Mido เขย่าตลาด Dress ครั้งใหม่ โดยคราวนี้จับเอาคอลเล็กชั่น Baroncelli มาเพิ่มความน่าสนใจในสไตล์ Big Date ซึ่งมีการเพิ่มช่องหน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมกลไก Caliber 80 ที่สำรองพลังงานถึง 80 ชั่วโมง และทางเลือกที่หลากหลายถึง 7 รุ่นย่อยด้วยกัน
Mido Baroncelli Big Date กับ 5 สิ่งที่น่าสนใจ
ปีที่ 100 ของ Mido ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเน้นกับความพิเศษในเรื่องของหน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่และแยกช่องอย่าง Big Dateเพราะถ้าลองไล่ดูจากนาฬิกาใหม่ๆ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปีนี้นั้นต่างก็ต้องมีเวอร์ชัน Big Date วางขายมาแล้วหลายรุ่น
อย่าง Commander ซึ่งกลายเป็นนาฬิกายอดฮิตในบ้านเรา เช่นเดียวกับของใหม่ล่าสุดอย่าง Baroncelli ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชัน Big Date ออกสู่ตลาด พร้อมความหรูหรา ความสวยแห่งดีไซน์ที่มักจะมีความเกี่ยวพันกับสถาปัตยกรรม และความคุ้มค่า
โอเค หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับ Baroncelli Big Date วันนี้ทาง Ana-Digi.com ก็เลยขอสรุปประเด็นที่น่าสนใจของเรือนเวลารุ่นนี้มาให้รับทราบกัน และนี่คือ Mido Baroncelli Big Date กับ 5 สิ่งที่น่าสนใจ
1.ดีไซน์ซึ่งมีที่มาและชื่อรุ่นที่คลาสสิค : สำหรับรุ่นใหม่ของ Baroncelli ถูกเกี่ยวพันกับการออกแบบของสถาปัตยกรรมอันสุดคลาสสิคเหมือนกับนาฬิกาหลายๆ รุ่น และคราวนี้เป็นอิทธิพลที่มาจาก Galleria Vittorio Emanuele II แห่งเมืองมิลานประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นศิลปในยุค Baroque ในสไตล์ Neclassic ที่เน้นความโค้งมนกลมกลืน และ Mido ได้นำเส้นสายที่มีความโค้งมนและมีความกลมกลืนต่อเนื่องกันมาใช้กับการออกแบบตัวเรือนของ Baroncelli นอกจากนั้น Baroncelli ถือเป็นนาฬิกาอีกรุ่นของ Mido ที่มีอายุตลาดยาวนาน เพราะทาง Mido เองใช้ชื่อนี้ในการทำตลาดมาตั้งแต่ปี 1976 และเพิ่มฉลองอายุครบรอบ 40 ปีไปเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมานี้เอง.
2.ขนาดพอเหมาะในสไตล์เดรสส์ : Baroncelli Big Date มากับ ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร หนา 10.38 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างขาสาย 20 มิลลิเมตร ตัวเรือนมีทั้งแบบสีเงิน และแบบทูโทนซึ่งผสมผสานระหว่างสีเงินของโลหะที่ผ่านการขัดแต่ง และการเคลือบ PVD สี Rose Gold ส่วนตัวสายจะเปลี่ยนเป็นสายหนังสีดำ พร้อมกับตัวล็อกสายแบบบานพับที่ผลิตจากสแตนเลสและเคลือบ PVD สี Rose Gold เหมือนกับตัวเรือน โดยตัวล็อกสายมีขนาดที่ไม่บางเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้สวมใส่
3.ความใส่ใจในรายละเอียด : ในรุ่นนี้ Mido สร้างสัมผัสแห่งความใส่ใจในการออกแบบและผลิตอย่างมาก ซึ่งเราจะเห็นได้จาก หน้าปัดที่มีรายละเอียดเป็นเม็ดเล็กๆ บนพื้นผิว หรือ Grain texture ถูกวางเอาไว้อยู่ใต้กระจกทรงโดมแบบ Sapphire ที่มีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงเอาไว้ทั้ง 2 ด้าน โดยเข็มนาทีและเข็มชั่วโมงถูกขัดแต่งอย่างพิถีพิถันใน 2 รูปแบบของการขัดแต่งบนเข็มเดียวกัน โดยด้านหนึ่งเป็นแบบขัดด้าน และอีกด้านหนึ่งเป็นแบบ Diamond-Cut ที่เน้นความเงางาม หรือขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีทองที่ถูกออกแบบให้เล่นระดับ 2 ชั้นดูมีมิติมากขึ้น รวมถึงการตกแต่งลวดลายบนชิ้นส่วนที่เป็นโรเตอร์ของกลไกให้มีลวดลายตามมาตรฐาน Geneva Stripe และมาพร้อมกับโลโก้ของ Mido
