- ความยาวปลายขาด้านหนึ่งมาอีกด้านหนึ่ง (Lug to Lug) : 50.0 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 21 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือนและสาย : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire
- กลไก : อัตโนมัติ พร้อมระบบจับเวลา ในรหัส 9920 มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 50 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline