OMEGA เพิ่มทางเลือกของสีสันบนหน้าปัดให้กับ Moonwatch ด้วยรุ่น Speedmaster Professional White Dial มากับหน้าปัดสีขาวสะอาดตา พร้อมทางเลือกของสายที่มีทั้งสายสตีล สายหนัง และสายยาง พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานแบบ Co-Axial Master Chronometer Calibre 3861 ที่มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer
OMEGA Speedmaster Professional White Dial หน้าปัดใหม่ สีขาวสะอาดตา
-
เปิดตัวหน้าปัดสีขาวแบบเคลือบแล็คเกอร์
-
มีจำหน่ายกับตัวเรือน 42 มิลลิเมตรแบบสตีล และมีสายทั้งรุ่นสายสตีล สายยาง และสายหนัง
-
ราคาจำหน่ายรุ่นสายสตีลอยู่ที่ 300,000 บาท
OMEGA เปิดตัวอีกทางเลือกของ Moonwatch ด้วยรุ่นหน้าปัดขาวแบบ Full Whie Dial ออกสู่ตลาดแล้ว โดยจะมากับหน้าปัดแบบ Sapphire และฝาหลังแบบใสที่ใช้กระจก Sapphire เช่นกัน พร้อม 3 ทางเลือกที่มีทั้งสายสแตนเลสตีล สายหนัง และสายยาง โดยจะเป็นอีกรุ่นหลักของคอลเล็กชั่น Speedmaster Professsional
![]() |
![]() |
![]() |
หลังจากเป็นที่รู้จักในฐานะนาฬิกาโครโนกราฟที่โด่งดังมากที่สุดบนโลก นาฬิกา OMEGA Speedmaster Moonwatch รุ่นใหม่ก็ได้รับการเผยโฉม โดยในครั้งนี้จะมาพร้อมกับหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีขาวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสำรวจอวกาศและความเป็นมาอันยาวนานอันโด่งดังของคอลเลคชั่น
โดยเรือนเวลาที่โดดเด่นรุ่นนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเหล่าผู้ที่หลงใหลใน Moonwatch ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2023 เมื่อปรากฎบนข้อมือของแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ OMEGA อย่าง Daniel Craig (แดเนียล เคร็ก) ที่นิทรรศการ Planet OMEGA ในมหานครนิวยอร์กเป็นครั้งแรก
![]() |
![]() |
สำหรับ OMEGA Speedmaster Professional White Dial ถือเป็น Permanent Model ซึ่งเป็นรุ่นหลักที่อยู่ในคอลเล็กชั่น Speedmaster Professional Moonwatch ไม่ได้เป็น Special หรือ Limited Edition แต่อย่างใด และถือเป็นการเปิดหน้าปัดสีขาวที่เป็นรุ่นหลักเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Moonwatch รุ่นใหม่ เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี 2021
รายละเอียดที่พิเศษที่สุดของนาฬิการุ่นนี้คือหน้าปัดสีขาวที่พบเจอได้ยาก เมื่อ Speedmaster รุ่นดั้งเดิมถูกรังสรรค์ขึ้นในปี 1957 หนึ่งในเป้าหมายหลักของเหล่านักออกแบบคือการสร้างหน้าปัดที่สามารถอ่านเวลาได้อย่างสะดวก ดังนั้นตัวเลือกจึงเป็นการใช้ชุดเข็มกับหลักชั่วโมงสีขาวบนพื้นหน้าปัดสีดำ
สำหรับนาฬิการุ่นใหม่ การสลับสีก็ให้ผลลัพธ์ในแบบเดียวกัน ไม่เพียง OMEGA จะผลิตหน้าปัดรุ่นใหม่ในสีขาวและเลือกตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ด้วยสีดำรวมถึงหลักชั่วโมงแบบใหม่ แต่ทีมนักออกแบบยังเลือกใช้ชื่อ Speedmaster ในสีแดงและเคลือบพื้นผิวด้วยแลคเกอร์จนเงางามซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคนิคนี้มาประยุกต์ใช้กับหน้าปัดแบบระดับของ Moonwatch
