Nethuns Lava LB121 บรอนซ์หน้า Metorite ในราคาหลักหมื่น

0

ผมตั้งใจว่าจะมีนาฬิกาบรอนซ์อยู่ในกรุสักเรือน แต่ไม่สมหวังสักที จนกระทั่งมาเจอเข้ากับ Nethuns Lava LB121 นาฬิกาบรอนซ์ที่มาพร้อมกับหน้า Metorite ในราคาหลักหมื่นเท่านั้น และหลังจากที่สอยแล้วก็จัดการจับเอามารีวิวซะเลย

Nethuns Lava LB121 บรอนซ์หน้า Metorite ในราคาหลักหมื่น
Nethuns Lava LB121 บรอนซ์หน้า Metorite ในราคาหลักหมื่น

Nethuns Lava LB121 บรอนซ์หน้า Metorite ในราคาหลักหมื่น

  • Nethuns Lava LB121 มาพร้อมกับตัวเรือนบรอนซ์ และหน้าปัด Meteorite
  • ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตรมี Helium Escape Valve กันน้ำได้ 500 เมตร
  • ผลิตเพียง 99 เรือนทั่วโลก
- Advertisement -

ในช่วงหนึ่งที่นาฬิกาบรอนซ์ได้รับความนิยม ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าใน Wish List ของตัวเองจะต้องมีนาฬิกาประเภทนี้อยู่ในกรุด้วย แต่ที่ผ่านมายังไม่บรรลุผลสักที อาจเป็นเพราะเป้าหมายแรกเริ่มที่หวังเอาไว้ยังไม่ครบสักที ประกอบกับนาฬิกาประเภทนี้ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่ถูกใจจริงๆ สักที ผมหมายถึงทั้งในด้านดีไซน์และราคาที่เหมาะสมกับตัวเอง

แน่นอนว่าแม้ว่าในระยะหลังพวกมีแบรนด์จะผลิตนาฬิกาบรอนซ์ออกมาขาย แต่ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน อีกทั้งตลาดหลักที่ผูกขาดการขายในกลุ่มนี้ก็ยังเป็นพวก Homage หรือไม่ก็ Micobrand เป็นหลัก ซึ่งเท่าที่ผ่านตามา ผมยังไม่โดนใจกับรุ่นไหนเลยจนกระทั่งมาเจอเข้ากับ Nethuns Lava LB121 และตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่นาทีในการตัดสินใจเป็นเจ้าของ

เหตุผลไม่ใช่งบเหลือหรือรวยแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะผมกลัวพลาดอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้เกิดไปหลงรักเจ้า Zelos Hammerhead  เข้าอย่างจัง แต่ก็ดันลังเลและไม่ตัดสินใจสักที จนราคามันขยับตามนโยบายการขายของค่ายนี้ ก็ยังยึกยัก และสุดท้ายก็อดเพราะ SOLD OUT ทั้งที่ตัวเองจะกดสั่งซื้อหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ยอมทำสักที ดังนั้น งานนี้ก็เลยไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

นอกจากนั้นผมยังคุ้นเคยกับชื่อของ Nethuns  มาพอสมควร เพราะในยุคที่ Microbrand กำลังเริ่มได้รับความนิยม และมีร้านอย่าง Saggio Thailand เป็นแกนหลักในการนำแบรนด์แปลกๆ ใหม่ๆ เข้ามาให้คนไทยได้สัมผัส กลุ่มเพื่อนผมหลายคนหันมามอง Microbrand และ Nethuns ก็เป็นชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นบ่อยครั้งในวงสนทนา เพียงแต่ที่ผ่านมาผมไม่สนด้วยเหตุผล 2 เรื่อง คือ ราคาที่ยังมองว่าสูงไปหน่อย และดีไซน์ที่ยังไม่โดนเต็มๆ และยังคล้ายๆ กับ Microbrand ยี่ห้ออื่นๆแต่สำหรับ Lava ตอบโจทย์ 2 ข้อนี้ผมได้อย่างลงตัว

ในเรื่องของราคา ซึ่งถือว่าโอเคเลย เพราะถ้าเป็นรุ่นธรรมดาอย่าง LB111-113 นั้น ราคาเริ่มต้นเพียง 22,000 บาท ก่อนขยับขึ้นมาเป็น 25,000 บาทสำหรับรุ่น LB122 และ 27,000 บาท LB121 ที่ผมเลือก (แต่ผมได้มาราคา 25,000บาทเพราะเป็นช่วง Pre-Order) ทั้งที่ราคาเฉลี่ยของนาฬิกาจากค่ายนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 35,000 บาทอัพ ซึ่งถ้าให้เดาอาจจะเป็นเพราะการหันมาใช้กลไกของ Seiko อย่าง NH35 แทนที่จะเป็นกลไก ETA  เหมือนนาฬิการุ่นอื่นๆ ของค่ายนี้

Nethuns เป็น Microbrand ที่เกิดจากการรวมกันของกลุ่มคนที่ชื่นชอบนาฬิกา ซึ่งว่ากันว่าเคยทำงานและสร้างแบรนด์สัญชาติสวิสส์อย่าง Montres-Militaires มาก่อน โดย Nethuns เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เมื่อปี 2015  โดยในช่วงแรกเน้นการทำตลาดนาฬิกาบรอนซ์สัญชาติสวิสส์ออกมาขาย ก่อนที่จะเปิดทางเลือกใหม่ด้วนตัวเรือนสแตนเลสสตีล

สำหรับ Lava ถือเป็นคอลเล็กชั่นล่าสุด และถ้าให้ดูจากราคาที่ตั้งแล้วน่าจะถือว่าเป็น Entry-Level Model ของแบรนด์ก็ว่าได้ เพราะตั้งราคาอยู่ในระดับเลข 2 นำหน้า โดยทางเลือกของรุ่นย่อยจาก Lava มีเยอะมาก แต่ผมตั้งใจแน่วแน่ และตรงดิ่งไปที่ LB121 ที่เป็นหน้า Meteorite หรือหน้าปัดที่ผลิตจากหินอุกาบาต ด้วย 2 เหตุผล คือ ผมยังไม่เคยเห็นนาฬิกาที่มีราคาระดับหลักหมื่นมากับหน้าปัดแบบนี้ และข้อที่ 2 คือ ลวดลายบนหน้าปัดแบบนี้แต่ละเรือนจะแตกต่างกันออกไป จนเรียกได้ว่ามันแทบจะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละเรือนเลย

ส่วนการผลิตนั้นมีเพียง 99 เรือนเช่นเดียวกับ LB122 ที่เป็นหน้าปัดแบบสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจากการเปิดเผยของ Nethuns จนถึงตอนนี้มีการผลิตขายไปได้แล้ว 50 เรือน และถ้านับตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้ ก็ยังเหลืออีก 49 เรือนในโลกให้จับจองกัน

สิ่งที่ใน Nethuns Lava LB121 มีและดึงดูดเงินในกระเป๋าของผมออกไป นอกจากหน้าปัด Meteorite แล้ว อีกสิ่งคือ รูปทรงของเคสที่ออกแนว Turtle ซึ่งสารภาพเลยว่าผมค่อนข้างหลงรักนาฬิกาที่มีตัวเรือนแบบนี้ และถ้าเป็นพวกที่มีเม็ดมะยมอยู่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกาด้วยแล้วยิ่งโปรดเป็นพิเศษ

ประการต่อมาคือ Bezel ที่ผลิตจากบรอนซ์ และมี Insert ที่ผลิตเซรามิกอีกทั้งยังมาพร้อมกับการเคลือบสารเรืองแสงบนหลักตัวเลข แม้จะไม่ใช่ของใหม่อะไรสำหรับผมมันคือความพิเศษที่แทบจะหาไม่ค่อยเจอกับนาฬิกาในระดับหลักหมื่นจากพวกมีแบรนด์ แต่สำหรับ  Microbrand พวกเขามักจะจัดเต็มมาให้เสมอ

สำหรับตัวเรือนของ Nethuns Lava LB121 ผลิตจากบรอนซ์ที่มีส่วนผสมของทองแดงและดีบุกแบบ CuSn8 ซึ่งว่ากันว่ามีคุณภาพที่ค่อนข้างดีและสามารถทำให้เกิด Patina ค่อนข้างสวย และมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เอาเป็นว่าตอนที่แกะออกมาจากกล่องยังเงาทองเหลืองอร่ามอยู่เลย แต่พอใส่ไปไม่ถึงชั่วโมงจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ส่วนฝาหลังผลิตจากสแตนเลสสตีลปกติ โดยตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร แต่ด้วยการที่ Lug-to-Lug ยาวถึง 50.5 มิลลิเมตรอาจจะทำให้คนที่ข้อมือเล็กลำบากใจในการสวมใส่สักหน่อย เพราะอาจจะกางได้ โดยที่ความหนาในระดับ16.5 มิลลิเมตรนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะขอบ Bezel ที่ทำมาหนาเอาเรื่อง เพราะต้องรองรับกับกระจก Sapphire ที่มีความหนาในระดับ 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนใครที่ไม่ชอบให้มีอะไรมาถ่วงข้อมือ บอกได้คำเดียวว่าให้เมินนาฬิกาเรือนนี้ไปซะ เพราะว่ามันค่อนข้างหนักเอาเรื่อง ผมไม่ได้ชั่งมาว่าตัวเลขอยู่ที่เท่าไร แต่สำหรับผมเท่าที่ลองใส่ทั้งวันแล้วไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระบนข้อมือสักเท่าไร พอใส่ได้แบบสบายๆ

ขณะที่สายหนังติดมาจากโรงงานนั้น ทำออกมาให้สามารถกลับสวมได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ลวดลายกลับไม่ถูกใจผมสักเท่าไร ส่วนบัคเคิลแบบ Bronze ออกแบบให้บานออกคล้ายกับพวกหางปลาวาฬ บางคนอาจจะชอบ แต่ผมว่ามันใหญ่และเทอะทะไปหน่อย

กลไกเป็นของ Seiko ดังนั้นคุณมั่นใจได้ในเรื่องความทนทานเช่นเดียวกับการซ่อมบำรุงที่สบายกระเป๋า โดย Nethuns จับเอารุ่น NH35 หรือ 4R35 มาใช้แบบไม่ได้แปลงอะไร ดังนั้นจงอย่าตกใจที่พอคลายเกลียวเม็ดมะยมและดึงออกมาแก๊กแรกแล้วลองหมุนดูมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะจังหวะนั้นคือ การปรับ Date หรือวันที่ ซึ่งไม่มีผลอะไรกับตัวนาฬิกาเพราะว่ามันเป็นแบบ No Date ดังนั้นถ้าจะปรับเวลาก็ดึงไปที่แก๊กที่ 2  ได้เลย ส่วนการสำรองพลังงานของกลไกรุ่นนี้อยู่ที่ 41 ชั่วโมง โดยตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้ 500 เมตร และมีระบบ Helium Escape Valve อยู่ที่ฝั่งซ้ายของตัวนาฬิกา

มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนถามเหมือนกันนะว่าทำไมถึงซื้อนาฬิกาพวกนี้ในระดับราคาที่ถือว่าถอย Seiko Shogun ออกมาได้เรือนหนึ่งเลย คำตอบคงไม่มีอะไรมากไปกว่าถูกใจและชอบ เพราะผมอาจจะเป็นพวกที่แปลกสักหน่อยที่ซื้อนาฬิกาเพราะตัวเองชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ แถมส่วนใหญ่เป็นนาฬิการักเจ้าของ หรือถ้าจะขายต่อก็เลือดสาดและอาจจะต้องพาคนซื้อไปเลี้ยงข้าวฉลองด้วย

ความชอบคงเป็นคำตอบเดียวที่บอกได้ถึงเหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะผมคงทำใจไม่ได้ ถ้าต้องมีอะไรมาอยู่บนข้อมือโดยที่ตัวเองไม่ได้ชอบ แต่ต้องซื้อเพราะคนอื่นบอกว่าสวยและขายต่อราคาไม่ตก

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 45 มิลลิเมตร

Lug-to-Lug : 50.5 มิลลิเมตร

ความหนา : 16.5 มิลลิเมตร

ความกว้างขาสาย : 24 มิลลิเมตร

กระจก : Sapphire พร้อมเคลือบกันการสะท้อนแสง

ระดับการกันน้ำ  : 500 เมตร

กลไก : Seiko NH35 อัตโนมัติ

สำรองพลังงาน : 41 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม : 24 เม็ด

  • ประทับใจ : ดีไซน์ หน้าปัด Meteorite ขอบเซรามิกพร้อมเคลือบสารสะท้อนแสง
  • ไม่ประทับใจ : น้ำหนัก บัคเคิล  กระจกที่สูงเหนือขอบ Bezel อาจจะเสียหายได้หากแขนไปฟาดกับอะไร