4.กำลังสำรองเหลือเฟือ : Mido ใช้กลไกอย่าง Caliber 80 ในนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งกลไกของ Mido รุ่นนี้อยู่บนพื้นฐานของกลไก ETA C07.651 ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมกับปรับแต่งในส่วนของวันที่ให้แสดงผลในรูปแบบเฉพาะตามสไตล์ Big Date ซึ่งมีการแยกส่วนตัวเลขทั้ง 2 หลักออกจากกัน พร้อมกับการเพิ่มระดับของกำลังสำรองของกลไกให้เพิ่มขึ้นเป็น 80 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการตกแต่งลวดลายบนชิ้นส่วนที่เป็นโรเตอร์ของกลไกให้มีลวดลายตามมาตรฐาน Geneva Stripe ส่วนในแง่ของความสามารถในการกันน้ำนั้น Mido Baroncelli Big Date สามารถกันน้ำได้ในระดับแรงดัน 3 บาร์ (30 เมตร/100 ฟุต)
5.ทางเลือกที่หลากหลาย : Mido ประเทศไทยเผยผ่านทางเว็บไซต์ของพวกเขาว่า Baroncelli Big Date จะมีขายด้วยกัน 7 รุ่น ซึ่งมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของสีสัน และสายที่มีทั้งแบบ Stainless Steel และสายหนังจระเข้ โดยตัวเรือนก็มีทั้งสีเงินธรรมดา และรุ่นที่เคลือบ PVD สี Rose Gold เพื่อความหรูหรา ส่วนราคาก็เริ่มต้นที่ 31,000 บาทในรุ่นตัวเรือนเงินสายหนัง ไปจนถึงรุ่นแพงสุดซึ่งอยู่ที่ 37,900 บาท
รายละเอียดทางด้านเทคนิค M027.426.22.018.00 + M027.426.36.018.00
กลไก : กลไกอัตโนมัติ Mido Caliber 80 (พื้นฐานจาก ETA C07.651) / ขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 29.40 มม. หนา 5.77 มม. มี 25 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / เมนสปริง ELINFLEX / บาลานซ์สปริง ELINCHRON II / เครื่องขัดแต่งสวยงามตามเกรดรุ่นย่อย Elabore / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido ฟังก์ชั่นทำงาน : บอกชั่วโมง นาที วินาที และช่องวันที่ขนาดใหญ่ แยก 2 ช่อง / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรอง 80 ชั่วโมง
ตัวเรือน : M027.426.22.018.00:ทู-โทน ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล 316Lแบบขัดเงา เคลือบ PVD สีโรส-โกลด์ที่ขอบตัวเรือน และเม็ดมะยม
M027.426.36.018.00 : ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล 316Lแบบขัดเงา เคลือบ PVD สีโรส-โกลด์ที่เม็ดมะยม
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มม. / ประกอบด้วย 3 ชิ้นส่วน / กระจก Sapphire Crystal แบบโดม พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนที่ 2 ฝั่ง / ฝาหลังใสพร้อมกระจก Sapphire Crystal สามารถมองเห็นกลไกที่ผ่านการขัดแต่ง / สลักหมายเลข Serial Number / กันน้ำถึงระดับ 3 บาร์ (30 เมตร / 100 ฟุต)
สาย : M027.426.22.018.00 : สายสแตนเลสสตีล 316L แบบขัดเงาทู-โทน และมีการเคลือบ PVD สีโรส-โกลด์ที่ข้อต่อตรงกลาง และบานพับที่ผลิตจากสแตนเลส
M027.426.36.018.00:สายหนังจระเข้ มีการพับขอบ พร้อมบานพับผลิตจากสแตนเลสสตีล
หน้าปัด : หน้าปัดสีขาวมีรายละเอียดเป็นเม็ดเล็กๆ บนพื้นผิว / หลักชั่วโมงแบบขัดเงา / ช่องหน้าต่างของวันที่มีขนาดใหญ่และแยจากกัน ติดตั้งอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา
เข็ม : เข็มชั่วโมงและนาทีเป็นแบบตกแต่งด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกัน (ด้านหนึ่งแบบขัดด้าน ส่วนอีกด้านแบบขัดเงา Diamond-Cut) ส่วนเข็มวินาทีเป็นแบบขัดเงา Diamond-Cut
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
