Maurice Lacroix Only Watch 2023 ความงามแห่งประกายสีรุ้ง

0

ความงดงามในการสร้างสรรค์ของ Maurice Lacroix เพื่อส่งเข้าร่วมงาน Only Watch 2023 ตัวเรือนผลิตจากแซฟไฟร์ พร้อมการสร้าวสีสันผ่านทางชิ้นส่วนของกลไกที่อยู่ข้างใน และมีเพียงเรือนเดียวที่จะถูกส่งเข้าร่วมงานในปีนี้ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

- Advertisement -

Maurice Lacroix Only Watch 2023

Maurice Lacroix Only Watch 2023 ความงามแห่งประกายสีรุ้ง

  • นาฬิการุ่นใหม่ที่ Maurice Lacroix ผลิตเพื่อเข้าร่วมงานประมูล Only Watch 2023

  • ตัวเรือนผลิตจากแซฟไฟร์ พร้อมการสร้าวสีสันผ่านทางชิ้นส่วนของกลไกที่อยู่ข้างใน

  • มีเพียงเรือนเดียวที่จะถูกส่งเข้าร่วมงานในปีนี้ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

Maurice Lacroix ถือเป็นขาประจำในการส่งนาฬิกาเข้าร่วมงาน Only Watch นับตั้งแต่เริ่มจัดงานมาในปี 2009 และในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเปิดตัวนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่มีชื่อว่า Maurice Lacroix Only Watch 2023 ออกมา พร้อมกับความโดดเด่นของตัวเรือนที่ผลิตจากแซฟไฟร์ และกลไกแบบสเกลเลตันที่สามารถส่องประกายสีรุ้งออกมาอย่างสวยงาม

Only Watch เปรียบเสมือนเวทียอดนิยมซึ่งพิสูจน์ถึงการบ่มเพาะแนวความคิดสร้างสรรค์ชั้นเลิศ อีกทั้งยังเป็นห้องทดลอง ที่ซึ่งนวัตกรรมวัสดุและเทคนิคใหม่ๆ ได้ถูกคิดค้นและเผยโฉมขึ้นเป็นครั้งแรก ขณะที่หลายครั้งยังเป็นดั่งจุดเริ่มต้นนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายในท้ายที่สุดอีกด้วย

ดังนั้น Maurice Lacroix จึงได้ร่วมสนับสนุนมาอย่างยาวนานในงานการประมูล Only Watch พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าร่วมในปี 2009 เพื่อให้บรรดาทีมงานของแบรนด์ได้ปลดปล่อยพลังแห่งความคิดออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อนำองค์ความรู้ และความคิดเห็นที่เกิดขึ้นจากงานมาต่อยอดและสร้างสรรค์เรือนเวลาที่เป็น Production Line ของแบรนด์

Maurice Lacroix Only Watch 2023

โดย Only Watch คืองานประมูลนาฬิกาหรู ที่แต่ละแบรนด์ผู้ผลิตต่างรังสรรค์ผลงานขึ้นพิเศษเพียงเรือนเดียวเพื่อเข้าร่วมงานประมูลที่จัดขึ้นทุกๆ สองปี เพื่อสมทบและสนับสนุนงานวิจัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงดูเชนน์ (Duchenne Muscular Dystrophy)

สำหรับในปีนี้ ทางแบรนด์พร้อมหวนคืนสู่เวทีประมูลด้วยผลงานสร้างสรรค์อันโดดเด่นน่าทึ่งซึ่งบรรจุอยู่ภายใต้ความอัศจรรย์ของตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรที่ผลิตจากแซฟไฟร์เป็นครั้งแรกของเมซง (Maison) เพื่อแสดงให้เห็นว่าทางแบรนด์ก็มีความสนใจในด้านวัสดุศาสตร์ที่นอกเหนือจากวัสดุที่เราคุ้นเคยอย่างสแตนเลสสตีล ไทเทเนียม หรือบรอนซ์