ทำไมถึงเป็นสีขาว? แต่เดิมแรงบันดาลใจสำหรับลุคใหม่นี้มาจากสีขาวและสีดำของชุดนักบินอวกาศ โดยเฉพาะกับชนิดที่ใช้ระหว่างการทำกิจกรรมนอกยานอวกาศ (EVA) เช่น การเดินในอวกาศ หรือ Space Walk อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมโยงที่แท้จริงคือการที่ Speedmaster Moonwatch ได้ถูกสวมใส่โดยนักบินอวกาศของ NASA อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1965 และถูกรู้จักในฐานะนาฬิการุ่นแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์ นอกจากนี้แถบสีแดงก็ถูกใช้บนชุดนักบินอวกาศตั้งแต่ภารกิจ Apollo 13 เมื่อปี 1970 เพื่อใช้ระบุจำแนกของผู้บัญชาการ
ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลพิเศษที่สีขาวถูกเลือก ในปี 1969 แบรนด์ OMEGA ได้รังสรรค์นาฬิกาต้นแบบรุ่น ALASKA I ขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการลับของ NASA เพื่อออกแบบนาฬิกาที่สามารถใช้งานในอวกาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากการทดลองตลอดหลายเดือน OMEGA ก็ได้เลือกหน้าปัดสีขาวเพราะมีสัมประสิทธิ์การสะท้อนความร้อนที่ทรงประสิทธิภาพ สีแดงของชื่อ Speedmaster บนนาฬิการุ่นใหม่นั้นยังเป็นการยกย่องถึงตัวเรือนกันกระแทกสีแดงที่หุ้มอยู่ด้านนอกของนาฬิกา ALASKA I
นอกจากหน้าปัดสีขาว เครื่องบอกเวลาจาก OMEGA ก็พรั่งพร้อมรายละเอียดอีกหลายแห่ง ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร ถูกนำเสนอพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลแบบห้าชิ้นทรงโค้งที่มีทั้งสไตล์วินเทจและสวมใส่สบาย มอบลุคสุดคลาสสิคผ่านการขัดแต่งทั้งแบบขัดเงาและขัดด้าน
อีกทั้งยังมีเรือนเวลาอีกสองรุ่นให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับสายนาฬิกาหนังสีดำแบบรูฉลุขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดงและสีขาว หรือรุ่นที่มาพร้อมกับสายนาฬิกายางต้านแบคทีเรียซึ่งประดับด้วยลาดลายพื้นผิวของดวงจันทร์แบบยกนูนที่ด้านใต้ซึ่งมอบทั้งสุนทรียะและสวมใส่บาย
สำหรับผู้ที่หลงใหลใน Moonwatch บนสเกล Tachymeter ที่ขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมอโนไดซ์สีดำบนเครื่องบอกเวลาจะถูกประดับด้วย “จุดเหนือเลข 90” หรือ Dot Over Ninety อันโด่งดัง ขณะที่ภายในจะติดตั้งด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 3861 เป็นแบบไขลานที่มีการขัดแต่งชิ้นส่วนอย่างสวยงามด้วยลวดลาย Geneva Wave พร้อมกับความสามารถในการสำรองพลังงานเพิ่มเป็น 50 ชั่วโมง เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และความเที่ยงตรงในระดับ master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS
![]() |
![]() |
![]() |
รุ่นที่ทำตลาดในช่วงแรกจะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย คือ
- Ref.310.30.42.50.04.001 สายสตีล ราคา 300,000 บาท แพงกว่าหน้าปัดดำ 5,000 บาท
- 310.32.42.50.04.001 สายหนัง ซึ่งยังไม่มีในเว็บเมืองไทย ราคา 8,600 ยูโร
- 310.32.42.50.04.002 สายยาง ซึ่งยังไม่มีในเว็บเมืองไทย ราคา 8,600 ยูโร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline