Hublot loves Daniel Arsham ! เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่

0

เพื่อเป็นการฉลองจุดเริ่มต้นแห่งความร่วมมือ Daniel Arsham (แดเนียล อาร์แชม) ได้สร้างสรรค์งานศิลปะจัดวาง หรืออินสตอลเลชันอาร์ตในรูปแบบนาฬิกาแดด ขนาด 20 เมตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Hublot (อูโบลท์) โดยติดตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของผืนหิมะแห่ง Zermatt (เซอร์แมท) ใน Schwarzsee (ชวาร์ซี) ณ ระดับความสูง 2583เมตร

Hublot loves Daniel Arsham
Hublot loves Daniel Arsham !

Hublot loves Daniel Arsham ! เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่

- Advertisement -

ช่างผู้ผลิตนาฬิกาสวิสยังคงเดินหน้าแสวงหาซึ่งความเป็นที่หนึ่งและแตกต่าง โดยการประกาศต้อนรับศิลปินร่วมสมัยชาวอเมริกัน Daniel Arsham ผู้ทำงานอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ Daniel เป็นที่รู้จักจากผลงานอันเปี่ยมด้วยพลังของเขา

ซึ่งครอบคลุมทั้งสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะจัดวางหรือ อินสตอลเลชัน (installation) และภาพยนตร์ โดยเขามักสำรวจถึงแนวคิดของเวลาผ่านผลงานทางศิลปะของเขาเองเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านซีรีส์ผลงานอันโด่งดัง อย่าง Connecting Time (คอนเน็คติ้ง ไทม์) และ Hourglass (อาวร์กลาส) ที่เป็นไอคอนิกของเขา

Hublot loves Daniel Arsham
Hublot loves Daniel Arsham !

เพื่อเริ่มต้นความร่วมมือครั้งใหม่และเพื่อเฉลิมฉลองความเชื่อมโยงอันเป็นนิรันดร์ระหว่างการประดิษฐ์นาฬิกา ศิลปะ และงานหัตถศิลป์ Daniel ได้เผยโฉมนาฬิกาแดด ขนาด 20 เมตร ขึ้นท่ามกลางภูมิทัศน์แห่งผืนหิมะของรีสอร์ทแห่งเทือกเขาสวิสอย่าง Zermatt และภายใต้เงาแสงของ Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ยอดเขาอันเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีแห่ง Swiss Alps (สวิสแอลป์)

โดยศิลปะจัดวางแบบชั่วคราวนี้มีชื่อว่า Light & Time (ไลท์ แอนด์ ไทม์) โดยใช้องค์ประกอบทางธรรมชาติเพื่อหลอมรวมรากเหง้าต่างๆ ของการแสดงเวลามาผสมผสานเข้ากับงานฝีมือภายใต้ศิลปะแห่งพรมแดน

โดยศิลปะจัดวางที่มีฟังก์ชันของการวัดเวลากลางแจ้งนี้มีพื้นฐานมาจากแสงเงาที่ทอดผ่านอนุสาวรีย์แท่งหินสูงรูปทรงผลึกควอตซ์ ซึ่งเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนโคจรในหนึ่งวัน แสงเงาที่ทอดผ่านโดยตัวชี้กลางจะทำหน้าที่แสดงเวลาบนหิมะซึ่งคราดรอยไว้ Arsham ยังได้ผสมผสานระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันในการสร้างสรรค์นาฬิกาแดดจากองค์ประกอบทางธรรมชาติของ Swiss Alps

โดยวิธีการนี้ หิมะและแสงได้หล่อหลอมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมโยงจักรวาลแห่งผลึกและแสงของเขาเข้ากับมรดกและประวัติศาสตร์แห่งงานหัตถศิลป์การประดิษฐ์นาฬิกาของ Hublot นาฬิกาแดดนี้ยังได้ร่วมสะท้อนถึงภาษาการออกแบบของ Hublot และการผสมผสานสัญลักษณ์ต่างๆ ที่คุ้นเคย อาทิ สกรูอันโด่งดังซึ่งทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนของนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง)

โดยศิลปะอินสตอลเลชันนี้ยังมาพร้อมกับความพิเศษเหนือความคาดหมาย จากการที่จะสามารถมองเห็นได้เพียงเฉพาะจากยอดเขาเท่านั้น และเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ ผู้ที่หลงใหลในศิลปะจะต้องใช้ลิฟต์สกีของ Zermatt เพื่อร่วมชื่นชมศิลปะชิ้นนี้

Hublot loves Daniel Arsham

Hublot loves Daniel Arsham

“ผมได้เฝ้าดู Hublot และโปรเจกต์ต่างๆ ที่แบรนด์ให้การสนับสนุนโลกแห่งศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา และชื่นชมในในความกล้าหาญแห่งการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกา การออกแบบ และงานฝีมือ The Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ถือเป็นหนึ่งในโปรเจกต์อันชาญฉลาดที่สุดของการประดิษฐ์นาฬิกา

ผมรักในแนวคิดการรังสรรค์ของ Hublot รวมถึงอิทธิพลและวัสดุที่นำมาใช้ร่วมกันในการสร้างรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Hublot Family (ครอบครัวอูโบลท์) และผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับโปรเจกต์นาฬิกาแดด Hublot x Daniel Arsham ใน Zermatt นี้

ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ศิลปะอินสตอลเลชันร่วมสมัยนี้จะจับซึ่งบางสิ่งของชั่วขณะเวลาที่ผ่านไปที่เราเองสามารถรู้สึกและรับรู้ได้ แต่มันก็ยังคงอยู่อย่างเหนือกาลเวลา และสร้างซึ่งความทรงจำที่ส่งทอดผ่านการเดินทางของวินาที นาที ชั่วโมง และวันต่างๆ สำหรับผู้คนทึ่เดินหน้าขึ้นสู่ขุนเขาเพื่อชื่นชมมัน”  Daniel Arsham (แดเนียล อาร์แชม) แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Hublot กล่าว

Hublot loves Daniel Arsham

ปีนี้ถือเป็นปีสำคัญสำหรับ Daniel โดยเป็นการครบรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้รับรางวัล Gelman Trust Fellowship Award (เกลแมน ทรัสต์ เฟลโลว์ชิพ อวอร์ด) และชนะรางวัลอันทรงเกียรติ GNMH Award (จีเอ็นเอ็มเอช อวอร์ด)

ซึ่งทำให้เขาเป็นที่สนใจในโลกแห่งศิลปะ นับตั้งแต่นั้นมา Daniel ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลสูงสุดและเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัย Cooper Union (คูเปอร์ ยูเนียน) ในนิวยอร์ก และได้จัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งใน นิวยอร์ก ปารีส โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ลอสแอนเจลิส และลอนดอน รวมถึงได้รับการยกย่องจากผู้ร่วมงานในอดีตของเขามากมาย

อาทิ แฟชั่นดีไซเนอร์ Hedi Slimane (เอดี สลิมาน), ผู้อำนวยการศิลป์ของ Dior (ดิออร์) อย่าง Kim Jones (คิม โจนส์), Porsche (ปอร์เช่) และ Pokémon (โปเกมอน) งานของเขาเป็นที่รู้จักและในหมู่นักวิจารณ์ยังได้อธิบายไว้ว่าเป็นเสมือน ‘โบราณคดีร่วมสมัยแห่งตำนาน’ ที่ซึ่งเขาได้ใช้รูปทรงอันคุ้นเคย และปรับแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงเหล่านั้นขึ้นมาใหม่

Hublot loves Daniel Arsham

“เราหวังมาเสมอว่าวันนี้จะมาถึง! Daniel Arsham เป็นหนึ่งในผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์อันน่าตื่นเต้นที่สุดแห่งโลกศิลปะร่วมสมัยในวันนี้ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับเขาเข้าสู่ Hublot Family ในฐานะ Hublot Ambassador ด้วยผลงานอันน่าทึ่ง น่าตื่นเต้น และกล้าหาญของเขานั้น

ถือเป็นการจับคู่อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ Hublot และเข้าถึงซึ่งจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์นาฬิกาของเรา นั่นคือ การเป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่านี่จะกลายเป็นความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยประสิทธิผลอันยิ่งใหญ่ และเราไม่อาจอดใจรอที่จะได้สำรวจอนาคตร่วมไปกับ Daniel พร้อม Hublot และแฟนๆ ที่รักศิลปะ” Ricardo Guadalupe CEO ของ Hublot กล่าว

Hublot loves Daniel Arsham Hublot loves Daniel Arsham Hublot loves Daniel Arsham

Zermatt เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเปิดโลกแห่งความร่วมมือกันกับ Daniel เพราะเป็นเมืองของ Hublot! อย่างแท้จริง ด้วยเอกลักษณ์ของแผงไม้สไตล์ชาเลต์ของ Hublot Boutique Zermatt (อูโบลท์ บูติก เซอร์แมท) บรรยากาศอบอุ่น

ในขณะที่รีสอร์ทแห่งนี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของ Hublot และบอกเวลาด้วยนาฬิกาคล็อก Hublot และผู้มาเยือนยังสามารถใช้ลิฟต์เก้าอี้ความเร็วสูง Hublot-Express (อูโบลท์-เอ็กซ์เพรส) เพื่อไต่ระดับความสูง 954 เมตรขึ้นสู่สถานียอดเขา รวมถึงโอกาสอีกสี่ครั้ง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 ที่ Hublot ได้เปิดตัวแนะนำนาฬิการุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด เพื่อร่วมฉลองสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ที่เชื่อมโยงระหว่าง Hublot และ Zermatt ไว้ด้วยกัน

Hublot loves Daniel Arsham
Hublot loves Daniel Arsham !

Hublot loves Daniel Arsham

นอกจากนี้ ความเชื่อมโยงของ Hublot กับโลกแห่งศิลปะนั้นก็หยั่งรากลึกด้วยเช่นกัน โดยในปี ค.ศ. 2021 ทางแบรนด์ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของ ‘Hublot Loves Art’ และ Daniel Arsham ก็ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน Hublot Family จากการเป็น Ambassadors ตัวแทนแห่งโลกแห่งศิลปะและดนตรี

ร่วมไปกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกมากมาย อาทิ Richard Orlinski (ริชาร์ด ออร์ลินสกี), Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ), Maxime Plescia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี), Lang Lang (หลาง หล่าง) และ Samuel Ross (ซามูเอล รอสส์)