การใช้วัสดุซึ่งมีความโปร่งใสนในนาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่การผลิตตัวเรือนเท่านั้น ยังรวมถึงขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมอีกด้วย พร้อมผ่านการขัดแต่งและเจียระไนอย่างสวยงาม โดยที่มีความแข็งในระดับ 9 ของ Mohs Scale ซึ่งเป็นรองเพียงแค่เพชรเท่านั้น…นี่คือ คุณสมบัติพิเศษข้อแรกของนาฬิกา Only Watch จาก Maurive Lacroix

Maurice Lacroix Only Watch 2023

แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือ ความงามที่ถูกผสมผสานจากเทคนิคขั้นสูงในการผลิตนาฬิกา กับหัวใจแห่งกลไกจักรกลไขลานด้วยมือที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง

กลไกแบบสเกเลตัน (skeleton) ซึ่งเป็นกลไกจักรกลไขลานด้วยมือผลิตภายในโรงงานของตนเอง คาลิเบอร์ เอ็มแอล330 (Manufacture Calibre ML330) โดยมอบภาพการมองเห็นได้ทั้งจากด้านหน้าสู่ด้านหลังของเรือนเวลา ผลลัพธ์แห่งงานออกแบบนี้ยังช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถชื่นชมความซับซ้อนของชิ้นส่วนประกอบต่างๆ มากมายของกลไก ที่โดยปกติแล้วมักจะถูกซ่อนจากการมองเห็น ทั้งยังได้ชื่นชมจังหวะอันเต้นระรัวด้วยชีพจรการทำงานของจักรกลราวกับมีชีวิต

Maurice Lacroix Only Watch 2023

ดังนั้นเมื่อบวกกับการเลือกใช้สีสันเพื่อสร้างความโดดเด่นด้วยแล้ว ตรงนี้ทำให้ตัวนาฬิกาสามารถสะกดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องได้เป็นอย่างดี โดยทีมงานของ Maurice Lacroix เลือกใช้กับธีมสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลก วิกตอร์ วาซาเรอลี (Victor Vasarely)

นอกจากนั้น Only Watch ร้องขอให้แบรนด์นาฬิกาต่างๆ ที่เข้าร่วมในงานประมูลนั้นนำเสนอผลงานเฉพาะหนึ่งเดียวของตนภายใต้ธีมสีเฉพาะเดียวกัน และในปีนี้ เราจึงได้เห็นการบรรจบกันของเฉดของสีน้ำเงิน สีแดง สีส้ม และสีเขียว เพื่อสร้างสรรค์เป็นธีมสีรุ้งอันสดใส โดย Maurice Lacroix ได้นำเฉดสีเหล่านี้มาตีความใหม่ผ่านแท่นเครื่องกลไกอันสวยงามของนาฬิกา

Maurice Lacroix Only Watch 2023

ส่วนการแสดงเวลาชั่วโมงและนาทียังคงนำเสนอในแบบเยื้องศูนย์กลางบนหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ พร้อมด้วยลวดลายซันเรย์ (sunray) ขณะที่ชื่อ Maurice Lacroix พร้อมด้วยโลโก้ M ถูกจัดวางไว้​ใกล้กับหลักชั่วโมง (Index)  ทั้ง 12 ตำแหน่ง และเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova)

เพื่อการอ่านค่าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เครื่องหมายอินเด็กซ์แต่ละชิ้นยังมีเหลือบสีแตกต่างกัน และเป็นอีกครั้งที่สะท้อนถึงธีมสีรุ้งของงาน Only Watch ในปีนี้ พร้อมทั้งจัดวางอย่างสมดุลด้วยการแสดงวินาทีบนหน้าปัดเล็กบริเวณใต้หน้าปัดแบบเยื้องศูนย์ ซึ่งนับเป็นการเล่นกับมิติมุมมองใหม่ๆ รวมถึงผสมผสานอย่างลงตัวเข้ากับความเย้ายวนใจแห่งภาพภายในนาฬิการุ่นพิเศษนี้โดยเฉพาะ

และนี่คืออีกครั้งที่ Maurice Lacroix ได้นำเสนอองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ของตนเองผ่านทางนาฬิกาสุดพิเศษเรือนนี้ ซึ่งพวกเขาทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ และสามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี